ThaiSEOBoard.com

     เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ซื้อแว่นตาแบรนด์เนมจากเว็บ เว็บนึง แล้วปรากฎว่าแว่นที่ได้รับมีตำหนิ

ทันทีที่เห็นตำหนิก็ได้มีการแจ้งให้ร้านค้ารับทราบ และสอบถามว่าส่งอันใหม่มาเปลี่ยนได้ไหม เพราะแว่นที่สั่งมาก็ถูกใจเป็นทรงและสีที่อยากได้

บทสนทนาครั้งที่ 1

เรา.........น้องค่ะแว่นที่พี่ได้รับมีตำหนิค่ะ พร้อมอธิบายตำหนิของแว่นให้เค้ารู้

ร้านน้องเค้า...เดี่ยวพี่ส่งแว่นกลับมานะคะ เดี๋ยวร้านจะคืนเงินให้

เรา.........ส่งอันใหม่มาเปลี่ยนให้ได้ไหมค่ะ เพราะพี่ไม่อยากได้เงินคืนหรอก ( เกรงใจที่ต้องโอนเงินคืนกลับมาเพราะเค้าได้ขายของแล้ว เราก็เป็นแม่ค้านะก็เข้าใจ )

ร้านน้องเค้า...อธิบายว่าสีนี้หมดค่ะ มีสีนั้น บลาๆๆๆๆๆ

เรา........อืมวันนี้พี่ยังไม่ว่าง เดี๋ยวพี่ดูหน้าเว็บแล้วสั่งอันใหม่แทนมาแล้วกันนะคะ  แล้วจบบทสนทนาของวันแรกไป


     แต่ด้วยความที่ว่าเราติดธุระด่วนอยู่เลยขาดการติดต่อไป 2 วัน


บทสนทนาครั้งที่ 2

เรา........สวัสดีค่ะ จำพี่ได้ไหม ที่โทรมาบอกเรื่องแว่นชำรุดอะค่ะ

ร้านน้องเค้า...อ่อค่ะ เดี๋ยววันสองวันนี้ ร้านจะมีลงแบบใหม่

เรา........โอเคค่ะ เดี๋ยวพี่จะเลือกแบบใหม่ แล้วน้องส่งมาแทนอันนี้แล้วกันนะคะ อ่อแล้วค่าส่งของคืนนี้ทางร้านออกให้ด้วยไหมค่ะ

ร้านน้องเค้า...อืม เดี่ยวเราออกให้ และคืนเงินค่าแว่นด้วย ( เสียงเปลี่ยนจากเดิมชัดเจน บ่งบอกถึงอาการไม่พอใจ )

เรา........น้องไม่ต้องโอนเงินมาให้พี่หรอก เดี๋ยวพี่สั่งของใหม่ไปแล้วหักยอดนี้ออกก็ได้ ( ส่วนตัวคิดว่าจะสั่งรองเท้าเพิ่มมาใส่ขับรถอีกสักคู่ )

ร้านน้องเค้า...ไม่ดีกว่าค่ะพี่ เดี๋ยวโอนเงินคืนไปเลย แล้วพี่จะมาซื้อ หรือไม่ซื้อก็เป็นอีกเรื่องนึง ขี้เกียจมานั่งจำว่าต้องหักนั้น หักนี้

เรา.........อึ้ง และตัดบทจบทันที เพราะไม่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไหร่


     เท่าที่เราจับใจความได้คือ น้องเค้าไม่พอใจที่เราถามเรื่องค่าส่งของคืนทางร้านจะรับผิดชอบให้รึเปล่า ส่วนตัวเราก็เป็นแม่ค้าเหมือนกัน

ถ้าลูกค้าได้รับของที่มีตำหนิ หรือผิดพลาดเพราะเราเป็นคนผิด ในส่วนนี้เราจะ support ให้ทั้งหมด ทั้งค่าส่งคืน และค่าส่งกลับไปให้ใหม่ เพราะเคสนี้เราเคยเจอมาแล้ว


     แล้วถ้าเพื่อนๆ ที่เป็นพ่อค้า แม่ค้าเจอสถานะการณ์แบบนี้คุณจะตัดสินใจทำยังไง  ความรู้สึกเราต่อร้านนี้คือไม่ส่งของคืน และไม่รับเงินคืนหรอกนะคะ

เสียเวลาที่จะต้องคุยกันต่อให้เสียความรู้สึก  และก็จะไม่ซื้อของจากร้านนี้อีก เท่ากับร้านเค้าก็ได้เสียลูกค้าที่ดีอย่างเราไปแล้ว 1 คน

 :wanwan004:  ไม่ดีเหรอครับที่คืนเงินให้อีก นาน ๆ จะเจอร้านค้าอะไรใจดีอย่างงี้

ขอให้ได้เงินคืนก่อนและกันครับ :wanwan003:

ร้านไหนอะ? :wanwan009: :wanwan009:

ผมจะเกรงใจลูกค้าที่ไม่รับเงินคืนมากๆ เพราะรู้สึกว่าเค้ามั่นใจในตัวเราและเว็ปของเราเป็นอย่างสูง เค้าอยากได้อะไรจะเอาอะไรที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ผมให้ได้หมดอะคับ เพื่ออนาคตทางการค้าที่ดี ลูกค้าดีๆ ไม่ได้หาง่ายๆ ส่วนลูกค้าร้ายๆก้อมีใช่ว่าจะมีน้อย เจอดีๆ ก้อควร Support ให้เต็มที่เพื่อออเดอร์รอบต่อไป อย่างน้อยเงินเค้าก้ออยู่ที่เรา ของที่เค้าได้มันก้อชำรุดจะมากน้อยก้อตาม แต่เค้าก้อยินดีที่จะไม่รับเงิน และซื้อของอย่างอื่นจากเว็ปเราแทน แค่นี้ ก้อซึ้งใจกันแล้วคับ

ทำการค้า อย่าหยิ่ง ถ้าไม่จำเป็น (จิงๆมันไม่จำเป็นหรอก) :wanwan012:

ไม่ว่าจะยังไง ลูกค้า ก็สำคัญเสมอ

ทางร้านค้า ผิดพลาดครับ
ทำให้ต้องเสียลูกค้าไปอีกหนึ่งราย

 :wanwan011:   ช่วงนี้เขาอาจจะรมบ่จอย

   เราอาจจะเ่ล่าผิดพลาดไปค่ะ คือเราเป็นคนซื้อแว่นจากร้านนึงในเว็บค่ะ แต่แว่นที่เราได้มีตำหนิ

แต่ความรู้สึกส่วนตัวคือไม่อยากคุยกับแม่ค้าร้านนี้ให้เสียความรู้สึกเราอีก   ก็เลยตัดปัญหาว่าไม่ส่งของคืนเค้า และก็ไม่รับเงินคืนค่ะ

คือหยุดการติดต่อไปเลยค่ะ

 :wanwan044: ปรกติจะไม่คุยเรื่องค่าส่งนะครับ เหมือนเวลาเราคืนของ เรายังเดินทางไปคืนถึงร้านเลยนี่ครับ

ถ้าท่านไปชื้อของเอง ตอนไปชื้อ ต้องเสียค่ารถไปเอง

ถ้าของเอากลับมาแล้วใช้ไม่ดี เอาไปเครมที่ร้าน ค่าเดินทางไปที่ร้าน ก็ต้องเสียเองครับ

ยังไม่เคยมีร้านไหน หรือ บริษัท มาตฐานสากล ไดๆ ออกกฏว่า ถ้าของไม่ดีแล้วเอามาเครมจะออกค่าเดินทางให้  :wanwan003:

ผมว่าร้านค้าเค้าก็มีความรับผิดชอบดีเหมือนกันนะครับ
ส่วนเรื่องคำพูดคำจา ไม่รู้ฮะ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ
จากที่อ่าน ผมถือว่าทางร้านรับผิดชอบได้ดีในระดับหนึ่งครับ
 :P :P :P

เราเป็นพ่อค้าเราก็เคย เราให้ลูกค้าส่งกลับแล้วเราก็โอนเงินคืนไป เราให้ค่าส่งกลับและค่าโอนต่างธนาคารให้ลูกค้าด้วย

ร้านค้ารับผิดชอบอย่างดีแล้ว

รับเงินคืน ลองหาร้านใหม่ดูค่ะ

 :wanwan044:

ต้องเข้าใจร้านด้วยนะครับ เวลาซื้อก็คือ 1 บิล จะมาหักอะไร หักนู่นหักนี่ มันลำบากครับ

ต้องมานั่งคิด นั่งปรับบิล นั่งทำยอดใหม่ เยอะครับ

คือเงินไปก็จบไป 1 กรณี ตัดบิลทิ้งจบ แล้วท่านจะค่อยซื้อใหม่หรือยังไงก็ทำรายการใหม่ สะดวกและง่ายทั้ง 2 ฝ่ายครับ

ส่วนค่าส่งผมว่ามันก็เป็นเรื่องนิดๆไม่กี่บาท ไม่น่าถามครับ  :wanwan017:

ส่งของกลับ รับเงินคืนน่าจะดีทั้งสองฝ่ายครับ

ทางร้านก็เคยแบบส่งของผิดไปนะ สิ่งที่ทำคือส่งของที่เค้าต้องการไปให้ ส่วนของที่ส่งไปผิดถ้ามันไม่ทำให้เราเดือดร้อนจนเกินไปก็จะให้ลูกค้าไปเลยจ้า แต่ถ้าราคามันสูงก็จะขอคืนคะ พูดจาดี ๆ และที่สำคัญจากปัญหาที่ว่ามาคืนแม่ค้าไม่ได้แจ้งลูกค้าก่อนว่าของไม่มีดันส่งของที่เค้าไม่ได้เลือกไปให้อันนี้ก็ผิดอยู่แล้ว เป็นใคร ๆ จะรับ ยกตัวอย่างไปร้านอาหาร สั่งราดหน้า แต่ดังไม่มีเส้น ทางร้านดันทำข้าวผัดมาให้แล้วบอกว่าเส้นหมดเป็นคุณ คุณจะรับไหม ..ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วทางร้านก็จะเดินมาถาม "พี่คะพอดีเส้นหมดจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ดีไหมคะ" อะไรก็ว่าไป  แต่นี่เล่นมัดมือชก ของขาดก็โทรไปหาลูกค้าสิครับ หรือถ้าเค้าไม่ผลิดแล้วก็บอกไปโอนเงินคืนไป น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า "แม่ค้าถ้าเห็นแก่เงิน" มันก็อยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้า "มองถึงหัวใจลูกค้า" มันกินกันไปนาน ๆ ครับ

ฟังดูก็ไม่ได้เลวร้ายมากมายนะครับ อาจจะเพราะน้ำเสียงก็เลยทำให้เคืองกัน แต่ก็เสียลูกค้าแล้ว  :P

นี่คืออีกเหตุหนึ่งที่ไม่อยากซื้อของผ่านเน็ต ม่ามาเยอะ โกงแยะ

ถ้าง่ายๆก็หักยอดกันไปเลย  และหากต้องการสินค้าใหม่ก็ต้องโอนเงินเพิ่ม  ตามปกติถ้าเป็นบริษัททำแบบนี้เขาจะบังคับให้ซื้อสินค้าที่มีราคาสุงกว่าอยู่แล้ว  เขาไม่คืนส่วนต่างให้แน่นอนหากสินค้าทีีจะซื้อใหม่มีราคาที่ต่ำกว่าสินค้าตัวเดิม 
เพราะ ถ้าจะให้โอนเงินกลับมันมีค่าใช้จ่ายในการโอนเงินยิ่งต่างธนาคาร ต่างจังหวัดอีก ยุ่งยาก เสียค่าธรรมเนียมบานเลย ต้องเห็นใจคนซื้อด้วยว่าเขามีภาระค่าธรรมเนียมโอนเงิน 
แต่ถ้าอยุ่ในจังหวัดเดียวกัน และธนาคารเดียวกันไม่มีปัญหาหรอก 

จากที่เล่า ผมว่าจริงๆ ค่าส่งคืนของลูกค้าก็น่าจะรับผิดชอบนะ นอกจากว่าถ้าเป็นของใหญ่มากๆ เช่น ตู้เย็น หรืออะไรที่ค่าส่งเยอะๆ อันนี้ค่อยคุยกันอีกที เหมือนที่หลายๆ comment บอกครับ

ส่วนทางร้านก็ผิดที่คุมอารมณ์ไม่ได้ ดันตอบแบบเหน็บแนมไปซะก่อน ทำให้เสียลูกค้าไปอีก 1 ราย

 :P คงจะอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากต้องจ่ายค่าส่งให้มั้งครับ เพราะบางร้านก็ขายถูกอยู่แล้ว

ถ้าต้องเสียอะไรเพิ่มก็....ขาดทุนครับ

ก็ดีนะครับ ถ้าเราคืนของ แล้วเขาคืนเงิน มันก็จบ
แล้วเราค่อยสั่งใหม่ก็ได้
แต่ค่าส่งตอนคืนของ ผมเคยซื้อน้ำหอม
เวลาคืนเราเสียเอง แล้วทางเขาจะส่งของอันใหม่มา
แต่จริง ๆ อันนี้ก็แล้วแต่ตกลงอ่ะนะ

ของเราตั้งกฏไว้คือถ้าส่งผิด ลูกค้าจะต้องสินค้ากลับมาเปลี่ยนแต่ค่าส่งลูกค้าต้องออกค่ะ (หลายร้านๆก็เป็นแบบนี้) แต่พอเราเปลี่ยนสินค้าที่ถูกต้อง ก็จะส่ง EMS และก็อาจจะมีของแถมเล็กๆน้อยแทนคำขอโทษ

แต่ในอันนี้แม่ค้าผิดเต็มๆ ถ้ามาด้วยน้ำเสียงอย่างเดียว พอมองโลกในแง่บวกได้ แต่นี่ประชดอีกตะหาก เป็นเราก็คงลาขาด เราแนะนำจขกท.ว่าอย่าปล่อยเลย ส่งสินค้ากลับไป แล้วให้เขาโอนเงินคืนมาไม่ต้องซื้อหรือเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น

ใช้คำพูดผิดครับ

คืนเงินให้ก็ดีนะ เราว่า

 :wanwan019: :wanwan019: :wanwan019:

ร้านก็บริการดีแล้วนะผมว่า  :P

         ส่วนตัวผมคิด  ทั้งร้านค้าและคนซื้อ ไม่มีใครผิดครับ เพราะมองต่างมุม  คนซื้อเสียเงินไปแล้วก็อยากได้ของที่ดี มีคุณภาพ และไม่อยากเสียเงินอะไรเพิ่มอีก  เป็นปกติของทุกคน ส่วนคนขายเอง ก็ต้องการให้ลูกค้าประทับใจ และรับผิดชอบเปลี่ยนของให้ เพียงแต่ถ้ากำไรชิ้นของราคาไม่กี่บาท แล้วถ้าต้องมาเสียค่าขนส่งอีก ทำให้ขาดทุนในการทำการค้า ก็คงไม่อยากจะเสียในส่วนนี้ไปเหมือนกัน  ส่วนคำพูดของเจ้าของร้านที่พูดไป อาจจะพูดโดยไม่ได้ไตร่ตรองก่อน หรืออาจจะมีอารมณ์หน่อย นี้ละที่เขาว่า ก่อนจะพูดเราเป็นนาย แต่พูดไปแล้ว คำพูดกลายเป็นนายเรา  ถ้าเจ้าของร้านใช้เทคนิคในการพูดนิดหน่อย อธิบายให้คนซื้อเข้าใจถึงสาเหตุที่ให้คนซื้อช่วยออก ก็อาจจะไม่มีปัญหาในการซื้อขายกัน (ผิดพลาดขออภัย)

คืนของคืนเงิน แล้วสั่งใหม่ วินๆทั้งคู่ แต่นี่แม่ค้าใจร้อนไปหน่อยเสียดายลูกค้าน่ะ ช่วงนี้ยิ่งหายากอยู่ด้วย  :-[ :-[ :-[

ดีหรอครับ

ถ้าของไม่มีตำหนิ จะเกิดเหตุการณ์คืนของขึ้นไหม?

ผมเป็นลูกค้า เสียเวลานี่ก็อารมณ์เสียแล้วนะครับ

สมมุติคืนเงิน แต่ต้องคืนสินค้าไปให้ทางร้าน

ลูกค้าต้องเสียค่าส่ง EMS เอง ต่ำๆก็ 40 บาท

= นั่งอยู่เฉยๆ เสียตัง 40 บาท ของก็ไม่ได้ใช้


มันถุูกต้องแล้วหรอครับ

ปล.ตรรกะส่วนตัวครับ ถ้าผมเข้าใจผิดตรงไหน อธิบายด้วยครับผม  :wanwan016:

เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาเลย ถ้าคุยกันน้ำเสียงดีๆ ผมว่านะ  :wanwan013:

ผม จะพยายามคืนเงิน กับลูกค้าที่จุกจิก ประเภท รับของแล้ว คอมเม้นของเค้ แล้วาเราทำอะไรไม่ได้
เช่น ทำไมไม่สวยเลย ทำไมตรงนี้เป็นงี้ ตรงนั้นทำัมัยๆๆๆๆ แล้วเป็นปัญหาจากความพอใจส่วนตัว
อันนี้ ผมคืนเงินให้ แล้วไม่ต้องมาซื้อกับผมอีกนะ เอาไว้ไล่ลูกค้า

สำหรับ กรณี จขกท ผมถือว่า ยังมีความสนใจ หรือ พอใจ อยู่ ผมก้อดำเนินการให้นะ

   ด้วยความที่เราก็เป็นแม่ค้าเหมือนกัน ความคิดเห็นส่วนตัวคือ
ถ้าเป็นความผิดของทางร้าน ไม่ว่าจะส่งสินค้ามีตำหนิ หรือส่งสินค้าไปให้ผิด ลูกค้าก็ไม่ควรต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
ซึ่งหลักเกณฑ์นี้เราก็ใช้กับร้านของเราเองเหมือนกันค่ะ

    ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องการส่งของคืนเรามองว่ามันเป็นเหมือนการดูแลลูกค้ามากกว่า เพราะมันก็ถือเป็นยอดเงินที่เล็กน้อย ถ้าแลกกับความพึงพอใจของลูกค้า


    แต่อะไรก็ไ่ม่ร้ายเท่าน้ำเสียง และคำพูดที่ใช้กับลูกค้านี้แหละค่ะ สำคัญจริงๆ  แต่ก็เป็นข้อดีอย่างนึงที่เรามาเจอกับเหตุการณ์นี้ จะได้เอาไปปรับปรุงร้านตัวเองให้ดีขึ้น

ผมอ่านดู ผมว่า เจ้าของร้าน ก็ไม่ได้ทําอะไรผิดนะครับ

แต่ปกติ  ถ้า ส่งผิด ที่ผมเคยเจอ (เคยสั่งเสื้อ)

เค้าก็ให้เลือก 1. ส่งคืน   เอาเงินไป  2.ส่งคืน  เอาของใหม่

แต่ค่าส่งกลับ  เราก็ออกเองนะครับ ผมว่ามันเป็นเรื่อง  ปกติ มากๆ

มันก็เหมือน rep บนบอก  ไปซื้อของที่ห้าง ได้ของมีตําหนิ ไปบอกแม่ค้า ว่าขอค่ารถกลับบ้าน  ผมว่ามันตลก  :wanwan004:

ปล  ผมไม่ขอพูดเรื่องเสียงนะครับ  เพราะผมไม่ได้ยินด้วยตัวเอง  แต่บางที อาจจะคิดไปเองก็ได้นะครับ  การแบกรับเรื่องเสียง แต่ละคนไม่เหมือนกัน
เคยเจอไหม ซื้อของ บางร้าน เสียงมันอย่างนักเลง  แต่พอ คุยจริงๆ จะรู้ว่า  ใจดี

ประโยคบางประโยค คนบางคนอาจจะ sensitive เกินไปหรือป่าว  เช่นคําว่า  จ๊ะ  ผมใช้กับลูกค้าบางคนก็ ปกติ แต่บางคนก็ไม่พอใจ


ปล่อยวางครับ ชีวิต มีเรื่องให้คิดอีกเยอะ  รกสมองป่าวๆ


*-*  ค่าส่ง ไม่ถึง แสน ใช่ไหมครับ

เอาใจช่วยครับผม
 :wanwan003:

ขอให้ไดเเงนคืนมาก่อนละกันนะครับ

เอาเงินคืนมาอยู่ที่เราก่อนจะดีกว่านะครับ  โล่งใจดี   :P

มองว่าค่าส่งเป็นเรื่องของลูกค้าค่ะ  เราเคยซื้อส่งไปเปลี่ยนเราก็เสียค่าส่งเอง  ไม่น่าเอามาคิดเล็กคิดน้อย

เอิ่ม อารมณ์ประมานนี้ ผมว่าคนขายก็ไม่ผิดอะไรนะครับ

ไปซื้อของที่ห้าง กลับมาบ้านของมีตำหนิ คุณก้ต้องเสียค่ารถไปกลับที่ห้างเพื่อเปลี่ยนของ

เหมือนกันนั่นแหละครับ

กรณีแบบนี ศึกษาจาก ทั่วไปได้ครับ

อย่างเช่น ยกตัวอย่าง ตปท สินค้าค่าขนส่ง เราก็ออกเอง (ส่วนใหญ่ เกือบทั้งนั้น) และ พอจะส่งสินค้ากลับไป เพื่อเปลี่ยน หรือ ซ่อม ก็ต้องเสียค่าส่งไป กลับ ของเราเองด้วยอยู่ดี

คนขาย ก็ต้องมีส่วน ของ หน้า return goods , policy ต่างๆ แจงกำกับไว้ เพราะกรณีแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้ ไม่มากก็น้อยครับ

ทุกอย่าง ไม่ได้มีการคอนโทรล ได้สมบูรณ์หมด

เราว่าเค้าคงลูกค้าเยอะ ไม่มีอะไรจะจด มันก็อาจจะลืมได้

เรื่องออกค่าส่งส่วนใหญ่ถ้าเป็นความผิดของร้านก็น่าจะเป็นร้านออก

 

ตามเคสแบบนี้ ผมว่าทางร้านน่าจะออกค่าส่งคืนเพราะมันผิดที่ร้านไม่ดูของให้เรียบร้อยก่อนส่ง

ถ้าเป็นซื้อของจริงๆตามร้าน แล้วเอาไปคืนของ เราต้องออกค่ารถเองไรเองก็จริง เพราะก่อนซื้อเราเห็นชิ้นงานแล้วตรวจสภาพก่อนแล้ว ถ้าไม่อยากเสียค่าส่งคืนให้ลูกค้าก็น่าจะตรวจของให้ดีก่อน คุณภาพของการขายของออนไลน์ก็จะดีขึ้นด้วยคนก็ยิ่งอยากซื้อออนไลน์กันมากขึ้น

แต่นี่ออนไลน์ ถ้าของมีตำหนิ มันผิดมาจากทางร้านค้านะ ไม่ตรวจของให้ดีก่อนส่ง ลูกค้าไม่ได้เห็นชิ้นงานก่อน ถ้าเห็นว่ามีตำหนิคงไม่สั่งมาหรอก

ถูกต้องครับ ลูกค้าไม่เห็นสินค้าเหมือนไปซื้อที่ร้านเอง

จะรู้ได้ไงครับของมีตำหนิ ถ้ามีก็ไม่ซื้อหรอกครับ


 :wanwan044:

ง่ายๆเลยนะค่ะ กำไรมากหรือน้อยแค่นั่นเอง กำไรมาก ก็ cover ได้หมด จะให้ส่งไปส่งกลับกี่รอบก็ได้ถ้าเค้ายังกำไรอยู่ แต่ถ้ากำไรน้อยก็ต้องเห็นใจกันทั่ง 2 คน เดียวนี้ EMS มันแพงขึ้นเนอะ การคืนเงินอาจจะเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุดและขาดทุนน้อยที่สุดสำหรับ สินค้าที่กำไรไม่ได้เยอะมาก ส่งไป ส่งกลับ แล้วส่งไปใหม่ เราว่าร้านต้องโดนอย่างน้อยๆ 120 บาท  :P

ผมมีคำถามครับ

แล้วจะรุ้ได้ไง ว่า คนซื้อไม่โกง ทำให้มันมีตำหนิ แล้วอ้าง เพื่อเปลี่ยน เพราะอยากเปลี่ยนด้วยเหตุผลต่างๆ

เห็นด้วยเลยครับ  เคสนี้ไม่เหมือนซื้อของตามห้างที่ว่าลูกค้าต้องออกค่าเดินทางไปเปลี่ยนเอง

เพราะว่าเวลาไปซื้อของตามห้างลูกค้าต้องตรวจสอบสินค้าเองแล้วว่าไม่มีตำหนิถึงซื้อกลับ ถ้าอยากเปลี่ยนแสดงว่าลูกค้าดูไม่เรียบร้อยก่อนซื้อต้องไปขอเปลี่ยนที่ร้านเอง

แต่กรณีสั่งของออนไลน์ลูกค้า สั่งตามแบบถูกต้องแล้วแต่ร้านค้าส่งมาผิดแบบ หรือส่งสินค้ามีตำหนิมาให้  ซึ่งเป็นความผิดของคนขายเต็มๆ คนขายต้องรับผิดชอบส่วนนี้ด้วยครับเพราะไม่ใช่ความผิดของลูกค้าเลยแม้แต่น้อย

ผมคิดว่าส่งของคืนรับเงินคืนแล้วสั่งซื้อใหม่ดีกว่าครับ ง่ายดี

แฟ แฟ ครับ ได้ตังค์คืนสั่งใหม่
หาร้านไหมไม่ได้อีกแล้ว

ก็แล้วทำไมตอนแรกถึงไม่สั่งเลยละ จะรอทำไมอีก 2 วัน มาอ้างว่าไม่ว่างไม่ได้หรอกครับ ก่อนนอนก็ต้องมีเวลาบ้างแหละ

เค้าโอนเงินคืนให้ก็ดีละ  :wanwan004: