ThaiSEOBoard.com

ขออนุญาตแชร์เป็นอุทาหรณ์ครับ ใครที่ทำ E-Commerce ไม่อ่านไม่ได้นะครับ

ผมโดนพี่สันเรียกตรวจสอบภาษีจากเว็บไซต์ขายของแล้วล่ะ
ยอมรับว่าที่ผ่านมาเรื่องภาษีไม่ค่อยได้ใส่ใจ แต่ก็มีการจ่ายภาษีครับ เพียงแต่เราจ่ายเต็มๆไม่ไหวแน่ๆครับ

ผมเลยขออนุญาตมาเตือนทุกท่าน ถือเป็นการระวังและป้องกันก่อนที่เหตุจะเกิดครับ

1. พี่สันมีการตรวจสอบรายได้เราจาก Statement ในบัญชีครับ
2. เขาสนเฉพาะยอดที่เข้าเท่านั้น จะรับเป็นรายได้ ส่วนยอดออกไม่สนใจครับ หากเงินที่เข้าในบัญชีท่านไม่ได้เป็นรายได้จากการขายของจริง ต้องหาหลักฐานมาชี้แจงครับ ถ้าฟังไม่ขึ้นเขาก็นับเป็นรายได้
3. หากรายได้ต่อปีเกิน 1.8 ล้าน ไม่ไปจดภาษีมูลค่าเพิ่ม มีค่าปรับและเงินเพิ่มอ่วมอรทัยแน่นอนครับ
4. หากท่านโดนตรวจสอบจากหน่วยกลาง เขาสามารถดู statement ท่านได้ทันทีโดยไม่ต้องขอหมายศาลครับ เพราะเป็นหน่วยงานเดียวที่ทำงานร่วมกับตำรวจไซเบอร์และมีอำนาจสูงมากเพราะใช้อำนาจเดียวกับกฎหมายฟอกเงิน

สงสัยหลังไมค์ได้ครับ

คิดรายได้จากยอดเข้า ไม่นับต้นทุนสินค้าที่เป็นยอดออก แบบนี้เจ็บหนักแน่ๆ ทางที่ดีถ้ารายได้เยอะๆ จด หจก. คลุมไว้ก็ดีนะครับ จะได้จ่ายน้อยลง

ผมหวั่นๆอยู่เหมือนกัน ยังไ่ม่ได้จดอะไรสักอย่าง
รายได้น้อย

หมายถึงว่า ตรวจสอบ ชื่อบัญชี ในเวป ที่ให้ลูกค้าโอนเงินมายังบัญชีนี้  ที่เราขายสินค้าหรือเปล่า...

ไว้ทำได้ถึงเดือนละแสน ผมจะระวังคับ

ตอนนี้ยังไม่เริ่มเลย  :wanwan004:

ประมาณนั้นครับ

ผมเคยแนะนำ หลาย ๆ ท่านไปเป็นการส่วนตัว

เรื่องภาษี ขอให้ยื่นไปเถอะครับ ถ้า ถึงเกณฑ์ ต้องยื่น แม้ บางครั้งยื่นไป ไม่ต้องเสียเงิน แต่เป็นหน้าที่ครับ

รายได้ตั้งแต่กี่หมื่นผมจำไม่ค่อยได้แล้วนะครับ แต่ถ้ามีรายได้ตามที่กฏหมายกำหนด เราก็ต้องยื่นไป ยื่นไปให้เขารู้ว่าเรามีรายได้ แต่ไม่ต้องจ่าย

ส่วนท่านที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี ผมก็แนะนำ ให้ ลองดู วิธี ลดหย่อนภาษี ด้วยการทำประกันชีวิต การซื้อกองทุน LTF RMF ดู ครับ
หรือยังสามารถซื้อประกันชีวิตให้กับพ่อแม่ ก็สามารถลดหย่อนภาษีได้ (เฉพาะบางตัว ต้องถามจากตัวแทนขายนะครับว่าตัวไหนลดหย่อนได้ หรือไม่ได้)

ลองดู ครับ ยื่นไปก่อน ๆ ที่จะโดนเรียกตรวจสอบ

ขอถามหน่อยครับ


พอเป็นไปได้ไหม ที่เราจะปิดบัญชีธนาคารทุกๆ 6 เดือน

(เพื่อทำลายหลักฐาน) เอิ้กๆ



ปล. เงินโอนโดยชอบธรรม ก็โดนหรอครับ (ถึงจุดนั้น มันลืมแน่ ยอดอะไรต่อมิอะไร)

ผมไม่ทราบว่าเขาตรวจยังไงนะครับ แต่เขาตรวจได้น่ะครับ

ผมเคยโดนครับ โดยเขาแจ้งว่า ได้ข้อมูลมาจากการจดทะเบียนพาณิชย์
ซึ่ง ณ เวลานั้น เวบที่จดไว้นั้นยังไม่ทำเว็บเลย จนถึง วันที่ตรวจสอบ
เขาเพียงต้องการข้อมูลว่าเรามีการเสียภาษีหรือไม่ และที่มาของรายได้
และในองค์กรที่จดไว้นั้น มีคอม มีอุปกรณ์เยอะแค่ไหน

ภาษี ปกติถ้ามีรายได้ รายได้ ถ้าจำไม่ผิด 3 หมื่นต่อปี ก็ยิ่งต้องยื่น
ไม่ถึงเกณฑ์ก็ต้องยื่น แต่ไม่ต้องเสียภาษี

ถ้าเขาจะตรวจสอบจริงๆ สามารถอายัติทุกบัญชีของเราได้ครับ

จริงๆธนาคารไม่สามรถเปิดเผยข้อมูลบัญชีของลูกค้าได้นะถ้าเราไม่ยินยอมหรือไม่มีคำสั่งจากศาล

หรือว่าผมเข้าใจผิด แม่มที่ผมโทรถามเลขบัญชีแฟนผมมันไม่ยอมให้

 :P

แฟนฝากมาถามครับ

1.
1.8 ล้าน เป็นตัวเลขจากไหนครับ เป็นยอดเงินรวมจากในบัญชีทั้งหมด หรือว่า เป็น ยอดเงินจากในบัญชี รวมกัน หักต้นทุน กี่ %

2.จดทะเบียนพานิชย์ อยู่ในจุดที่เสี่ยงโดนเรียกมากกว่าใช่ไหมครับ

3.เห็น บัญชีรับเงินเป็น บ.   ที่โดนเรียกนี่ โดนไปแบบ บุคคลธรรมดา หรือ ในนาม บ. ครับ

4.ถามคุณ JeffyPluS ครับ จริงๆ ปีนี้กำลังจะไปครับ แต่ไม่เคยไปเลย (ขายมาหลายปีละ) ต้องเตรียมอะไรไปไหมครับ จะโดนย้อนหลังไหม ครับ ถ้าโดน กี่ปี

จะมีศัพท์ เพิ่มขึ้นมาสำหรับคนที่ยังไม่เคยพบสรรพากร

ถึงเกณฑ์ต้องยื่นแบบแสดงรายการ
ถึงเกณฑ์ต้องชำระภาษี
ถึงเกณฑ์ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

มีครั้งนึง เนื่องด้วยงาน มีความจำเป็นต้องออกใบกำกับภาษี ถ้ารับงานกับลูกค้าท่านนั้น ก็เลยต้องปรึกษาสรรพากร
เพราะผมมีรายได้ ไม่ถึงปีละ 1 ล้าน 8 แสน
สรรพากรบอกว่าทำได้

แต่หลังจากจด แล้ว เราต้องยื่นแบบอะไรสักอย่างกับสรรพากรทุกเดือน

แล้วก็เลยถามว่า ถ้าจดแล้ว เลิกจดล่ะ

เค้าก็บอกว่า ก็ต้องมาชำระบัญชีกัน

โห วุ่นวายดีแท้ ก็เลยไม่รับงานนั้นครับ

รายได้ มากกว่า 1 ล้าน 8 แสน ครับ คุณจะได้มาจากช่องทางไหนก็ตาม รวมกันแล้วถ้ามากกว่า 1 ล้าน 8 แสน ต้องยื่น ครับ

เงินโอนโดยชอบธรรมของคุณมันหมายถึงอะไรล่ะครับ เราขายของได้เงินมา มันก็ชอบธรรมครับ

แต่ถ้าจะการให้โดยเสน่ห์หา มันก็ดูไม่ยากครับ เพราะพฤติกรรมการโอนเงิน มันต่างกันครับ
จะให้ดีก็แยกบัญชีระหว่างส่วนตัว และ ทำ e-commerce ครับ

1. เป็นยอดจากรายไ้ด้ครับ แนะนำให้แยกบัญชีธนาคารออกมาต่างหากครับ ดูง่าย
2. คนไม่จดก็เห็นโดนกันนะครับ
3. ถ้าเป็นบัญชี บริษัท ก็โดนแบบนิติบุคคลครับ

ต้องยื่ื่น ภพ. 30 ทุกเดือน  ก็คือแบบยื่นยอดภาษีซื้อ ภาษีขาย  ถ้าขายมากกว่าซื้อ ก็จ่ายส่วนต่างให้สรรพากรไปครับ
เรื่องการจดเลิก ก็ต้องดูว่าจดเลิก vat หรือจดเลิกบริษัท   แต่ทั้ง 2 อย่างนี้ ไม่ง่ายหรอกครับ จดเลิก vat นี่ยุ่งกว่าครับ

การจดทะเบียนพาณิชย์หรือไม่จดนั้นแทบไม่มีผลเลยครับผม
เพราะว่าหากรายได้ถึงเกณฑ์ เราก็ต้องไปยื่นแบบเสียภาษีอยู่ดีครับผม


แนะนำว่าอะไรที่ยังไม่ถูกต้องก็ควรจะทำให้ถูกต้องแล้วครับ
ปีนี้สรรพากรเอาจริงครับผม

2 อย่างที่หนีไม่พ้น คือ ความตาย กับ สรรพากร  :wanwan004:

ลองอ่านิครับ
hททp://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/02/B11760188/B11760188.html

แล้วทำ amazon มันจะโดนไหมเนี่ย พวกภาษี E-Commerce หรือโดนภาษีรายได้บุคคลทั่วไป

ไม่กลัวเลยคับ เพราะได้เดือนละ 100 บาท  :o

ผมใช้คำผิดคับ เสน่ห์หา แบบโอนกันเอง เพื่อนโอนมา ยืมเงิน บราๆๆ

จำนวนเงินได้ที่ต้องยื่นภาษี
ผู้มีเงินได้จากการทำธุรกิจการค้าทั่วไปที่มิใช่เกิดจากการจ้างแรงงานที่ได้รับในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม)
      - กรณีไม่มีคู่สมรสต้องมีเงินได้พึงประเมินเกิน 30,000 บาท
      - กรณีมีคู่สมรสไม่ว่าฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายต้องมีเงินได้พึงประเมินรวมกัน เกิน 60,000 บาท


ค่าใช้จ่ายหักได้ 80% ตาม 40(8 ) ข้อ 25
(25) การขายของนอกจากที่ระบุไว้ในข้ออื่น ซึ่งผู้ขายมิได้เป็นผู้ผลิต 80%

ส่วนบัญชีธนาคารที่โดนตรวจ คือที่ใส่ไว้ในเว็บไซต์ให้ลูกค้าโอนเงิน

ให้ลูกค้าส่งธนานัติแล้วเอาเงินสดใส่ไหฝังดินไว้สิครับ ไม่มีใครตรวจสอบได้ ไม่ต้องเสียภาษีสักบาท  :wanwan004:

ขอบคุณสำหรับข่าวครับ

ภาษี E-Commerce ก็คือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานี่แหละครับ
แต่เค้าเรียกเพื่อแบ่งกลุ่ม พวกที่ทำ e-commerce ไงครับ เพราะมันผ่าน internet กันหมด แรก ๆ สรรพากรยังตามกลุ่มนี้ไม่ทันครับ

ส่วน amazon หรือจะ adsense ถ้าเค้าตามเจอ ก็โดนครับ  :P


ถ้าร่ำรวยมาก ๆ  อาจจะโดนข้อหาฟอกเงิน และยึดทรัพย์ หนักกว่าเก่า  :wanwan019:

เริ่มเสียวๆ

กำลังจะทำ e com เริ่มงงเลย ฮ่าๆ
มันไม่หักต้นทุนเลยหรอครับ เอาสุทธิมาจับหักเลยหรอครับ?

ท่านใดไม่ค่อยรู้เรื่องภาษี เดินไปสำนักบัญชีเลยครับ  :P สำคัญเด้อ ทำบัญชีไว้ด้วย จัดการเรื่องนี้ดีๆเหมือนเสกเงินเลยนะครับภาษี กับการลดหย่อนเนี่ย

จริงๆสิทธิประโยชน์เยอะแยะเลยนะยิ่งจดนิติ ด้วยเซ็ทฐานเงินเดือนตัวเองเป็นลูกจ้าง เช่าเป็นนิติ เอามาลดหย่อนได้อีก มีผลประโยชน์จากประกันสังคมด้วย

ถ้าเงินได้เกินก็ไปซื้อกองทุน ประกัน บริจาค ซื้อบ้านเอามาลด ของผมนี่จด หจก. แล้วเซ็ทฐานเงินเดือนตัวเองน้อยหน่อย

จากนั้นวางแผนภาษี เอา หจก. มาเช่าบ้าน เช่ารถตัวเอง เดินบัญชีดีๆ ได้เครดิตจากสถาบันการเงินด้วย รวยๆๆ สรรพากรไม่ต้องกลัวครับถ้าทำให้ถูกต้อง

การยื่นเสียภาษี จดทะเบียนไรงี้ถ้างงก็ติดต่อสำนักบัญชีคู่ใจไว้เลยครับ มีอะไรจัดการได้รวดเร็วไม่เสียเวลา รายเดือนไม่กี่ตังค์ ประมาณ 1-3k คิดซะว่าเช่า VPS ครับ

แต่ถ้าจะตุกติกทำให้เนียนนะ โดนย้อนหลังคราวก่อนไป 7 หลัก มันเบิ้ลนะเออเวลาทำผิด  :P :P

ติดตาม :P

หลักการง่ายๆนะครับ ผมเรียกวิธีการหรือเทคนิคทางภาษีกับลดหย่อนภาษี  ไม่ใช่ว่าเลี่ยงภาษีละกัน

Amazon หรือได้ที่มาจาก Affiliate ต่าง ๆ หรือ CPA ทุกอย่างไม่โดน เพราะมันไม่ได้มีขึ้นบนเว็บ จะได้รับก็กับเช็ค อันนี้ ตัดประเด็นปัญหาภาษีครับ เพราะตรวจสอบยาก เพราะการคลิกป้่าย หรือจะขายให้ต่างประเทศ เคาไม่รู้ครับ แต่ถ้าคุณมาทำอีคอมเมอร์ด้วยมีปัญหาแน่นอน ต้องแสดงรายได้ทั้งหมด

สำหรับคนทำอีคอมเมอร์ส

- หากมีธุรกิจเดิมอยู่แล้ว ให้เปลี่ยนหรือใช้เล่มบัญชีใหม่แยกจากธุรกรรรมที่ซื้อขายทั่วไป
-หากจะเลี่ยงตรวจสอบบัญชีย้อยหลัง ให้ปิดบัญชีเดิม เปิดบัญชีใหม่ แต่บัญชีเดิมยังค้างเลขเดิมกับธนาคาร 5 ปี ครับ
- หากรู้ว่ารายปี บัญชีนั้น โอนมากกว่า 1.5 ล้านต่อปี ให้เปิดบัญชีใหม่ เพราะสูงกว่านั้นภาษีเล่นตามระดับขั้น
- หากเป็นไปได้ให้ใช้ชื่อบัญชีของเด็กต่ำกว่า 18 ปี หรือผู้ใหญ่มากกว่า 60 ปี ภาษาลดหย่อนถูกลงครับ (แต่ต้องอ้างเหตุผลให้ดีครับ เพื่อเคามาตรวจ)

สุดท้าย ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ก็เสียภาษีไปเถอะครับ แต่หาเหตุผลเพื่อการลดหย่อนไปครับ

ภาษีอีคอมเมอร์ส มันก็คือ ภาษาบุคคลธรรมดานี้เองครับ เวลายื่นก็ตัวเดียวกันครับ แต่แสดงรายการแยกชิ้น

เราแจ้งความจำนงยื่นขอเสียภาษีไปก่อนแล้วเลยสบายใจครับ ก็ยื่นหลักฐานตามที่เค้าต้องการมาถ้าไม่เกินกำหนดขั้นต่ำก็ไม่ต้องเสียภาษีครับผม  :wanwan017:

ท่านเสี่ย จขกท. ได้จดทะเบียนพานิชย์ หรือเปล่าครับ


ขอบคุณครับ

รายได้ไม่เกิน ตามที่เค้ากำหนดก็ไม่เสียนะครับ เพียงแต่อะไรที่มันเป็นหน้าที่ก็ทำไปเถอะครับ   :wanwan017:

ความตาย กับ ภาษี มันหนีไม่พ้นหรอกครับ  :wanwan044:

แต่ถ้าไม่อยากเสียภาษี ก้ต้องไปเป็นเจ้าป่าทาร์จังซะแล้ว  :o

คริคริ  :wanwan019:

อเมซอน หรือ เอดเซน ก็ต้องเสียนะครับ ถ้ามีรายได้ตามกําหนด

ผมเคยโพสไปแล้วครั้งนึงเมื่อนานมาแล้ว  สรรพากร คือหน่วยงานเดียว ที่เช็คเราได้ โดยไม่ต้องผ่านใคร

การเสียภาษีให้กับแผ่นดิน นับเป็นหน้าที่ของพลเมืองดี การมีความยุติธรรมในการบังคับใช้กฎหมายเป็นหน้าที่ที่ดีของข้าราชการ
และการมีกฎหมายที่เป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผ่นดินที่ดี

แล้วท่านคิดว่า อะไรละที่ประเทศไทยมี และ ดี

หาความรู้ เพื่อหาหนทางปกป้องตนเองจากความชั่วร้าย ดีๆครับ และพยายามทำผิดให้น้อยหน่อยสังคมจะได้น่าอยู่ เราจะได้ไม่ถูกจิ้มก้นจากคนเลวๆ เอิ๊กๆๆ

แนะนำลองศึกษา คณะบุคคลดูครับ เผื่อจะเป็นทางเลือกในการจัดสรร เรื่องการทำภาษีไว้ป้องกันตนเอง

อ่านแล้วเครียด  :wanwan015:

จดหรือไม่จด แทบไม่มีผลเลยครับผม ผมถามมาแล้วครับ (ส่วนตัวผมจดทีหลัง แต่ตอนโดนเรียกเค้าไม่สนใจครับ เค้าสนใจแค่ statement โดยให้เหตุผลว่าทะเบียนพาณิชย์เป็นแค่ทะเบียนแจ้งว่ามีตัวตนจริงเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับรายได้ หากมีรายได้ก็ต้องชี้แจงครับผม) ตอนนี้ก็เลยโดนตรวจแล้วครับ

เค้ามีทีมตรวจสอบอีคอมเมิร์ซที่เพิ่งจะเพิ่มอัตราจ้าง 100 อัตราเข้ามาทำงานโดยเฉพาะเลยครับผม เริ่มปีที่แล้วประมาณปลายปีครับผม

ถ้ามีบิลซื้อถูกต้องจริงๆ ก็ขอหักตามจริงได้ครับ
บิลซื้อที่ถูกต้องคือมีชื่อผู้ขาย มีชื่อผู้ซื้อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อชัดเจน ครับ หากเป็นบุคคลธรรมดาขายให้เราก็ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนผู้ขายแนบมาด้วยครับ

ไม่งั้นเค้าจะให้หักเหมา 80% ครับ ที่เหลืออีก 20% จะนำมาคิดรายได้ครับ

ลงชื่ออ่านครับ

รับงานเยอะระวังนะท่าน  :wanwan004:

เคยมีคนถามว่าภาษีจะมาเก็บพวกเว็บไซต์ได้มั้ย เราก็บอกไปเลยว่ายากส์...อีกหลายปี แต่ตัวอย่างนี้เห็นได้ชัดเลยว่า...มันมาแล้ววววว :-X

ถ้าทำเว็บแล้วแต่ไม่มีการซื้อขายเลยในเว็บเหมือนเป็นการประชาสัมพันธ์เฉยๆ แต่ว่าตัวสินค้ามีการลงราคาไว้ด้วย อย่างนี้จะมีปัญหาไหมครับ  :wanwan009:

ต้องระวังไว้หน่อยแล้วสินะ แต่ว่าธนาคารไม่มีสิทธิเปิดเผยข้อมูลลูกค้าหนิครับ แต่ว่างานนี้คนไซเบอร์โดนกันอ่วมอรทัยแหงๆ

หนักเลยงี้เฮ้อ ToT

เคาก็ตามหาบัญชีครับ รายได้รับจ่ายคือที่มาของการคิดภาษี น่าเว็บเป็นการประชาสัมพันธ์ คล้ายๆคนทำธุรกิจสินค้า Pre order นั้นแหละครับ ภาษีเวลาคิดตามหาหลักฐาน ใบเสร็จ ประมาณนั้น เพราะไม่งั้นมันก็ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ไม่งั้นประชาชนก็โวยวายว่า ฉันไม่ขายหรือขายไม่ได้เลย จะมีบิลเงินสดซื้อขายได้อย่างไร

แต่อย่างว่าละครับ หน่วยงานไทย สมัยก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมสรรพภากร ไม่ทันแม่ค้า พ่อค้า แต่พอมันเริ่มมีการพัฒนา มีระบบมาขึ้น อย่าง จขกท บอกว่า เคาเริ่มมีหน่วยงานอะไรที่มาตรวจสอบเว็บไซค์ โดยตรง จำนวน 100 คน ที่ตั้งขึ้นมาปลายปีที่แล้ว อันนี้น่าคิด สมัยก่อนผมเชื่อว่า การทำอีคอมเมอร์เป็นเรื่องไกลตัว ทำกันเล่นๆ เงินไม่เยอะ มูลการตลาดไม่เยอะ ประมาณว่า หน่วยงานรัฐมองว่า ก็แค่ขายบนเว็บยอดเงินคงไม่มาก แต่คิดว่าพอมีหน่วยงานเน็คเทคมาวิจัยบ้าง ข้อมูลจากกระทรวงไอซีทีบ้าง เห็นว่า ตรงนี้ การซื้อขาย อีคอมเมร์ส ตัวเลขมันเป็นหมื่นๆล้านแล้ว แน่นอนละครับ กรมสรรพากร จะไม่มาดูเลยหรือ ผมเชื่อว่าต่อไป ถ้าหน่วยงานมันมีระบบมากขึ้น มันคงเช็คบิลกับเว็บต่างๆที่เปิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพราะเห็นว่าตรงนี้ รัฐยังน่าจะจัดเก็บรายได้ เหมือนในอเมริกานั้นแหละครับ แต่ของเคาผมจำไม่ได้นะ แต่เคาวางแผนดีมาก ก่อนที่ธุรกิจยุคดอทคอมเจริญ เคาก็มีภาษีอิเล็กทรอนิกส์อะไรน้แหละ แต่อย่าว่าเมืองไทย ก็ทำเหมือนวัวหายแล้วล้อมครอบ คล้ายๆกรณี พรบ คอม พึ่งมาประยุกต์ใช้ในเมืองไทยนี้แหละครับ เรียกได้ว่า มีปัญหาก่อนแล้วค่อยออกกฏหมาย เพราะเห็นว่า ความผิดทางอาชญกรรมมีมากขึ้น ต่อไปภาษีก็คงแนวๆเดียวกับ พรบ คอม นี้แหละครับ

E-commerce เดี๋ยวนี้ยิงโดนง่ายเลย เลขที่บัญชีในหน้าเว็บก็มี

กรมสรรพากรตรวจสอบได้ครับ เป็นอำนาจตามกฎหมายที่เขามีอยู่เต็มๆเลย ภาษีในส่วนที่สรรพากรดูแลมี 2 ส่วนนะครับคือภาษีเงินได้กับภาษีมูลค่าเพิ่ม ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้าหากเรามีเงินได้ไม่ถึง 1.8 ล้านนาทต่อปี เราก็ไม่จำต้องเข้าระบบ เพราะถ้าเข้าระบบเมื่อไรแล้วจะยุ่ง ต้องยื่นแบบต่อกรมสรรพากรทุกเดือนแม่จะไม่มีรายได้ รายจ่าย แต่ในส่วนของภาษีเงินได้นั้น ปกติ จะนับยอดเงินได้รวมของปีปฏิทินว่าเรามีเงินได้ในรอบปีเท่าไร และก็ยื่นเสียภาษี การหักค่าใช้จ่าย หักค่าลดหย่อน ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล และขึ้นอยู่กับประเภทเงินได้ของเราครับ

โดนเต็มๆ ชอบมาก  :wanwan004:

คุณจดทะเบียน บริษัทนี่ครับ ทำไมโดนได้ไงอ่ะ

เครียด :(

คุณ จขกท เปิดเป็นบริษัท

ปรกติต้องส่งงบกำไรขาดทุนอยู่แล้วใช่ไหมคะ

แล้วคนทำบัญชีให้ ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายไว้หรอ

มีรายได้ก็ต้องเสียเป็นธรรมดาครับ

แต่ก็เสียกันทุกอย่างอยู่แล้ว หักหมด

ผมอยากรู้ว่าจด หจก ดียังไงมีข้อดีข้อเสียยังไงครับ อธิบายหน่อย

มารับรู้ด้วยคน  :wanwan017:

ถ้ารายได้เยอะจดเป็น หจก. หรือ บริษัท น่าจะประหยัดภาษี แต่เสียค่าดูแลเรื่องระบบบัญชีแทน แต่ผลว่าคุ้มนะ เวลามีปัญหากับสรรพากร ไม่มีบันทึกบัญชีรับ-จ่ายไว้ ให้ดู
ไม่มีแหล่งที่มา ที่ไป พี่แกก็ประเมินรายได้ ตามวิจารณญาน ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่าคงไม่ต่ำ จึงเป็นที่มาของการพาไปกินข้าวมื้อใหญ่สักมื้อเพื่อหารือปรึกษา

ผมจด หจก ครับ ตอนนี้ผมจ้าง สำนักบัญชีมาดูเเล เดือนละ 1000 บาท. เค้าเคียร์ให้หมดนะครับ ง่ายดี

แต่สรรพากร ถืออำนาจ ที่มีสิทธิ์ ในการตรวจสอบหากสงสัย ว่า บุคคล นั้น ๆ เชื่อได้ว่า มีรายได้พึงอยู่ในเกณฑ์ต้องชำระภาษี

แม้กระทั่งการขอคืนภาษีเงินได้ แล้วทางสรรพากร คืนมาให้แล้วนั้น ก็ไม่ถือเป็นการเสื่อมสิทธิ์ ที่สรรพากร จะตรวจสอบภายหลังหากพบข้อมูลที่ยังไม่ได้ยื่นครับ

ผมก็เคยโดนเรียกแล้ว ส่วนที่เกิน 1.8 ล้าน นี่ขอบอกว่าใครไม่จด VAT อ่วมแน่นอน  เบี้ยปรับ 3 เท่า ของ 7% ของ เงินที่เข้าบัญชีโดยไม่ดูต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด + เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน

ลองคำนวนเอาแล้วกันครับ   ยิ่งพวกขายของที่กำไรแค่ชิ้นละ 10-20% นี่เอากำไรสะสม 3 ปีมาจ่ายยังไม่ไหวเลย  เพราะโดยแค่เบี้ยปรับ VAT ก็ 21% ของราคาขายสินค้าแล้ว ซึ่งมากกว่ากำไรที่คุณได้มาอีก ต่อชิ้น ยังไม่รวมเงินเพิ่มดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน และถ้าคุณเอาเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นยิ่งซวยหนักถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายภาษี

ใครยังไม่โดนเรียกควรจะไปจด VAT ก่อนเพื่อความปลอดภัยนะครับ เพราะคุณจะโดนเก็บเพิ่มแค่ 7% ดีกว่าโดนเรียกแล้วโดน 21%


คำนวนให้เห็นเลยครับ

สมมติคุณรายได้ปีนี้  10 ล้าน เป็นต้นทุนไป 9 ล้าน  = คุณมีกำไรของคุณปีละ 1 ล้านบาท

แต่คุณไม่ยอมไปขึ้นทะเบียน VAT ที่รายได้ครบ 1.8 ล้านตั้งแต่สักเดือนนึงของปีก่อน

ภาษีที่คุณต้องจ่าย  ภาษีเงินได้ไม่น่าตกใจครับ แค่คิดจากกำไรของคุณ 1 ล้านเสียตามเรต % อาจจะ 15-20%  ราวๆนี้  ก็แค่ 2 แสน

แต่หนักที่จริงๆที่ เบี้ยปรับของ VAT ที่คุณไม่ไปจด  จะโดน  7% ของ 10 ล้าน  *3 เท่า  = 2.1 ล้าน  + ดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือนนับทบไปเรื่อยๆจนชำระเงิน


คุณกำไรทั้งปีแค่ 1 ล้าน แต่กลับต้องหาเงินมาจ่ายภาษีรวมทั้งหมดราวๆ  เกือบๆ 3 ล้านบาท เฉพาะของปีนี้ ถ้าทำธุรกิจมาหลายปียิ่งโดนหนัก

บางคนต้องขายบ้านจ่ายเลยนะครับ   ยังไงทำให้ถูกกฎหมายซะ ไปจด VAT ให้มันถูกต้องอย่าเสี่ยงโดนตรวจเจอแล้วจ่ายไม่ไหว

เด๊๋ยวนี้ทำธุรกรรมทางเน็ตเริ่มต้องระวังมากขึ้นแล้ว ขอบคุณมากครับ  :wanwan017:

กรณีของผู้ที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนดนั้น ต้องเสียภาษีนั้น แนะนำว่าให้ใช้ การจดทะเบียนบริษัท มาเป็นตัวช่วยในการดำเนินธุรกิจครับ

สำหรับชาวบ้านอย่างเราทั่วไป ก็สามารถจ้าง outsource เพื่อเป็นที่ปรึกษา ในการจดทะเบียนบริษัท และ ทำยื่นภาษีต่างๆ ในทุกๆเดือน

1. การเปิดเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ (e-commerce) โดยระบุ เป็นชื่อ โดเมน .co.th อย่างเช่น เราตั้งใจชื่อบริษัท tears in heaven ก็ให้จดโดเมนชื่อ tearsinheaven.co.th

2. ให้ระบุวัตถุประสงค์ในการจดบริษัท เป็น การซื้อมาขายไป เป็นสินค้าเพื่อค้าขายที่ถูกต้องตามกฎหมายในเชิงพาณิชย์ รวมถึงทั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ผ่านตัวกลางการชำระเงิน บัญชี ก., ข. และ ค.

3. รูปแบบบริษัท เวลาเราซื้อของ และ ขายของออกไป ต้องมีหลักฐานการชำระเงินต่างๆ โดยที่ดีที่สุด คือการออกใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี  , ถ้าขายสินค้าให้กับผู้คนธรรมดา ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อเป็นหลักฐาน เป็นค่าใช้จ่าย (ปรึกษาบัญชีที่น่ารักของท่าน)

4. รูปแบบบริษัท จะมีกรรมการ 3 คน ขึ้นไป ซึ่งสามารถทำเป็นค่าใช้จ่าย คือ เงินเดือน ให้ทุกเดือน กับกรรมการทั้งสามนี้ เพื่อนำเป็นค่าใช้จ่าย

โชคดีครับ..

โดนก่อนจดน่ะสิครับ

เจ้าของทู้จดทะเบียนเป็นรูปบริษัทใช่หรือเปล่าค่ะ โดนสรรพกรเรียกเพราะเป็นรูปบริษัทหรือในรูปบุคคลธรรมดาค่ะ
เพราะถ้าเป็นบริษัทได้จดทะเบียนไปแล้ว โดยปกติสรรพกรก็เรียกดูข้อมูลจากตรงนั้นได้
แล้วบริษัททำในรูปขายสินค้าออนไลน์อีกช่องทางหนึ่งหรือขายเฉพาะออนไลน์อย่างเดียวไม่มีหน้าร้าน
ขอความรู้หน่อยค่ะ

เค้าไม่สนใจหรอกครับ ว่าบริษัท หรือ บ้านที่เรานอนอยู่ทุกวัน แล้วมีสินค้าพร้อมส่ง รอบหัวนอน เป็นอย่างไร เพียงแต่เค้าสนใจเรื่องของรายได้ รายรับ ที่ต้องมีการทำให้ถูกต้อง (บัญชี และ สรรพากร)

สรุป จะมีหน้าร้าน หรือไม่มี ถ้าเป็นรูปแบบบริษัท ก็ไม่มีปัญหาใดๆครับ

เค้าเรียกหมดครับ  แต่ส่วนใหญ่จะเพ่งเล็งบุคคลธรรมดามากกว่า ถ้าบริษัทขึ้นทะเบียน VAT ไปแล้วเค้าจะสงสัยน้อยลงเพราะว่าได้เข้าระบบไปแล้วแต่ก็จะมีสรรพากรมาเยี่ยมทุกปี แต่อาจจะไม่ถึงขั้นเรียกดูบัญชีธนาคาร

แต่บุคคลธรรมดาหรือบริษัทที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มโดนเรียกดูบัญชีแน่ๆครับ

ที่ผมโดน โดนแบบบุคคลธรรมดาครับผม

คำตอบนี้ถูกต้องที่สุดครับ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาครับผม

ขอบคุณมากเลยครับท่าน

ถ้าเว็บเพิ่งเปิดใหม่ๆ รายได้ยังไม่มี หรือ มีเดือนละ 2,000 - 3,000.-บาท

เราไปแจ้ง จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างเดียวได้ไหมครับ แล้วเราจะเสียภาษียังไงครับ

คือไม่ได้จะหลีกเลี่ยงครับ แต่อยากจะทำให้มันถูกต้องครับ

พอจะมีแนวทางสำหรับคนทุนน้อย รายได้น้อยไหมครับผม     :wanwan017:

เพราะถ้าเป็นรูปแบบบริษัท คงต้องมีทุนเป็นแสนเลยหรือเปล่าครับผม

เรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญให้มากครับ ถ้าทำธุรกิจยังงัยก็หนีไม่พ้น

แยกแยะระหว่าง บุคคลธรรมดา กับ นิติบุคคลก่อนครับ

บุคคลธรรมดา ก็เราทำงานประจำ นั่นเอง และ จาก จขกท รวมถึงผู้รู้ท่านอื่นๆ บอกมา ก็หมายถึง เราก็เสียภาษีในบุคคลธรรมดานั่นแหละครับ จะถึงเกณฑ์เสีย ไม่เสีย ยื่น ไม่ยื่น ยิ้ม ไม่ยิ้ม อันนี้ต้องไปถามทางกรม จะชัดเจนที่สุดครับ

ส่วนนิติบุคคล ก็อย่างที่ผมบอกไป ครับผม

ขอเก็บเป็นความรู้ครับ จะได้เตรียมตัวถูก

แหม่..โชคยังดีไม่ถึง 1.8 :wanwan008:

รายได้ของเรายังอีกห่างไกล - -*

ผมขาดอีกแค่ 1.799 ล้านเอง ก็จะครบตามเกณฑ์สรรพากรแล้วนะสิ...แย่ละปีนี้คงต้องป้องกันแต่เนิ่นๆ  :o

ถ้าเก็บอย่างนี้เขาเรียก    ภาษีบำรุง ที่ท้อง หรือว่าภาษี่ อะไรครับ

เห็นด้วยครับ
ของก็แพงขนาดนี้อยู่แล้ว
ยังจะทำกันแบบนี้อีก เห้อ ประเทศไทย

โหดร้ายยย .. :'(

ถ้ามีรายได้มากจด หจก. หรือ หสน. ดีกว่าบุคคลธรรมดาครับ
ถึงไม่มีรายได้ จดติดไว้ดูเล่นข้างฝาบ้านก็ได้ครับ :wanwan004:

ทำให้มันถูกต้องซะจะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง

คิดแล้วเศร้า ถ้าเงินเก็บรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนดพอดี แล้วเอาไปจด บ แล้วจะเหลือเงินใช้เท่าไร  :P

ถ้าจำไม่ผิด อเมริกามันจะใช้ระบบ double tax ถ้าเราขายของจากอเมซอน เราก็ไม่โดนคิดภาษีใช่ไหมครับ

รายได้มีมั่ง ไม่มีมั่งนี่ต้องแจ้งด้วยเหรอเนี่ย แจ้งไม่เป็นฮ่า

ต้องหัดซะแล้ว เผื่อวันหน้ารวย อิอิ  :wanwan004:

ผมโดนตั้งแต่จดทะเบียนพาณิชย์ 3 เดือนแรกเลยครับ ยังไม่มียอดขายด้วย เขาตรวจสอบทุกบัญชีที่เป็นชื่อเรา (กรณีจดทะเบียนพาณิชย์โดนแน่นอนหรือสุ่มตรวจเจอก็ต้องชีแจงกันละครับ)
บังเอิญผมมีบัญชีเงินเดือนมีเงินเข้าทุกเดือน แถมสิ้นปีมีโบนัสด้วย เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 7-8 ปี ตอนแรกตกใจมากๆ ครับเพราะไม่รู้เรื่อง ผมเลยให้คนที่เขามีความรู้ด้านนี้ไปจัดการให้
เขาบอกว่าไม่มีอะไรเพียงแต่ให้ไปชีแจงรายได้เท่านั้นเอง  โล่งอกไปนึกว่าจะโดนซะแล้ว  ทุกวันนี้ผมเลยไปจด Vat ซะเลย ทำให้ถูกต้องแถมสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าด้วย
หากต้องการทำเป็นอาชีพจริงๆ แนะนำไปจดทำให้ถูกต้องดีกว่าครับ และอย่าพยายามหาวิธีลักไก่ เช่น ไปซื้อ Vat ซื้อบิล ระวัง..!  มีรุ่นพี่เจ้าของบริษัทที่รู้จักกันหลายคนโดนสรรพากรตรวจสอบเจอ
มูลค่าภาษีมากกว่า 2 ล้านบาท เพราะไปซื้อบิล Vat ที่ไม่ถูกต้อง  กินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวัน...(คนโดนเยอะกว่านี้ก็มี)   

สงสัย ต้องเข้า ไป สรรพกร ซะแล้ว

 :-X

มาอ่าน  :wanwan044:

ถ้าทำอเมซอนอย่างเดียว ไม่มีหน้าเว็บอีคอมฯในเมืองไทยเลย ผมว่านิ่งๆ ไว้ก่อนดีกว่าครับ ....


ตอนนี้สรรพากรไล่บี้เฉพาะหน้าเว็บอีคอมฯที่มีตัวตนในเมืองไทยอยู่ ... อย่าเพิ่งตื่นเต้นครับ เดี๋ยวจะไปกันใหญ่


 :P

ค่อยอุ่นใจหน่อย  :P

ถ้าจดทะเบียนพานิชย์แล้ว ขั้นต่อไปจะต้องทำอะไรต่อครับผม
พอดีถามเป็นความรู้ครับเพื่อเอาไปใช้จริงๆ ครับ

 :wanwan017:

1. ทำบัญชีครับ

2. ถ้า 1 ปี มีรายได้เกิน 30,000 บาท ให้ยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครับ ยื่นแบบช่วง ต้นมกราคม - ปลายมีนาคม ของทุกปี

เข้ามาอ่าน น่ากลัวจริงๆ  :wanwan006:

รอดไปครับ ผมได้เดือนละ 2 ดอล ครับ

แนะนำให้ทำประกันชีวิต

ซื้อกองทุน

สองสิ่งนี้ จ่ายเงินแล้วเงินไม่ได้สูญหายไปไหน แถมยังมีดอกผลงอกเงย แล้วลดหย่อนภาษี ได้อีกครับ

ดีนะผมยังไม่มีรายได้  :P

ขอ + ให้ครับ 

ได้ความรู้จริงๆ  :wanwan017:

ถ้าสรรพากรมา ให้ตอบเขาไปตามตรงครับว่า

"มันเป็นความบกพร่องโดยสุจริต"

 :wanwan024:

ขอบคุณมากครับ แต่ผมยังห่างไกล ตอนนี้เจ๋งแล้วเจ๋งอีก  :wanwan035: :wanwan035:

แสดงว่าคุณยังไม่รู้จักสรรพากรดี  :wanwan004:
สรรพากร สามารถ อายัติ รวมถึงตรวจสอบ บัญชีทุกบัญชีที่ต้องสงสัยได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล ธนาคารต้องยินยอมเท่านั้น มีสิทธิ์ อายัติบัญชี ญาติพี่น้อง รวมถึงบุคคลต้อง สงสัยทุกคนที่เกี่ยวกับคุณโดยไม่ต้องมีหมายศาล ที่มีเหตุว่าหลบเหลี่ยงภาษี รวมถึงสามารถ ค้นบ้านของคุณในยามวิกาลได้  เป็นองค์กรที่อำนาจน่ากลัวที่สุดแล้วครับ อย่าไปเล่นกับสรรพากรนะครับ  :wanwan016:

แถมถ้าคุณไม่จ่ายภาษีสรรพากรมีอำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์เพื่อชำระหนี้ภาษีอากรค้างได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากศาลแถมต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยล่ะ 18 ต่อปีย้อนหลัง

ฟังแล้วปวดหัวดี ดีแต่เก็บภาษีดีแต่เก็บเงินแต่ประเทศไม่เคยเจริญขึ้นมีแต่เจริญลงๆ

ปล. ขายของราคาเป็นหมื่นแต่กำไร 2-3 พันทำไงอะคะ ต้องโดนภาษีอ้วกเลยซินะ

ผมโดนเรียกไปนานแล้วเหมือนกันเคยตั้งกระทู้ถามเรื่อง 1.8 ล. เหมือนกัน

สรุป . โดนภาษีรายได้เพิ่มเติมอีกหลาย แต่ที่คาดไม่ถึงมาก่อนคือ เสีย vat อีกอ่วม (ใครจะไปรู้ฟระ)

Double Tax หมายถึงว่าถ้าเรามีเงินได้จากรัฐที่เราได้รับเงินได้และเราเสียภาษีไปแล้ว เราไม่ต้องเสียภาษีอีกประเทศหนึ่งน่ะครับ และมันอยู่ที่เงินได้แต่ละประเภทด้วย เพราะไม่ใช่เงินได้ทุกอย่างจะถูกยกเว้นคัรบ

สรรพกรทุกประเทศเหมือนกันมัยครับ เริ่มปวดหัว

เริ่มหวั่น ๆ เหมือนกัน :wanwan014:

สรรพากร นี่ มันตรวจสอบ รายได้ ของนักการเมือง หรือข้าราชการ บ้างมั้ยครับ

ว่ามีรายรับเท่าไหร่ มาจากไหน  :wanwan010:

ผมรู้แต่ในยุโรป ก็ไล่ล่า ไม่แพ้ สรรพากรไทยครับ เผลอ ๆ หนักกว่าด้วยครับ

ถ้าในยุโรป คุณเอารถไปซ่อม ในอู่ กิ๊กก๊อก อู่ ก็ ต้องออกใบเสร็จรับเงินให้ แม้คุณจะบอกว่าไม่เอา

เพราะ ที่นั่นเค้า ดูกันที่หลักฐาน

คุณมีเงินใช้เกินมือ ก็มี จนท. รัฐเชิญไปคุย ว่าเงินได้มาจากอะไร งานการเค้าตามเช็คว่า ได้เงินมาเท่านี้ แต่ทำไม ใช้ไปมากกว่ารายได้

ฟอกเงินไหม ค้ายา หรือไม่

คุณตกงาน เค้าก็เรียกคุณไปพบ ส่งคุณไปเรียนคามที่คุณอยากเรียน แล้ว ส่งไปทำงาน เพื่อที่รัฐจะได้ เก็บภาษี ได้

คุณไปทำงานนั่งรถอะไร เค้ารู้หมดครับ อันนี้จากประสบการณืที่ ญาติที่อยู่ที่นั่น เล่าให้ฟัง

สรรพากรไทยนี่ยังแค่จิ๊บ ๆ  :wanwan017: ถ้ามีนักบัญชีเก่ง ๆ เลี่ยงได้เยอะ ต่างประเทศโหดกว่านี้เยอะ
เคยดูไหมทำไมเค้าถึงต้องทำขนาดนี้เพราะสรรพากรเก็บภาษี บุคคลธรรมดาได้แค่ ไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของประชากร(ในระบบ)
แล้วทีเหลือล่ะ ไม่จ่ายกันเยอะแยะ เช่น ค้าขาย แม่ค้า e-commerce อะไรอีกมากมาย ฯลฯ ปัญหาอยู่ที่ถ้าทุกคนทำตามกฎหมายก็จะไม่มีใครต้องเอากฏเหล็กมาใส่

ดูแล้วน่ากลัว  :wanwan004:

ตั้งแต่มกรา ก็ไม่มีงานประจำ แล้วมีรายได้จากไหน  :P

มัวแต่กลัวชาวบ้านหาว่าขายยาบ้า หันมากลัวสรรพากรดีกว่า  :'(

เคยจ่ายภาษีอะไรไม่รู้ไม่กี่ร้อยเอง ที่ๆเราไปจดทะเบียนพานิชย์ ผ่านไปอีก6เดือนมันเรียกเก็บมา

พวกตรวจก็ไม่สนใรจริงๆ วันก่อนจะมาที่ office เค้าโทรไปบอกว่าจะไม่อยู่
ก็ยังจะมา ที่ office ผมเลยรับหน้าแทน บอกว่า จน.ไม่อยู่ (จริงๆอยู่ แบบว่า จน. เปิด บ. ทิ้งแล้ว เพื่อการใดไม่รู้)
แล้วจะให้ผมเซ็นรับเอกสารอยู่นั้นแหล่ะ ผมไม่เซ็นเพราะไม่รู้เรื่องอะไร รับมั่วไม่กล้า
ยังบอกผมน่ะ (พี่เป็นเจ้าหน้าที่น่ะ) ผมคิดในใจแล้วไง พูดไม่รู้เรื่องผมเดินหนี สักพักจะขอเบอร์อีก เอาให้ก็ให้ให้เค้าเีคียร์กันเอง

เพราะอาจจะเป็นอย่างนี้(โดยส่วนมากเปล่า) ที่เค้าไม่สนรายจ่าย สนแต่รายได้อย่างเดียว

จริง ๆ เราต้อง ศึกษา เรื่องการจ่ายภาษี บ้างนะครับ

อย่างผมกลับมาอยู่ ต่างจังหวัด แรก ๆ เลย ก็ จดทะเบียนพาณิชย์ พอปลายปี สรรพากร โทรมาหา เลยครับ

จะขอเข้ามาพบที่บ้าน ทั้ง ๆที่ผมบอกว่า เดี๋ยวผมออกไปพบที่ สรรพากรก็ได้ เพราะที่นี่คือบ้าน ไม่ได้เปิดเป็น office รับลูกค้าหน้าบ้าน เค้าก็ไม่ยอม บอกว่าจะมา

ไม่นานนักก็มาถึงบ้าน

คุยได้สักพัก สรรพากร ก็ บอกว่า เอาอย่างนี้แล้วกัน ปีนี้ คิดแบบเหมา ไป 2พันแล้วกัน

ตัวผมเองก็ พอมีความรู้ประดับไว้ในรอยหยักของสมองอยู่นิดหน่อย

ก็ รู้ว่า ปีนี้ (ปีที่สรรพากรมาคุย) เราไม่ต้องเสีย เพราะ รายได้เราถึงเกณฑ์ ยื่นแบบ และเมื่อหัก ประกัน + กองทุนแล้ว เราไม่ต้องจ่ายภาษี

ก็ เดินไปคว้าเอกสารมา ชี้แจงกัน เค้าก็บอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ลองยื่น มาก่อน เดี๋ยวเค้า พิจารณาให้

คือถ้าตอนแรกที่สรรพากร ให้เราชำระแบบเหมา ไป เราก็ต้องเสียเงิน โดยไม่ควรเสีย

ดังนั้น พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน ควร ศึกษา หรือมีที่ปรึกษา เป็นบริษัทบัญชีบ้างก็ดีนะครับ

ตอนนี้กรมสรรพากรเขามีฝ่ายงาน E-commerce แล้วนะครับ ไปดูได้ครับที่ชั้น 27
ใครขายของผ่านเน็ต ผ่านเว็บ ไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ก็มีสิทธิ์โดนครับ เขามีหน่วยที่คอยค้นเว็บใน google เลย
แล้วจะรวบรวมข้อมูลส่งตามสืบ สรรพากรมีสิทธิ์ขอ Statement ย้อนหลัง จากธนาคารใดก็ได้ครับ
รวมถึงมีสิทธิ์อายัติยอดเงินในบัญชีถ้ามีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงเช่น ถอนยอดเงินออกจากบัญชีจนหมด

แนะนำให้เอาเงินใส่ตุ่มในบ้านไว้ด้วยนะครับ ถ้าสมมุติในบัญชีเงินฝากมีเงินอยู่ 900,000 บาท
ถ้าโดนอายัด จะถอนเงินทั้งบัญชีไม่ได้แม้แต่บาทเดียวถึงแม้จะโดนยอดแค่ 30,000 บาท
แถมสรรพากรสามารถยิงคำสั่งโดยตรงไปที่ธนาคารได้ทันทีโดยธนาคารห้ามขัดขืน  :wanwan024:

ถ้าที่ อเมริกา ไปจดทะเบียนที่ เนวาด้า หรือ เดเลแว ทั้ง2รัฐ นี้ใช้ กฎหมาย double tax เพื่อได้รับการยกเว้นภาษีได้ครับ

หรือถ้าใกล้บ้านเราหน่อย ก็ไปที่  ฮ่องกง ครับ  สำหรับเงินได้จาก อเมริกาเท่านั้นนะครับ 

กันไว้ดีกว่าแก้  โปร่งใสไร้ร่องรอย

ฝังไว้ระวังเป็นแบบนี้นะครับ

(http://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/Service/PublishingImages/Cl_02.jpg)

เค้าจะเก็บเราตอนปลายปีหรอครับ

เงินได้บุคคลธรรมดา ยื่นแบบ 1 มค - 31 มีค ของทุกปีครับ

ผมเอาอะไรมาเพิ่มเติม จริงด้วยนะครับ ปีนี้กรมสรรพกรเอาจริงกับเว็บ ecommerce กัน แต่ช่วงปลายปีที่แล้วกับต้นปีที่ผ่าน ประเทศไทยเกิดน้ำท่วมกัน เลยเพลาๆ เครื่องยังสตารท์ไม่แรง แต่ผมว่าปลายปีนี้คงแรงขึ้นเรื่อยๆ ครับ

" กรมสรรพากร จะเก็บภาษี อี-คอมเมิร์ซ (ภาษีซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต)

สำหรับภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของสรรพากรไตรมาสแรกของปีงบ 2555 คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม แต่ช่วงการจัดเก็บรายได้ภาพรวมในน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.62 ล้านล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว 7% โดยในปีนี้กรมสรรพสากรคาดว่าจะสูญเสียรายได้จากน้ำท่วม 6-7 หมื่นล้านบาท และสูญเสียรายได้จากมาตรการรัฐประมาณ 6 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีต้องเร่งเก็บภาษีในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากน้ำท่วม อาทิ ค้าปลีก ขนส่ง
  
ทั้งนี้ ในปีหน้า กรมสรรพากรจะเอาจริงกับการจัดเก็บภาษีซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต (อี-คอมเมิร์ซ) ให้มากขึ้น โดยขณะนี้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้หมดแล้ว หากผู้ประกอบการรีบติดต่อมายังกรมสรรพากรเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้องจะถูกเอาผิดย้อนหลังเพียง 2 ปี แต่ถ้ากรมสรรพากรต้องไปเรียกให้มาเสียภาษี ผู้ประกอบการต้องเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่มย้อยหลัง 5 ปี และจะไม่ได้รับลดหย่อนเลย
""

ทีมา : http://www.usnzone.com/forum/thread-26448-1-1.html


กรมสรรพากร ระบุ ปี 2555 รุกเก็บภาษีจาก E-Commerce เพื่อให้ผู้ประกอบการเสียภาษีอย่างถูกต้อง
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในปีหน้า ทางกรมสรรพากร จะดำเนินการอย่างจริงจัง ในระบบการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต (E-Commerce) ซึ่งในขณะนี้ เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้หากผู้ประกอบการรายใดเข้ามาติดต่อทางกรมสรรพกร และทำการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ทางกรมสรรพากร จะมีการเรียกเก็บเบี้ยเงินปรับย้อนหลังเพียง 2 ปี เท่านั้น เนื่องจากในขณะนี้ ทางกรมสรรพากรมีข้อมูลและหลักฐานในการค้าของผู้ทำธุรกิจทั้งหมด ซึ่งหากทางกรมสรรพากรมีหนังสือเรียกให้มายื่นแบบแสดงภาษี ผู้ประกอบการรายใดที่โดนเรียกเก็บ จะต้องจ่ายเบี้ยปรับเงินเพิ่มย้อนหลัง 5 ปี โดยไม่มีการลดหย่อนในทุกๆ กรณี
        
ที่มา : http://www.9tana.com/node/ecommerce-tax-thailand/

อ้อ เป็นรอบรายได้ของปีที่แล้วใช่มัยครับ ถ้าปีนี้ก็ยื่นปีหน้า
ปีที่แล้วได้ไม่ถึง แสนห้าปีนี้ งั้นรอปีหน้าค่อยยืนใช้มัยครับ

แล้วพวกขายของในเว็บคนอื่นนี่นับเป้นอะไร พวกกระปุก สนุก ประมูล

ปี 2555 ไปยื่น 1 มค - 31 มีค 56 ครับ

เข้าใจผิดครับ รายได้ 30000 ก็ต้องยื่นแบบแล้วครับ ยื่นเพื่อให้รู้ว่าเรามีรายได้ แต่ไม่ต้องเสียภาษีครับ


เรื่องนี้ปรึกษาสรรพากร อีกที ดีกว่าครับ เพราะ มัน มี หลาย วงเล็บ ในการยื่นแบบ ว่าเรา จะอยู่ใน ข้อใด
แต่จริง ๆ ก็ ถือว่ารายได้มาจากการค้าขาย น่ะครับ แต่ เวลาจะยื่น จะมี (1) - (8 ) ก็ต้องดูว่า เรา จะ อยู่ใน () ใด

จริง ๆ ช่วงนี้ก็ โปรปรึกษาเบื้องต้นกับสรรพากร ก่อน ได้เลยนะครับ 1161

อยากให้ลองอ่านกรณีศึกษาของ   น.ส.เรืองระวี ช้างเสวก อีกหนึ่งผู้ประกอบการรายย่อย เจ้าของธุรกิจกระเป๋าหวายแฟชั่น เว็บไซต์ www.pjcraftshop.com (http://www.pjcraftshop.com)
 (ที่มา : http://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=8545 ๗

สรุปโดยย่อก็คือ
          เธอ เล่าให้ฟังว่า ทำธุรกิจจำหน่ายกระเป๋าหวายสานประมาณ 2-3 ปี เพื่อต่อยอดธุรกิจโรงงานผลิตเครื่องจักรสานและหวายสานของครอบครัว เนื่องจากมองว่าอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการสร้างโอกาสและกระจายการเข้าถึง สู่ลูกค้า แม้บางช่วงจะขายสินค้าได้ไม่ค่อยดี แต่การซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตก็มีข้อได้เปรียบ ไม่ว่าสภาวะแวดล้อมจะเป็นอย่างไรลูกค้ายังสามารถเลือกชมสินค้าได้ตลอดเวลา แม้จะยังไม่ตัดสินใจซื้อทันทีก็ตาม เจ้าของธุรกิจกระเป๋าหวายแฟชั่น อธิบายตามความรู้สึกอีกว่า ข้องใจกับค่าใช้จ่ายที่ผู้ค้าต้องเสียภาษี เมื่อนำสินค้าไปประกาศขายผ่านเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ ขณะที่การประกาศขายสินค้าบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊ก กลายเป็นพื้นที่อิสระสามารถซื้อขายสินค้าได้เช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่การเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเหมือนเป็นความเลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น หากจะมีการเรียกเก็บภาษีจากผู้ค้าอี-คอมเมิร์ซรายย่อย มองว่าควรเก็บจากผู้ให้เช่าพื้นที่บนอินเทอร์เน็ตมากกว่า เนื่องจากธุรกิจเหล่านั้นก็มีการคิดค่าใช้จ่ายซึ่งรวมค่าภาษีจากผู้ค้าอยู่ แล้ว

           ”ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเรียกเก็บภาษีกับผู้ค้ารายย่อย จากประสบการณ์ที่เคยขายสินค้าผ่านหน้าร้าน เคยพบว่ามีผู้ค้าจำนวนมากที่หลบเลี่ยงการจ่ายภาษีและไม่ถูกดำเนินการแต่ อย่างใด หากพูดถึงการค้าบนอินเทอร์เน็ตจึงมองว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่หากจะมีการเรียกเก็บภาษีกับผู้ค้ารายย่อยจริง ก็ถือเป็นเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึก ด้วยความรู้สึกว่าเป็นช่วงเริ่มต้นของธุรกิจซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จหรือ มีรายได้จำนวนมากพอก็ต้องเสียภาษี ถ้าเป็นแบบนั้นก็คิดว่าไปเปิดหน้าร้านขายจริงจังน่าจะดีกว่าขายผ่านออนไลน์ เนื่องจากระบบต่างๆ ยังคงยุ่งยากและตรวจเช็คได้ลำบาก” น.ส.เรืองระวี กล่าว

          เจ้าของธุรกิจกระเป๋าหวายแฟชั่น ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยว่า หากระบบทุกอย่างเป็นไปด้วยดีและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เชื่อว่าผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างก็ต้องยอมเสียภาษีอย่างถูกต้อง แม้อาจทำให้ผู้ค้ารายย่อยถอนตัวจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเป็นจำนวนมาก

          นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร อธิบายให้ฟังว่า การชำระภาษีมูลค่าเพิ่มถือเป็นเรื่องปกติของผู้มีเงินได้ถึงเกณฑ์ตามกฎหมาย แม้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซถือเป็นธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านไม่มีสถานที่ จึงอาจเกิดความไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องเสียภาษีหรือไม่ แต่เรื่องดังกล่าวไม่ถือเป็นข้อยกเว้นหรือแตกต่าง ถือเป็นธุรกิจประเภทหนึ่งที่ต้องดำเนินการเช่นเดียวกับธุรกิจอื่น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ส่วนผู้ประกอบการที่มีเงินได้ประเภทซื้อมาขายไปก็ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดาตามเกณฑ์ หากไม่มีหลักฐานชัดเจนก็อาจคิดเป็นค่าใช้จ่ายเหมาได้

          "ตามกฎหมายผู้มีรายได้ปีละ 5 หมื่นบาท ต้องยื่นแบบแสดงรายการ แต่เมื่อคำนวณแล้วไม่ต้องเสียภาษีก็ไม่เป็นไร สมมุติว่าเป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปี ที่ทำธุรกิจมีรายได้มหาศาลก็ยังต้องเสียภาษี เพราะเราใช้เกณฑ์พิจารณาจากรายได้ไม่ใช่อายุ" นายวินัย กล่าว

          อธิบดีกรมสรรพากร ชี้แจงด้วยว่า ส่วนการเรียกเก็บภาษีจากธุรกิจ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการศึกษา รวบรวมข้อมูล รวมถึงตัวอย่างจากต่างประเทศ จึงอาจมีการขยายฐานภาษีไปยังกลุ่มธุรกิจซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ ขณะที่ประเทศไทยก็มีการเรียกเก็บภาษีจากธุรกิจออนไลน์เพียงบางประเภทเท่า นั้น ทั้งนี้จากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ก็มีแนวโน้มและความน่าสนใจค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม อยากแนะนำผู้ประกอบการที่มีรายได้ชัดเจนให้เข้าสู่ระบบ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ค้าทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย เพิ่ม หากกรมสรรพากรตรวจพบในภายหลัง

แบบนี้ ต้องเอาให้ถูกต้อง ไปเลยดีกว่า ปลอดภัยไร้กังวลแน่นอน ครับ

พึ่งเริ่มขายเมื่อ 2 เดือนที่แล้วสงสัยต้องทำให้ถูกต้องซะแล้วสิ :wanwan035:

คนที่โดนตรวจสอบกันโดนกี่ปีครับ ผมโดน 2 ปี ไม่รุ้ว่าเนื่องจากผมเคยยื่นเสียภาษีรายได้ปรกติอยู่แล้วหรือเปล่า ใครโดน 5 ปีแจ้งด้วยนะครับจะได้รู้เหตุผล

 :wanwan031:

ผมขายออนนไลน์ แต่ระบบการจ่ายเงิน อยู่ในระบบทั้งหมด ปีนี้โดนไปเกือบ ครึ่งแสน  :-X
ทางออกอาจจะต้องซื้อประกันแบบลดหย่อนภาษี และกองทุนต่างๆ
หรือมีเงินเหลือ ก็ทำบุญ เก็บใบเสร็จ เพื่อใช้ในการลดหย่อนนะครับ
หรือสุดท้าย หาช่องทางในการทำบัญชีให้เนียนๆ

โดนแล้วมันจุก หมุนเงินก็ไม่สะดวก บางเรื่องเตรียมทางออกไว้ล่วงหน้าด้วยครับ

กระทู้้นี้ความรู้เรื่องภาษีเพี๊ยบ :wanwan017: :wanwan017:

เกิดโดนเรียกเก็บแล้วจ่ายเบี้ยปรับย้อนหลังแบบนี้ถ้าจะแย่เหมือนกันค่ะ  :wanwan035:

 :P

อ่านแล้วท้อใจ อยากเลิกค้าขายจริงๆ

ลดภาษีให้รายใหญ่ มาไล่บี๊รายย่อยแทน เยี่ยมจริงๆ  :wanwan005:

ประเทศไทยหนอประเทศไทย

เมื่อวานเพิ่งคุยกับเพื่อนที่ทำงานสรรพากร
เค้าบอกเลยว่า สรรพากรไม่สามารถขอดูบ/ช จากแบงค์ได้

อืม ...

ขอโทษนะคะ จดเป็นรูปบริษัทหรือจดทะเบียนอิเลคทรอนิกส์หรือเปล่าคะ
 :wanwan017:

สรรพากร จะเล่น ลูกประเมิน ครับ
เช่น ถ้าคุณทำเว็บ e-commerce 10 เว็บ
มาน(ขอเรียกแบบนี้) ก็จะ ดูว่า เว็บไหนของคุณทำรายได้เยอะที่สุด
แล้วมาน ก็จะเอาเว็บที่ทำรายได้เยอะที่สุด มาประเมินว่า เว็บที่เหลือ ต้องมีรายได้เท่ากัน
อะไรประมาณนี้ครับ

ปล. สรรพากรฟ้องคุณ เป็นผลงานของมานนะครับ (ชนะหรือไม่ชนะไม่รู้ แต่มานได้ผลงาน)

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจ่ายปีละ 2 ครั้งสามารถนำค่าใช้จ่ายไปหักล้างได้ ไม่หน้ากลัว
จ่ายไปเภอะครับ อย่างน้อยก็ได้ เศษๆๆ ของภาษีถึงลูกหลาน และบ้านเกิดของเราบ้าง
ธุรกิจเล็กถึงกลาง สรรพกร เขาจ้องนะครับ อุตสาหกรรม ยกเว้นรายรายการ
จงร้องเพลงชาติไทย ให้ตัวเองเถิดครับ

ขอบคุณที่มาแบ่งปันคร้าบบ  :wanwan031:

ตามเนื้อผ้าเลยครับ สรรพากร เราต้องใช้เงินจากภาษีไปพัฒนาประเทศของเรา ผมก็โดนครับ ในช่วงแรกในการจดทะเบียนเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหลังจากจดทะเบียนได้ไม่นานควรให้สรรพากรมาประเมินธุรกิจของเรา ถ้าเขาไม่มาเราควรไปหาเขา อย่าปล่อยให้มันเนินนาน จะโดนไม่น้อยนะครับ :-X

มีรายได้เกิน ที่กฎหมายกำหนด ต้องเสียภาษี ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา ทำธุรกิจคนเดียว หรือ หจก บริษัท ครับ

ไปเจอมา ..........................

เสียภาษีไม่ถูกต้อง อาจถูกยึดทรัพย์และถูกฟ้องล้มละลายได้
?
??????????? คุณบัญชา เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ในการทำธุรกิจสมัยหนุ่ม เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันอายุ 68 ปี โดยทำธุรกิจค้าขายรถยนต์ ให้กับส่วนราชการ โดยทำธุรกิจในรูปของห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยรับผิดโดยหนี้สินของห้างโดยไม่จำกัดจำนวน มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการชำระภาษีไม่ถูกต้อง อันสืบเนื่องมาจากเหตุผลดังต่อไปนี้
?
-????????? ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการชำระหนี้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา
-????????? เอกสารเกี่ยวกับใบกำกับภาษีตกหล่น สูญหาย หรือพนักงานโกง พนักงานส่งมอบเอกสารให้กับสำนักงานบัญชีไม่ครบถ้วน
?
??????????? ด้วยไม่เข้าในในตัวบทกฎหมาย เมื่อถูกสรรพากรเรียกไปพบเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ตอบคำถามไม่ได้ จึงทำให้เกิดภาระภาษีขึ้น ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2541 มีภาษีรวมประมาณเกือบสี่ล้านบาท โดยสรรพากรเรียกภาษีย้อนหลัง เนื่องจากมิได้ปฏิบัติตามประมวลรัษฎากร และยื่นแบบแสดงภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ถูกต้อง
?
??????????? เมื่อโดนภาษีเกือบสี่ล้านบาทในปี พ.ศ. 2541 ก็รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจในการทำธุรกิจ แต่เจ้าหน้าที่สรรพากรก็ให้โอกาสเพื่อเข้าไปเจรจาผ่อนชำระ โดยให้ผ่อนตามกำลัง แต่ผ่อนชำระไปได้เพียงบางส่วนก็หมดปัญญา เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ และท้อถอยหมดกำลังใจ
?
??????????? ต่อมาจนถึงปี พ.ศ. 2550 ซึ่งอายุความภาษีจะขาดอายุความ (จะครบกำหนด 10 ปี ) สรรพากรก็ได้มีการคิดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม จากปี พ.ศ. 2541 จำนวนเกือบสี่ล้านบาทเป็นจำนวนสิบล้านบาท
?
??????????? และเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ก็ได้ฟ้องเป็นคดีล้มละลายที่ศาลล้มละลายกลาง
??????????? ก่อนฟ้องคดีสรรพากรได้ใช้อำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 สั่งยึดทรัพย์สินของผู้ค้างภาษีอากร โดยยึดบ้านพร้อมที่ดิน , เงินฝากธนาคารทุกบัญชีของข้าพเจ้าจนหมดสิ้น และห้ามมิ
?
ให้ข้าพเจ้าถอนหรือทำให้เสียหายเกี่ยวกับเครื่องหมายในการยึดอายัด หรือทำให้ทรัพย์ที่ยึดไว้เสียหายหรือฉีกหมายออกจากบริเวณที่มีการยึดทรัพย์ตาม ป.อ.มาตรา 141, 142 , 369
?
-????????? สรรพากรยังมีหนังสือไปยังสำนักงานที่ดินต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบกรรมสิทธิ์ในที่ดินและตรวจสอบบัญชีเงินฝากทุกธนาคารของข้าพเจ้า
-????????? นอกจากนี้สรรพากรยังมีหมายเรียกไปยังผู้จัดการธนาคารต่าง ๆ เพื่อให้ส่งรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีเงินฝาก โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 12ตรี แห่งประมวลรัษฎากร หมวด 1 ลักษณะสองว่าด้วยภาษีอากรฝ่ายสรรพากร
?
??????????? สรรพากรแจ้งว่า ถ้าเจตนาหลีกเลี่ยงเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร มีความผิดอาจถูกลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา นอกจากนี้หากเป็นบุคคลต่างด้าวอาจถูกเพิกถอนสัญชาติหรือเนรเทศ (ตามข้อ 11 แห่งระเบียบกรมสรรพากรว่าด้วยการเร่งรัดจัดเก็บภาษีอากรค้าง พ.ศ. 2545) รายละเอียดปรากฎตามเอกสารที่นำมาให้เพื่อนสมาชิกได้ดูไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนที่ทำการค้าว่าอย่าคิดหลบเลี่ยงภาษี มิฉะนั้นอาจเป็นเช่นนี้
===================================
บอกตามตรงว่าท้อกับการทำธุรกิจมากๆ เพราะปัจจัยการทำให้ซวยสูงขึ้น โลกใบนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน

เราขายของแพงลูกค้าก็ไม่ซื้อ
ขายของถูกก็ไม่ได้กำไล
ขายปานกลางก็โดนหน้าใหม่มาตัดราคาขายอีก

ขายได้ก็ต้องมาเสียภาษีอีก
หากทำภาษีไม่ถูกต้องก็อาจเป็นหนี้ท่วมหัวโดนยึดบ้านไม่มีที่อยู่ได้อีก เฮ้อซวยจริงๆ
เหนื่อยใจแท้เหลา

บางครั้ง แอบอิจฉาขอทานข้างถนน ชีวิตอิสระ ได้เงินมาก็ใช้ไป ไม่ต้องมีใบเสร็จ
ขอทานบางคนหาเงินได้เป็นแสนเป็นล้าน ภาษีทั้งชีวิตไม่ต้องจ่ายสักแดง ช่างสบายอะไรเช่นนี้
ไอ้เราใส่เสื้อผ้าดูดี หารู้ไม่มีหนี้รอจ่ายบานเลย

แต่ถ้าถามว่าให้ไปเป็นขอทานเอาไหม? แค่หาเสื้อผ้าเก่าๆเดินไปสะพานลอยแล้วนั่งลงไม่กี่นาทีก็หาเงินได้ง่ายมากๆ
เชื่อว่าก็คงไม่มีใครเอา ยังมือมือมีเท้า ก็ต้องดิ้นกันต่อไป มนุษย์เอย
ขอเป็นกำลังใจให้นักธุรกิจทุกคน สู้ไปด้วยกัน :wanwan003:

กระทู้ดีมาก เหมาะกับการเริ่มต้นทำ e-com เลยทีเดียว เรื่องภาษีไม่ต้องห่วงครับ มีเงินให้เสียภาษี ดีกว่า ไม่มีรายได้ให้เสียภาษี  :wanwan002:

โดนเช่นกันครับ

รายได้ตอนแรกไม่ได้มาจากขายของด้วย แต่ตอนแรกไม่ได้สนใจเรื่องภาษี เน้นง่ายเข้าว่า

เอาบัญชีที่สะดวกรับเงินเข้าหมด กลายเป็นว่า เค้าดูแต่เงินเข้า ยอดเลยพุ่ง ซึ่งขายจริงไม่ได้ขนาดนั้น

ตอนนี้ไปยื่น statement ที่สรรพากรสำนักงานใหญ่แล้วครับ รอเค้าแจ้งกลับมาอยู่

ถ้าทำงานประจำไปด้วย ขายของบน facebook ไปด้วย ต้องยื่นเพิ่มมั๊ยครับ
แล้วจะแสดงแหล่งที่มาของรายได้จากการขายยังไง

ข้อแนะนำขั้นต้น สำหรับผู้ที่ทำ e-commerce + งานประจำ หรือ รับงานมาทำเอง
คือ เปิด บ/ช เฉพาะ รับเงินเดือน/งาน และ บ/ช ที่ทำ e-commerce

เพื่อแยกแยะรายได้ให้เห็นชัด และ ทำให้ฐานภาษีคุณไม่กว้างเกินไป เป็นคำแนะนำเบื้องต้นง่ายๆ นะครับเอาไปทำกันดู

ปล.ปัจจุบัน ผมไม่เคยเอาเงินฝากแบงก์ครับ รับเงินสด เก็บอยู่บ้านอย่างเดียว เว้นแต่ลูกค้าอยู่ ตจว. แล้วโอนเข้าบ/ช มาให้

นึกว่าพี่สันขวาน

ถ้าผมขายเครื่องบินส่วนตัวไป 1.8 ล้าน ผ่าน internet โดยลูกค้าโอนเข้าบัญชีที่เปิดไว้เพื่อรับเงินส่วนนี้โดยเฉพาะจากต่างประเทศ แต่กำไรส่วนต่างที่ได้จากการขายแค่ 100 บาท ผมจะ้ต้องเสียภาษีมั้ยครับ ต้องเสียเท่าำไร และเป็นภาษีอะไรครับ

คำถามดังนี้ครับ

บัญชี 1

ค้าขาย รับเงินโอนเข้าบัญชี นี้
แต่บัญชีนี้ ก็ต้องโอนออก เพื่อซื้อสินค้ามาขายเหมือนกัน

ตย. รับโอน 5,000 โอนออก 4,500 เราสามารถเก็บสลิปการโอนออก เป็นค่าใช้จ่ายไปหักลบ ได้หรือไม่ เพราะไม่มีใบซื้อขาย ใบเสร็จ

ไม่ได้ครับ  :wanwan004: เค้ามีเปอร์เซ็นต์การหักอยู่แล้วครับ ยังงั้นมันเป็นหลักฐานไม่ได้ครับ ยังงั้นผมโอนออกให้หมดเลยสิจะได้ไม่ต้องเสียภาษี

ต้องดูว่าเครื่องบิน มี หลักฐานการซื้อถูกต้องครบถ้วนตาม ก ม . กำหนดหรื่อเปล่าครับ ถ้ามีก็ คำนวณคร่าวๆดังนี้
รายได้ 1.8 +100 หัก ต้นทุน ซื้อ 1.8 กำไรขั้นต้น 100 บาท หักคชจ.ในการขาย เป็นค่าโทรประสานงานต่างประเทศแล้วกันครับ สัก  10,000
คงเหลือ (ขาดทุน) 9,900 บาท
คำถาม ต้องเสียภาษีไม่ ไม่ต้องครับ
ส่วนมีรายได้เกิน 1.8 ต้องเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม นั้น จากกรณีนี้ได้รับยกเว้นครับเพราะเป็นธุรกิจส่งออกเครื่องบินครับ
เอาแบบง่าย ตามรายละเอียดที่มีนะครับ

ปล.มีเหลือขายผมสักลำไหมครับ
แต่ถ้าขายผมต้องคำนวณภาษีให้ดูกันใหม่นะครับ เพราะไม่ได้ส่งออก  :wanwan020:

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ ^^

เดี๋ยวอาทิตย์เข้าไปคุยกับสำนักบัญชีแล้วว่าจะแว้บเข้าไปคุยกับพี่สรรพเขาหน่อยเรื่องนี้

ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวมาแจ้งข้อมูลครับ เอาให้เคลียร์ไปเลย

:wanwan020:

ทำอะไรต้องคิดหน้า คิดหลังให้ดีครับ.... :P

  คำแนะนำจากประสบการณ์ตรงเลยนะค่ะ พี่สรรไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ

1. เตรียมข้อมูลให้พร้อม เตรียมตัว เตรียมใจให้สบายไม่ต้องเครียดก่อนเข้าไปคุย เดี๋ยวจะคุยแบบร่มๆ ได้ไม่นานค่ะ

2. รายได้ที่นำมาคำนวณ คือรายได้ทุกสิ่งอย่างที่วิ่งเข้ากระเป๋าเราค่ะ แต่พี่สรรก็จะมีระบบให้หักต้นทุน 70 - 80% หัก นั้น นู้น นี้ จิปาถะ ก่อนนำมาคำนวณจริง

3. ข้อนี้สำคัญ หากยอดเงินที่คำนวณออกมา เป็นยอดที่ต้องจ่ายจริงแ้ล้ว เรายังรู้สึกว่าหนักเกินไป ต่อรองกับพี่สรรแบบหน้ายิ้มๆ  :wanwan008: เข้าไว้ค่ะ

   ลองถามถึงคำว่า " จ่ายเหมา " ดูค่ะ พี่สรรจะมีเรทประเมินคร่าวๆ ที่เราพอรับไหว ซึ่งตรงนี้แหละถูกลงมาอีกมากโขอยู่ค่ะ  ทีนี่เราก็ลองดูค่ะ ว่าเราไหวที่เท่าไหร่

   เริ่มจากจ่าย ต่ำๆ แล้วค่อยเพิ่มไปทีหลังก็ยังได้่ค่ะ

   
   ส่วนตัวแล้ว เป็นคนเดินเข้าไปหาีพี่สรรเองเลยค่ะ  ไม่ต้องรอเรียก  ไม่ต้องรอตรวจสอบ  พี่สรรจะพอใจมาก  และจะใจดีคำนวณเรทต่ำแบบพิเศษสุดให้อยู่แล้วค่ะ
   

น่ากลัวมากครับ เพราะพยายามหากิน เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง  กฎหมายรู้ไม่หมด กลายเป็นเหยื่อของคนร้าย

Vat 7% ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ถ้าขายของผ่านเน็ทแบบธรรมดาๆ ทั่วไป ถึงแม้รายได้จะถึง 1.8 ล้าน/ปี แต่การไปเรียกเก็บภาษี 7% มั่วซั่วก็ติดคุกได้นะ เพราะต้องดูสิทธิในการเรียกเก็บภาษีจากลูกค้าด้วย เรื่องมันจะยาวไปถึงที่มาของสินค้าต้องมี Vat ซื้อด้วย ไม่ใช่จะมาเก็บแต่แวทขาย เพราะเคยได้ยินคดีตัวอย่างมาบ้าง คือเขียนไปเสร็จลงจำนวนเงินเก็บภาษีตามปกติ สุดท้ายต้องขึ้นศาล

ผมเองก็ไม่เข้าใจในรายละเอียด แต่ดูมันซับซ้อน

ที่แน่ๆ ผมว่าหนึ่งในบอร์ดนี้ คงเป็นพี่สันตัวจริงมาป่วนล่วงหน้า หาข้อมูลว่างั้นเถอะครับ อิอิ  :wanwan031:

สรุปแล้วเสียษี หรือว่าโดนปล้นกันแน่ครับ  :wanwan014:

รับทราบครับ  :'(

ความรู้ใหม่เลยครับ ขอบคุณมากครับที่มาแชร์ให้ความรู้

ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ต้องจดทะเบียน

มีระบบการสั่งซื้อ เช่น ระบบกรอกฟอร์ม ระบบตะกร้า e-mail หรืออื่นๆ
มีระบบการชำระเงิน ออฟไลน์ หรือ ออนไลน์ เช่น การโอนเงินผ่านระบบบัญชี การชำระด้วยบัตรเครดิต หรือ e-cash , e-wallet เป็นต้น เป็นต้น
มีระบบสมัครสมาชิก เพื่อรับบริการข้อมูลหรืออื่น ๆ โดยมีการคิดค่าใช้จ่าย (ถือเป็นการขายบริการ) เช่น บริการข่าวสาร/บทความ/หนังสือ การรับสมัครงานผ่านทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
มีวัตถุที่ประสงค์หลักในการรับจ้างโฆษณาสินค้าหรือบริการของผู้อื่น และมีรายได้จากการโฆษณานั้น
รับจ้างออกแบบเว็บไซต์ หรือเพียงโฆษณาว่าเป็นผู้รับจ้างออกแบบเว็บไซต์ เพราะถือว่าการออกแบบเว็บไซต์นั้นมีช่องทางการค้าปกติบนอินเทอร์เน็ต
เว็บไซต์ให้บริการเกมส์ออนไลน์ที่คิดค่าบริการจากผู้เล่น (เจ้าของเว็บไซต์ต้องจดทะเบียน)
เว็บไซต์ที่มีการส่งมอบสินค้าหรือบริการผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น การ Download โปรแกรม เกมส์ Ringtone Screensaver SMS เป็นต้น


ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ไม่ต้องจดทะเบียน

มีเฉพาะหน้าร้านโชว์สินค้าของตนเอง แต่ทำการค้าในช่องทางปกติ (ไม่ใช่อินเทอร์เน็ต) แม้จะมีข้อความแจ้งว่าให้ติดต่อได้ เช่น สนใจโทร.ติดต่อ… หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่….
การโฆษณาสินค้าของตนเอง โดยลักษณะของการโฆษณานั้นไม่ใช่วัตถุที่ประสงค์หลักของกิจการและไม่ใช่ช่องทางค้าปกติ แม้จะมี banner ของผู้อื่นมาติดและมีรายได้จาก banner ก็ตาม
การประชาสัมพันธ์หรือเผยแพร่ข้อมูลแก่สมาชิกหรือบุคคลทั่วไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือบริการ เช่น เพื่อการสอน ประกาศรับสมัครงาน
การประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท หรือสินค้า
เว็บไซต์ส่วนตัว (ส่วนบุคคล) ที่สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว การงาน การศึกษา หรือความสนใจส่วนตัว
เว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางด้านข้อมูล โดยมีจุดประสงค์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยไม่มีการเสียค่าสมาชิกหรือ ค่าใช้จ่ายใดๆ
ร้านอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการในการเล่น net ที่เจ้าของร้านได้รายได้จากค่าชั่วโมงการเล่นอินเทอร์เน็ต (อินเทอร์เน็ตคาเฟ่) และ เกมส์คอมพิวเตอร์ ประเภทนี้ เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตฯ
ไม่ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ให้จดทะเบียนพาณิชย์ ปกติ (ถือเป็นพาณิชยกิจธรรมดา ในช่องทางปกติ ไม่ใช่ e-Commerce )


ที่ีมา http://www.ireadyweb.com/howtoecommercewebsite.php

อ่านแล้ว มึนๆ ต้องรายได้เท่าไหร่นะคะ
ถึงจะต้องไปเสียภาษี
เราก็ยื่นภาษีทุกปีนะ แต่ไม่ได้แจ้งรายได้ในส่วนที่ขายของใน net
ได้คืนภาษีมาทุกปี ^^

 :wanwan020:

ถ้าสมมุติสมัครบัญชี ธ.กสิกรไทย 2 บัญชี

ทั้ง 2 บัญชี มีชื่อเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงเลขที่บัญชี โดยที่บัญชีใส่คนละร้านค้าออนไลด์กัน

แบบนี้จะโดนมั้ยครับ

โดนครับ
เขารู้หมดแหร่ะ คุณมีกี่บัญชี กี่ธนาคาร  และเขาไม่สนกี่บัญชี เขาสนว่ารายได้มาจากใหน

น่ากลัวจัง  :wanwan006:

บอกตามตรงว่าผมยังเครียดมาก ๆ จากต้นปีจนถึงทุกวันนี้ ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ผมเองจ่ายภาษีเงินได้มาตลอด ยังถูกเรียกดูบัญชีย้อนหลัง มีหนังสือมาถึงบ้าน ลงตราประทับทางราชการพร้อม ก็จำใจต้องส่ง statement ปรากฏว่าผมต้องจ่ายภาษีเงินได้เพิ่มอีก ทำไมอ่ะครับ ในเมื่อผมเดินไปหาสรรเองแล้วเค้าก็ให้เราเหมาๆ ในเมื่อให้เราเหมา ๆ โดยไม่ดูรายได้เราตามจริง ผมจึงคิดว่าผมไม่ควรโดนย้อนหลังตามจริง ในเมื่อผมทำถูกต้องมาตลอดแล้ว แถมที่ซวยกว่านั้น ยอดผมถึงเกนฑ์เสีย VAT เมื่อมีที่แล้ว กว่าจะเสร็จเรื่องคำนวน ก็ปาไปจะครื่งปีแล้ว ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ผมยิ่งอ่วมมาก ๆ ครับ จะหยุดขายก็หยุดไม่ได้ไม่มีเงินจะใช้ ภาษีซื้อผมก็ไม่เคยขอไว้ ใครจะไปรู้

ผมรู้นะครับว่ามีพี่สรรตัวจริงอยู่ในนี้ ผมขอถามคำถามง่าย ๆ เรื่อง ภาษีรายได้ ผมจ่ายเหมา ๆ มาตลอด แล้วทำไมผมต้องเสียเพิ่มอีก ในข้อหาปีถัดๆๆ ไป เสือกขายได้เยอะงั้นหรือ??? อีกข้อ VAT มีอะไรมารองรับการจัดการกับการเก็บภาษีในตรงนี้สำหรับ e-commerce คุณสรรรู้มั้ยว่ามันไม่ง่ายเลยนะครับสำหรับการบริหารจัดการสำหรับบุคคลธรรมดาใน e-commerce ในเมื่อสรรไม่เคยขายสินค้าในเน็ตคงจะไม่รุ้ว่ามันยากแค่ใหนในเรื่องการจัดการตรงนี้ แล้วอีกอย่างในเมื่อผมต้องเสียทั้งภาษีรายได้ และ VAT ถามว่าผมควรได้รับการสนับสนุนอะไรเป้นการชดเชยสำหรับ e-commerce บ้าง อย่างเช่นให้ Trust หรือ ลดค่าขนส่งที่แพงสุดๆ ในขนะนี้ ใหน ๆ ก็จะเก็บกันแล้ว ก่อนเก็บสมควรให้คิดว่าจะช่วยเหลือคนทำงานสุจริตเหล่านี้ได้อย่างไรบ้างด้วยครับ

คำพูดเหล่านี้ผมเคยพูดจาอ้อนวอนกับพนักงานสรรแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ผมเข้าใจว่าคุณถูกวางธงมาคุณก็ทำให้ได้ตามหน้าที่ที่ได้รับมาเป็นทอด ๆ เป็นเรื่องปรกติของคนทำงาน ผมเข้าใจ แต่จะบอกว่าผมเป็นผู้มีเกียรตินะครับ เป็นผู้จ่ายภาษีให้ประเทศอย่างถูกต้อง ยกเว้นที่โง่เรื่อง VAT ยอมรับว่าไม่เคยรู้มาก่อน ถ้ารู้คงเลิกขายช่วงปลายปีไม่ให้ยอดมันถึงไปแล้ว ผมไม่ใช่ผู้รายหนีภาษีแต่อย่างใด

ผมต้องการคำปรึกษาสองเรื่อง คือภาษีรายได้ อนาคตผมควรเสียอย่างไรดี จะได้ไม่โดนย้อนหลังอีก และ VAT ผมควรจัดการกับมันอย่างไร ทำอย่างไรถึงดีที่สุด
ใครที่ใจบุญให้คำปรึกษาผมได้ ช่วยผม pm ทีนะครับ ผมจะถือว่าคุณมีพระคุณกับผมทั้งในชาตินี้และชาติหน้าขอให้คุณไม่จนมีทรัพย์ไปตลอด
ขอบคุณครับ

ไปส่งมอบ statement เป็นเดือนแล้วครับ เค้ายังไม่ติดต่อกลับมาเลย ไม่รู้จะหมู่หรือจ่า - -'

1. การเหมาตามคำแนะนำ ถือเป็นสิ่งที่ผิดเลยครับ ไม่ควรไปเชื่อสรรพากรครับ

2. VAT เป็นภาษีที่คุณต้องทำหน้าที่เรียกเก็บแทนสรรพากรครับ  เรื่องจะทำยากแค่ไหน สรรพากรไม่จำเป็นต้องรับรู้ครับ
และมีธุรกิจอีกหลายประเภทที่ยากกว่านี้ครับ  แต่ก็เกณฑ์เดียวกันครับ

ทำยาก >> กำไรต้องมาก
ทำง่าย >> กำไรส่วนมากจะน้อย

ถ้าทำยากแล้ว กำไรน้อยอีก เลิกทำครับ

3.
ภาษีเงินได้ ก็ทำบัญชีรายได้ครับ แบบง่าย ๆ วันที่เท่าไหร่ รับเงินเท่าไหร่ ค่าอะไร
สิ้นปีก็รวมยอด แล้วเอาไปเป็นยอดเงินที่่ต้องคำนวณเพื่อเสียภาษีครับ

ส่วน VAT ก็แปรผันตามรายได้ครับ ทางหนึ่งก็บวกราคาเพิ่มไปจากเดิม
หากบวกเพิ่มไม่ได้ ก็ต้องยอมกำไรน้อยลง (หรืออาจจะขาดทุน คำนวณดูดี ๆ ครับ)

จริง ๆ แล้วควรจะทำให้ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเข้า VAT ครับ คือมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านต่อปี แต่ให้มีกำไรมากกว่า 20% ของรายได้

หรือสุดท้ายคือนอกระบบหรือหนีภาษีนั้นเองครับ

โดยปกติ ถ้าส่งไปเป็นกระดาษเป็นรีมก็ใช้เวลานานครับ บางคนกว่าจะรู้เรื่องก็หลังจากส่งไป 3 เดือนก็มีครับ

เอาใจช่วยครับ

ผม PM ไปแล้วนะครับ
พี่น้อง TSB ไม่ทิ้งกันครับ

ใครมีเงินเยอะๆ แนะนำว่าให้ซื้อที่ ซื้อบ้าน สังหาอสังหาไว้ครับ ใส่ชื่อพ่อแม่ลูกไว้ ในบัญชีstatmentก็มีตังไม่มาก  :o  แต่อย่าโดนฟ้องล้มละลายละ ไม่มีเหลือ  :-X  ใครๆ คนดังๆ ก็ทำยังงี้กันทั้งนั้น  :wanwan016:

ตามอ่านทุกหน้า ความรู้เพียบ 
สรุปต้องจดทะเบียนแล้วสิเรา

เอาใจช่วยพ่อค้าแม่ค้าทำมาหากินสุจริตให้ผ่านพ้นทุกเรื่องไปได้ด้วยดีครับ ^^

ขอบคุณ สำหรับความรู้ ดีๆ :wanwan017: