ThaiSEOBoard.com

ผม ว่า ผมลองมาหลายแนวแล้วนะ หว่าน kw ทิ้งไว้ 4 campaign โฆษณา กะ 3 เจ้า / เฉลี่ย 10,000 kw ต่อ campaign บิด 0.5-0.10 (หว่านให้ CJ) หมดค่าคลิกไป 100 กว่าคลิกละ ROI = 0%

ขาย Amazon สินค้ามีตั้งแต่ $40-$3000
ทำทั้งหว่าน ทั้ง niche บิดต่ำ 0.5 บิดกลาง 0.15 บิดทะลึ่ง 0.40 ลองทุกอย่าง มีตั้งแต่ campaign ละ 10kw ไปจนถึง campaign niche 100 kw ดูผลผ่านมา 1 อาทิตย์ ขาดทุนไป $30

ผลก้อคือ
ROI = 0%

ผมพลาดอะไรไป??

A/B Test ก้อทำ บาง campaign มี 2 adtext บาง campaign ทำ 5-6 adtext

ROI = 0%

CJ ก้อไม่ได้ขาย Amazon ก้อไม่ได้ขาย Astore ก้อไม่ได้ขาย

พยายามดูทุกอย่าง อ่าน forum เยอะแยะ

อ่านตั้งแต่ เว็บนี้ เสียวบอด เสียวในไทย webmasterworld digitallpoint warrior
โหลดวิดิโอ ศึกษา ทั้งไทย ทั้งอังกฤษ กะว่าตัวเอง เข้าใจภาษา ได้เปรียบคนอื่น ศึกษาละเอียดยิบ

แต่ก้อยัง
ROI = 0%

Ads preview ทีละ kw ก้อแล้ว
ใช้พวกเว็บ spy ก้อแล้ว
เก็บข้อมูล top bid จำนวน ads คู่แข่ง สารพัดจะวิเคราะห์

มันก้อยัง
ROI = 0%

สรุปผมขาดอะไรหรอ   :-* :-* :-* :-*

สถานการณ์เดียวกันเลยครับ รอท่านเซียนมาช่วยครับ

ผมขาดทุนไป $3k  :'(

แต่ก็ลุยต่อ (แบบ seo ไม่ต้องลงทุน เพราะทุนหมดแล้ว)
ตอนนี้ทำงาน ทำโอที เก็บเงินแต่งเมียโลด  ;D

ขอตัวอย่างสินค้า, kw และโฆษณาครับ pm มาก้อได้ จะได้ช่วยดูให้

หรือให้พี่ ปุ้ย DollarLism ก้อได้ เพราะพี่เค้าเทพกว่า คิๆๆๆ :D

อะ โพส 2 ที่เลยละกัน ไว้แลกเปลี่ยนเรียนรู้

เอาเป็นกรณีศึกษาเลยละกัน
ชิ้นที่ 1
อันนี้ไม่ได้ศึกษาคู่แข่ง ดูจาก imp กะ kw คงเยอะมหาศาล

อันนี้เป็น Lead Gen นานๆ มันจะตอบรับให้ทำ Lead เลย ลองดู
Adtext 2 ตัว ยกตัวอย่างมา 1 ตัว อันนี้ ส่งเข้า homepage เตรียม register

What's your Credit Score? 
Applying a Loan? Finding jobs?
Get Credit Score. Fast Free Easy! 

Kw ประมาณ 12,000 kw
Tactic: Broad, Phrase, Exact หมดเลย

สถิติ จาก adCenter (รันทด) บิด 0.05 แอบบิดเล่น 0.40 ตัวนึง แต่ไม่เวิก

Total spend  Total impressions  Total clicks  Avg. CTR%  Avg. pos.  Avg. CPC
 4.73             10,169                  20               0.20 2         2.57      0.24


ชิ้นที่ 2
อันนี้ spy คู่แข่งมาบ้าง มีทั้งเจ้าของเว็บมาเล่นเอง แล้วก้อ เจ้าของเว็บ aff รายใหญ่ อื่นๆ top bid ราวๆ 1.10

ผมบิดที่ 0.25 ตอนนี้ ถอยลงมาทิ้งไว้ 0.05
มีทั้งหมด 20,000 kw เอามาจากเว็บ 95% ไม่ได้ใช้ program หา kw ช่วย
แต่ใช้ kw variation พวก city ต่างๆ ด้วย

Tactic: Phrase + Exact

อันนี้เป็น Ticket Sale

Adtext 6 ตัว ยกมาให้ชม 2 ตัว LP ส่งตรงไปที่หน้า Search=(kw)
แต่ผลของหน้า Search วิเคราะห์แล้วคิดว่า มันโอเค คลิกอีก ไม่เกิน 3 ที ก้อถึงจุด ซื้อ
ถ้าส่งตรงๆ อาจได้สินค้าไม่ตรงกะวันที่คนซื้ออยากได้ Search ให้เลือก กว้างกว่า

{Keyword:Buy Concert Tickets}
Which Seats? What Price?
Check the Seat Map and Decide!

{Keyword:Buy Concert Tickets}
Buy {Keyword:Concert Tickets}
Online from our Seat Map!

สถิติ จาก YSM
Impressions CTR (%) Clicks Avg. CPC ($) Cost ($)
4,460            1.03         46      0.20       9.00
จาก adwords
Clicks  Impr. CTR       Avg. CPC Cost
10       1,717 0.58%    $0.26    $2.63


สินค้าอันแรก 1) ได้คลิกมา 130 คลิก บิด เฉลี่ย 0.15  (YSM บังคับ+Adwords เจอ min bid บังคับ+ตัวเองทะลึ่งบิดแข่ง kw แพง)
ผลลัพธ์ ขายไม่ออก

สินค้าอันสอง 2) ได้คลิกมา 100 คลิก บิดเฉลี่ย 0.20 (bid range 0.15-0.30)
ผลลัพธ์ ขายไม่ออก

ตอนนี้ที่ทำ
- pause campaign ที่ส่งไปหน้ากว้างๆ ทั้งหมด
- ลดบิดทุกอย่างลงมา 0.5 QS จาก poor ตอนนี้เห็นมี Great เยอะแล้ว เลยบิดได้
- กะลังโฆษณา สินค้า Brand ชนิดนึง ให้ Amazon มันถูกมาก niche ปานกลาง Search kw เจอ 5x,xxx-2xx,xxx ผลลัพธ์
แต่คู่แข่ง เกิน 10! ส่วนมาก Broad match คลุมมาถึง ผมใช้ Display เป็น Amazon เพี้ยนๆ ที่ Amazon จดไว้ให้ redirect ไปหามัน
ไม่รู้จะโผล่ปะ  บิด 0.16 (กะ 80 คลิก ซื้อ 1 เริ่มได้กำไร) แต่ปัญหาคือ คู่แข่งเยอะ บิดต่ำ ไม่ได้เกิด มันบิดยังไงกัน $1 เอากำไรจากไหนนี่
รัน ads มา 30 กว่า ชม. พึ่งมี imp มา 10 กว่า ยังไม่มีคลิก Adwords กะ YSM รันแล้ว // Adcenter ยังเดี้ยงอยู่


รบกวนช่วยชี้ทางสว่างให้ผมหน่อย ทำพลาดตรงไหน
ขอบคุณมาก (ซึ้งล่วงหน้า)   :-* :-* :-*

คิดว่าเขียน ad text ไม่ดีพอ

ad text มีผลทำให้คนซื้อไม่ซื้อได้ด้วยนะ

หรือ อยู่ที่ Landing page น่ะแหละ ไม่เชิญชวน(ให้เสียตัง)

สินค้าไม่ดึงดูด(เงินในกระเป๋า)มากพอ

ไม่ใช่เซียนนะคะ แต่อยากช่วยตอบบ้าง (เผื่อได้อนิสงค์ทำให้ขายดีบ้าง) :D
Keyword ไหน คนคลิก ร้อยสองร้อย แล้วไม่ซื้อ เลิกดีกว่าคะ แสดงว่า คนที่ search ด้วยคำนี้ไม่ซื้อจริง
ส่วนตัวที่ยัง คลิก น้อยๆ ต้องรอลุ้นนะคะ

โดยส่วนตัวบิดเริ่มต้นไม่เคยต่ำกว่า $1.0  keyword น้อยๆ  คนเห็นไม่มาก (ถ้าคนเห็นมาก คลิกเยอะ แล้วไม่ซื้อ ก็เจ๊งกันพอดี)  ctrต้อง 10% ขึ้นไป (ไม่นับ content)
ถ้าตัวไหน ctr น้อย ก็ตัดทิ้งเลยคะ เพราะเริ่มต้นจะบิดสูงๆ ให้ติดอันดับไม่เกิน 4 เพราะฉะนั้น ctr ต้องสูง ถ้าไม่อย่างนั้น keyword ต้องไม่ดีแน่ๆ 
 
อืม โฆษณาที่ทำใน adword เจ้า keyword ที่เป็น board แล้วก็ phase เข้าไปดู report ได้นะคะ ว่าเค้าใช้ keyword อะไรกันแน่ search เข้ามา

ขายตั๋ว concert เหมือนกันเลยคะ เป็นอะไรที่แข่งกันดุเดือดมากๆ เดือนที่แล้วยัง track keyword ไม่เป็น ขาดทุนไปเป็นพันดอลล่าร์ เลือดซิบๆ เลย

ยังไงก็ขอให้ขายได้ในเร็ววันนะคะ สู้ๆ :)

เข้ามาดูดความรู้ครับ  :-*

แบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับทุก KW ถูกต้องมัยครับ ฉะนั้นปัญหามันอยู่ที่ KW ที่เราใช้นั่นเองครับ การหว่าน KW ก้อคือการที่เราจะสุ่มหา niche KW นั่นเอง ใช่มัยครับ

อย่างแรกที่เราต้องเข้าใจก่อนก้อคือ "ทำไมเราทำไม่ได้เหมือนคนอื่นเค้า" ตอบได้อย่างเดียวครับว่า เทคนิคไม่เหมือนกันนั่นเอง เทคนิคที่เราใช้หา KW บางทีเราอาจจะปิดกั้นบางอย่างบางวิธีที่จะทำให้ได้ niche kW ที่ดีๆมาก้อได้ คุณ asiram เคยบอกไว้ว่า เวลาที่เราหา KW พยายามอย่าปิดกั้น(อันนี้คิดเองนะครับ จำข้อความเต็มๆไม่ได้) คือ เจอคำไหนจับมาเป็น KW ไว้ก่อน คุณ SearchMarketing อาจจะคิดในใจว่า ผมก้อทำตามแล้วนะ .. ครับ บางทีผมก้อคิดว่า ผมทำตามแล้ว แต่ถ้ามาคิดอีกที วิธีการของเราดีแล้ว ถูกต้องแล้ว วิธีเหมือนคุณ asiram แล้ว หรือยัง แน่นอนครับ ผมตอบกับตัวเองเลยว่า ยัง เพราะคนเราความคิด ความอ่าน ไม่เหมือนกันแน่ครับ

คำว่า niche Kw เอาความหมายแบบสั้นๆสำหรับคนทำ Aff คือ KW ที่ทำเงินให้เรานั่นเอง

วิธีการที่คุณ asiram ได้บอกมา ผมมาทบทวนดูแล้ว ไม่ใช่เป็นวิธีที่สอนให้ทำเงินครับ แต่เป็นวิธีที่ใช้สอนให้เรารู้จักหา niche KW ในแบบของเค้า แต่การที่เราจะเจอ niche KW ได้ มันก้ออยู่ที่การวิเคราะห์ และการตัดสินใจของเราด้วยครับ ก้ออย่างว่าครับ ถ้า niche KW มันเจอกันง่าย ป่านนี้คงมีแต่คนมีเงินในบอร์ดเต็มไปหมดแน่ๆ

แต่คุณ SearchMarketing ก้อมีความพยายามอยู่นะครับ ถือว่าช่วงนี้ยึดติดอยู่กับการดูแล Ads ของตัวเอง ผมแนะนำว่าลองเอา KW มานั่งวิเคราะห์ดูอีกที หรือไม่ก้อยืม niche KW ของคุณ bow มาลองใช้ดูเล่นๆว่า niche KW ของคุณ bow ทำเงินจิงมัย หุหุหุ

แนะนำให้ลองหา KW เพิ่มเรื่อยๆครับ อีกอย่าง คำโฆษณายังไม่ดีครับ ยกตัวอย่าง


ผมขอใช้หลักการของผมนะครับ คือ การให้คะแนนกับประโยคของเรา(ควรเปิดใจให้มากๆ) เหมือนกับให้เกรดกับวิชาสอบต่างๆนะครับ ผมขอแบ่งเป็น 2 เกรดพอครับ(อาจจะแยกเป็นหลายเกรดเพื่อวิเคราะห์ Adtext ของเราให้ดีขึ้น) ผมแยกเป็น A=Good กับ F=Bad


ประโยค 1. มีการกระตุ้นให้เกิดความคิดซื้อเกิดขึ้น แต่ประโยค 2. ไม่ได้เน้นให้เกิดความคิดซื้อ ถ้าลองเปลี่ยนประโยค 2 เป็น
Save $25 For Three Ticket  หรือไม่ก้อ
Niche in Concert $10 Only(แบบนี้รีบซื้อเลย)

จะเห็นได้ว่า adtext มีผลอย่างมาก และอีกอย่างนึง ผมลองมานั่งวิเคราะจาก imp และ จำนวนคลิกของแต่ละ แอดของคุณแล้ว จำนวน imp มันเยอะเกินไป ไม่ใช่ว่าเยอะแล้วไม่ดีนะครับ แต่มันต้องสัมพันกับจำนวนคลิกด้วย เพื่อให้ได้ CTR ที่ดี ดังนั้นผมคิดว่าคุณอาจจะใช้ KW ที่กว้างไปปนอยู่ด้วย การเลือกขายสินค้าที่กว้างไป มันก้อจะทำให้ได้ niche KW ยากไปด้วยครับ ลองเปลี่ยนมาเป็นขายตั๋วเจาะจงเน้นๆไปเลยดูครับ จะได้ CTR ที่ดีขึ้น

ข้อความที่ผมพิมมาเป็นความคิดเห็นส่วนตัว อาจมีผิดพลาดบ้าง ถ้าผิดพลาดอย่างไรก้อขออภัยล่วงหน้านะครับ

ผมก็ขายไม่ได้เลยเหมือนกันครับหมดไปหลายอยู่
เลยว่ากลับมาพักใจ ค่อยกลับไปเริ่มใหม่อีกที :'(

ขอบคุณสำหรับ Trick ครับ มันซับซ้อน จนเรียกว่าเป็นศาสตร์ อีกแขนงนึงได้เลยนะเนี่ย ซักวันต้องมีมหาลัย เปิดสาขา SEM ไม่ก้อ Internet Marketing เนอะ

ผมคงยังต้องศึกษาอีกเยอะ ยังไงก้อ ขอให้ขายได้ดีๆ ตามที่หวังนะครับ อย่าลืมช่วงนี้ ที่อเมกา ปิดยาว 3 เดือน (นักเรียน นักศึกษา) แล้วเริ่มทัวร์รอบประเทศกัน รวมญาติกัน ซื้อการ์ดซื้อของขวัญ ลองหาพวก เสื้อหนังขายดูนะ ตัวละหมื่นเศษๆ
สมัยผมอยู่ อเมกา เพื่อนๆ ผม วันๆ มันไม่ซื้อไร หาซื้อแ่ต่เสื้อหนัง กะ อุปกรณ์แต่งรถ อย่างเช่น Radar detector (เอาไว้หลบตำรวจเวลา speeding) ไว้เช็คตำรวจในระยะต่างๆ จะได้ไม่ขับไว สินค้าใน bestbuy circuitcity (electronics) จะขายดีเป็นเทน้ำ นั่นแปลว่า ก้อจะมีบางส่วนเช่นกัน (เยอะเลย) ที่จะหาซื้อของประเภท นี้ ใน Amazon

เอาเป็นว่า แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน คนละนิดละหน่อยเนอะ แล้วรวมๆ กัน ใครมาอ่านเจอ ก้อจะได้ รู้เยอะขึ้นๆ :-*

อ่านแล้วได้ความรู้เยอะขึ้นมากเลยครับ จะพยายามด้วยครับ

ขอบคุณมากนะครับ ตอนนี้จุดพลาดที่ผมเจอ หลักๆ เลย คงไม่ใช่ที่แค่ kw แต่เป็นปลายทางที่กว้างมากมาย (เพิ่มเติม...อ่าน rep ถัดไป) บวก adtext ที่ความหมายน้อยเกินไป สำหรับการ call to action สังเกตว่า การเขียน adtext ไม่ควรบอกแค่ว่า ขายอะไร ที่ไหน หานี่อยู่รึป่าว แต่ควรจะให้ solutions ไปเลย ว่า ซื้อสินค้ากะเรา จะได้ลดกี่บาท จะเสียเงินกี่บาท เปรียบเทียบกะเจ้าอื่นก่อนคลิกไปเลย จะได้ไม่เสียเงินฟรี ถ้าจะคลิก ก้อแปลว่า ใกล้ๆ จะซื้อละ อะไรทำนองนี้

ทีนี้ คุยเรื่อง kw หน่อย ผมหา kw ได้เรื่อยๆ มากมายก่ายกอง ปัญหาคือ มันมากจนกรองไม่ได้
บางที ผมเล่น ใส่ variations อย่างเช่น ชื่อเมือง ก้อได้มาอีก 9000 กว่า kw ละ
บางทีผม ลบ space ออก จาก กลุ่มคำ (แต่ imp รู้สึกจะแทบไม่มี) กลายเป็น kw อีกเซ็ท พิมติดกันพรืด
บางที kw ที่มีคน search ต่ำกว่า 20 ต่อเดือน ผมก้อเอาหมด
หว่านก้อไม่มีปัญหาไร ยกเว้น adwords มันจะโวยวายหน่อย เรื่อง QS ก้อทนๆ เอา ทำที่อื่นไป

ผมว่า ผมเจอ niche หลายตัว ที่คลิกดี imp ดี กินเงินดีอีกต่างหาก
แต่ผมส่ง ลูกค้าของผม ไปไม่ถึงที่ ที่เค้าควรจะถึง หรือไม่ก้อ เค้าคงไม่อดทนพอที่จะเอาจริงเอาจัง ไปให้มันถึง
แล้วมันก็เป็นความผิดของผม ที่ไม่ตระหนักว่า ลูกค้าจะมีซักกี่คน ที่อดทน ทำตามขั้นตอน 3-5 คลิก ที่แสนจะวุ่นวาย แล้วซื้อสินค้า

ปัญหาของผม ที่ไม่สามารถ ส่งตรงไปยังปลายทางได้ เพราะว่า
๋
ผมขายตั๋ว สมมุติ ว่าขาย ตั๋วคอนเสิร์ต ไมค์ ภิรมย์พร  :-X แล้ว 7 วันข้างหน้า เค้าเดินสาย ดังนี้

วันที่ 1 อุบลราชธานี
วันที่ 2 สุรินทร์
วันที่ 3 นครราชสีมา
วันที่ 4 ราชบุรี
วันที่ 5 ระนอง
วันที่ 6 ยะลา
วันที่ 7 ปัตตานี

ถ้าจะ ขาย niche จริงๆ ก้อคงต้องเป็น ตั๋วคอนเสิร์ต ไมค์ ภิรมย์พร วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่จังหวัดปัตตานี ซึ่ง คน search มันมีไม่กี่คน หรืออาจไม่มีเลย
(คิดไปเองมั้ง ถ้านี่เป็นข้อเสีย คอมเม้นผมด้วยนะ) มัน niche จนไม่มีใครมาหา อะ เพราะคนจะซื้อ เค้าก้อคง หาไรกว้างๆ กว่านี้

เลยคิดว่าสิ่งที่ทำไ้ด้ คงเป็น phrase กะ exact แล้ว ส่งเค้าไปที่หน้า list รายการตั๋ว ไมค์ ภิรมย์พร ในรอบ 1 สัปดาห์ข้างหน้า

ข้อดี
ลูกค้า search เข้ามา มั่วๆ เจอ phrase kw ดัก เค้าก้อน่าจะเริ่มสนใจ
ลูกค้าได้เห็น list concert ทั้งหมด แล้วเลือกอันที่เหมาะกะตัวเอง เพื่อ เตรียม ดูที่นั่งได้ (จุดขายของเว็บนี้คือ Seat map ที่สวยมากมาย) คงพอจะรู้กันแล้วนะว่าเว็บอะไร

ข้อเสีย
landing page เปลี่ยนไปตาม DKI ซึ่งหน้า Search Result page ก้อทำออกมาได้ดี สวยเทียบเท่า LP ของจริง 80% (แต่ 20% นี่ละมั้ง ที่ทำให้ลูกค้าไม่อดทน)
ตั๋วบางอัน มันดันขายหมด เต็ม เกลี้ยง ยังไม่เปิดขาย (ผมดัก 20,000 กว่า kw แปลว่า ผมจะต้องตามเช็ค ทั้ง 20,000 LP หรือน้อยกว่า) แล้วต้องมา นั่งลบ kw ที่ตั๋วเต็ม คงไม่ไหวอีกเช่นกัน แรกๆ ที่คิด เลยลองทำใจ ตัดปัญหา เพราะ ส่วนมากมันยังขายอยู่ ไม่ได้เต็มทั้งหมด ก้อจะมีแค่บางส่วน ที่ตั๋วเต็ม ไม่มีขาย คลิกเสียเวลา + เงิน

ผลปรากฏว่า อุปสรรค ปัจจัยไม่เอื้อ มันเยอะเกิน ผมคงต้องกลับมานั่งเลือก ตั๋วทีละชุด ทีละใบ เอามาขายจริงๆ ละ
แต่ตอนนี้ เอือมระอากะมันจริงๆ

200 คลิก ไม่ได้ ไรกลับมาเลย เด๋วไปตั้งหลัก กะ Amazon แปป
ฝากไว้ก่อนนะ CJ  >:(

ไหนๆ นี่มันก้อ กระทู้ ที่ผมตั้ง ขอใช้ พื้นที่เต็มที่เลยละกัน

ขอให้เครดิต บุคคลดังต่อไปนี้ครับ

 :) :) :) :) :) :)

ขอบคุณพี่พราน พี่Asiram คุณ Kenn คุณ Threst และทุกๆ คน ที่ช่วยตอบคำถามผม ให้ข้อมูลอย่างละเอียด แล้วก้อด้วยความอดทน เห็นใจ

เมื่อก่อนเป็นผม ใครมาถามเยอะขนาดนี้ ผมรำคาญไปแล้วนะเนี่ย

เอาเป็นว่า ทุกคนที่ช่วยเหลือผม มีน้ำใจ วันนึงผมประสบความสำเร็จ มีรายได้ วันละ แสนสองแสน ขึ้นมา   :'( ผมจะไม่ลืมบุญคุณพี่ๆ น้องๆ ทุกคนเลย

ผมพยายามที่จะเป็นประเภท มนุษย์ 9% บนโลกนี้ (ถ้าอ่านพ่อรวย น่าจะพอนึกออก 555)

Internet Marketing น่าจะเป็นหนึ่งในอาชีพเสริมที่น่าสนใจทีเดียว เพราะผมไม่คิดว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือเป็นลูกน้องใครอยู่แล้ว

ชีวิตอาจต้องเสี่ยงอีกยาว ล้มอีกหลายรอบ แต่ยังไง ก้อเื่พื่ออิสรภาพ

ตอนนี้ผม pause มันทุก campaign มานั่งวิเคราะห์

รู้ซึ้งมากขึ้น ได้แนวมากขึ้น ผมว่าปัญหาของผมคือ ศึกษาเยอะเกินไป แต่ยังไม่มากพอที่จะตกผลึก แล้วเอามาทำ

ผมไม่ได้เริ่มแบบ ลองผิดลองถูก ทีละ 10 - 20 kw เริ่มที ผมปาไป หลักพัน หลักหมื่น kw

แถม KW Qs ต่ำๆ หาแทบตาย ใช้ได้จริง 10-20%

ทำหลาย Campaign จนเมื่อย เลยลองกลับมานั่งคิด ว่า หว่านกว้างไปป่าว แถมส่งไป ก้อส่งไปกว้างๆ

เหมือนกับ บอกลูกค้าแค่ว่า แมคโคร ขาย ผลไม้นะ อยากได้ไร ก้อไปเลือกเอาเลย แล้วก้อส่งลูกค้าไปที่ป้ายรถเมล์ แล้วบอก ให้ขึ้นสาย 50 แล้วมันจะไปส่ง แมคโคร! จุดจบเป็นยังไงละ เค้าเลยซื้อผลไม้ จากแผงลอย พวกตัดราคา อยู่ตรงป้ายรถเมลล์ ไม่ก้อเค้าอาจจะแวะไปบิ๊กซี ไปโลตัสก่อน หรือไม่ก้อ เค้าถามไปงั้นๆ แหละ ยังสองจิตสองใจ แล้วเรากระตุ้นเค้าให้ไปซื้อ ไม่มากพอ (call to action ไง)

ที่ดีที่สุดน่าจะเป็น พาลูกค้า เข้าไปในแมคโคร ไปตรงแผง แตงโม เลย แล้ว บอกเลยว่า ลูกสีแดงๆ หนัก เกิน 1 กิโล อะแตงโมดี ลดราคา ถ้าซื้อสองลูก ตอนนี้ ลดให้เลย 10 บาท! คนอื่นลดให้แค่ 5 บาทนะ ไรเีงี้ย

ตอนนี้จะลองพัฒนา Adtext กะ เล่น kw ทีละน้อยๆ แบ่งเป็นหมวดหมู่ขึ้น


ว่าแต่มีคำถาม สูตรคำนวณ maxbid ของพี่พราน มันดูจาก EPC ของ CJ กะเดา เอาว่าที่ 100 คลิก จะ ขายออก 1 คลิก

ที่ Amazon นี่ คิดยังไงหรอ เพราะว่าพี่พราน ก้อบอก ROI จะอยู่ที่ราวๆ 5% ถ้าดีก้อ 10+%

งั้นควร อิงตามสถิตินี้มั้ย จะได้ใจปั้ม บิด หนักๆ ถ้าได้ kw แจ่มๆ มา?

ตอนนี้ขาดทุนไปแล้ว $30 สำหรับนักศึกษาจนๆ คนนึง มันก้อหลายบาทอยู่ แต่ไม่เป็นไร พอมีคูปองเหลือ อีก 200 กว่า USD

ขอบคุณอีกครั้งครับ เดี๋ยวคอยดูพัฒนาการของผมนะ



 :) :) :) :) :) :)

ถ้าอ่านแล้วเครียด แวะไปดู สินค้าที่ ค่าคอม แพงที่สุดใน Amazon นะ

http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,18283.0/topicseen.html

ถือซะว่า เป็น entertainment ที่ผมหามาฝาก ให้รางวัลชีวิตกันหน่อยเนอะ  :D

ผมเองก็ประสบปัญหาเหมือนคุณ Searchmarketing ครับ ผมเองอ่านมาจากหลาย ๆ ที่ ศึกษาโดยถามจากหลาย ๆ คน แต่ละคนก็มีวิธีการที่แตกต่างกันและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทีเดียว ผมเองเคยทำตามแนวคิดของคุณ asiram ที่หว่าน keyword ผมคิดว่าเป็นแนวทางที่ดีนะครับ แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับผมตอนนี้ ผมได้ลองหว่านไปแล้ว ผมไม่สามารถตามดูแลมันได้อย่างทั่วถึง ทำให้บางตัวตก ๆ หล่น ๆ

ดังนั้น ตอนนี้ผมจึงหันมาเล่นทีละน้อย ๆ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ใส่ ค่อย ๆ เพิ่ม จัดหมวดหมู่ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยให้สอดคล้องซึ่งกันและกัน มันทำให้ผมบริหารและจัดการได้ง่ายขึ้น สามารถตามตรวจสอบ ad text, keyword, landing page และ max,min bid ได้ง่ายขึ้น

ผมว่าทุกอย่างมันควรจะมีการจัดการที่ดี เพื่อให้ปรับปรุงและแก้ไขได้เร็วด้วย แต่ถ้าวันนึงเราคล่องแล้ว รู้แนวทางและเทคนิคที่เป้นของเราเอง เราอาจจะหว่าน keyword ดูก็ได้ครับ เพราะเรารู้แล้วว่า ต้องปรับอย่างไร แก้อย่างไร

สำหรับเรื่อง ad text ผมเองไม่ใช่คนเก่ง English มาก เขียนเชิญชวนไม่ค่อยเป็น ผมอาศัยดูจากคู่แข่ง ตัดเล็กผสมน้อย ผมเคยสังเกตุอยู่สินค้านึงครับ วันที่ 1 เค้าใช้โฆษณานึง อีกวัน มีรายใหม่โผล่ขึ้นมาใช้ข้อความแทบจะเหมือนกันเลยครับ นั่นหมายความว่า ข้อความที่ใช้นั้นค่อนข้างที่จะชัดเจนและดึงดูดที่สุดแล้ว เราอาจจะนำมาปรับเพิ่มเติมครับ

ส่วนตัวผมตอนนี้ก็ยังขายไม่ได้ แต่ไม่เสียเงินให้ Google แบบไม่จำเป็นอีกแล้ว ถ้าเสียเงิน ก็ต้องได้ลุ้น ผมทำอยู่ 5 ตลาดครับ ค่อนข้างหิน คนค้นน้อย คู่แข่งเยอะ และส่วนใหญ่ เจ้าของมาเล่นเอง บิดไม่ลืมหูลืมตา แต่ก็ครับ ที่เจ้าของมาเล่นเอง เค้าเสนอใน CJ ให้ $300/sale ทำให้ผมอยากลองเข้าไปเล่นด้วย โดยหา niche long keyword เพราะคงไปบิดสู้เค้าไม่ได้ในคำหลัก (อยากให้เพื่อน ๆ อ่านข้อห้ามของ Advertiser ให้ดี ๆ นะครับ ไปฝ่าฝืนอาจจะไม่ได้เงิน) ตอนนี้ลองดูและรอเวลาอยู่ครับ ยังไม่มี IM เลย อาจจะเป็นเพราะคนค้นน้อย และ niche มาก ๆ

ส่วนตัวผมมีข้อสงสัยอยากถามเพื่อน ๆ เหมือนกันครับ

1. ถ้าเจอเจ้าของมาเล่นเอง โดยบิดแพง ๆ เพื่อน ๆ ไม่สามารถใช้ URL เดียวกับเค้าได้แน่ ๆ เพื่อน ๆ ต้องทำ landing page ดังนั้น เพื่อน ๆ จำเป็นต้องจด Domain ใหม่ไหมครับ ถ้าแบบนี้ต้องจดกันทุก ๆ สินค้าเลยสิ มีทางแก้อื่น ๆ ที่จะให้เทสก่อนจดโดเมนได้ไหมครับ คือถ้าสินค้าขายได้ และมีกำไรผมเชื่อว่า ทุกคนต้องจดแน่ ๆ

2. อย่างที่คุณ search marketing ยกตัวอย่างเรื่องตั๋ว คือผมเองก็คิดรูปแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมมีข้อสงสัยว่า "มันจะมีคนค้นหรือเปล่า" (ผมคิดถูกไหมครับ) แล้วควรทำอย่างไร

ไม่ใช่เซียนหมากรุกครับ แต่ขอออกความเห็นนิดนึง

1. ลองทำจริง 1 อาทิตย์ หาวิธีการได้เท่านี้ก็เก่งแล้วครับ ที่เหลือคือลองเรื่อยๆ แต่อย่าไปหักโหมน่าจะเจอทางสว่างไม่นาน ได้เปรียบเรื่องภาษาใช่มั้ยครับ
2. เท่าที่อ่านยังไม่มีใครออกความเห็นเรื่องสินค้านะครับ ถ้าเป็นผมลงทุนกับ affiliate เต็มตัว ผมจะมุ่งเป้าไปที่สินค้าก่อนว่าสินค้านั้นมั่นใจได้ว่าเป็นที่ขายได้แน่นอนไม่มากก็น้อยในตลาดที่เรากำลังจะทำเช่น america uk โดยดูจาก สถิติใน cj หรือลอง make sure จากใน gg หรือเวบขายของอื่นๆเช่น amazon ก็ได้ครับว่า สินค้าตัวนั้นขายได้จริง ไม่ยาก ไม่มีเงื่อนไขยุ่งยากในการซื้อ
3. keyword ที่คุณใช้ตรงกับสินค้ามากน้อยหรือเปล่า มันเป็นทฤษฎีของผมเองนะครับ คือถึงเราจะหว่าน key มากแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่ตรงความต้องการของคนเลย เช่น สมมติขาย jewelry แต่ใส่ keyword พวก mp3 มันก็อาจจะเป็นการกดแล้วทิ้งไปเลยมากกว่านะครับ  ความเห็นคร่าวๆนะครับ ส่วนตัว  :P

1. ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ
2. ควรหาสินค้า niche รึหาพวกที่ขายดีๆ มาขอแบ่งขายอะครับ? หาสินค้าใน Amazon มันพอจะ make sense มันมีให้เป็นชิ้นๆ ให้เลือกหยิบขาย แต่ใน CJ บางอย่างก้อ ขาย รูปธรรม ทั้งเว็บขาย ชิ้นเดียวกว้างๆ kw ก้อกว้างตามไปด้วย ไม่รู้จะหาใน CJ ยังไงครับ (ถ้าเลือกได้อยากทำ CJ เพราะมันมี EPC แล้วก้อข้อมูลอื่นๆ ให้วิเคราะห์) ถ้าเลือกไม่ได้ก้อทำ Amazon อาศัยเดาแล้วก้อ Trends
         - CJ นี่ บางร้านก้อ มีสินค้าย่อย บางเจ้าก้อ ขายกว้างๆ แปลว่า ถ้าจะทำ niche เราก้อ ต้องเมินพวกขายกว้างๆ อย่างเช่น ขาย Lead ให้ credit report ไรเงี้ยหรอครับ (เสียดาย ขาย Lead นานๆ จะมีคนรับ คนไทย)

(ถ้าคำถามไม่เคลียร์ถามผมใหม่นะ)
3. ตอนนี้ผมจะทำ kw สองแบบให้สินค้าเดียวกัน ถูกผิดคอมเม้นด้วยนะ (1 หว่านทิ้ง บิดต่ำ หา ขุมทอง 2 เอาแบรนด์ที่ไม่โดนห้ามมาขายไปพลางๆ รอ niche) พอเจอ niche ก้อ เริ่มกระบวนการหา maxbid (ยังไม่เคยได้ทำจริงๆ จังๆ เลย เพราะ ยังไม่เคยมี conversion กะเค้า)  :'( :'( :'(

ขอบคุณจริงๆ ครับ

ถามเพิ่ม.. จะดีมั้ย ถ้า sid adgroup หว่าน กะ adgroup niche แยกกัน

รึว่าปกติ แยก sid ทุก adgroup กันเลยมั้ย ผมไม่ค่อยเข้าใจลึกเท่าไหร่ :-\

ระหว่างรอผู้รู้จริงมาตอบ

สิ่งที่เพื่อนๆ จะได้อ่านต่อไปนี้ ผมเดานะครับ ::)

1. Display URL เดียวกัน บิดต่ำกว่า ใช่ว่าจะไม่ได้ขึ้นนะ ผม เล่นขายตั๋วแข่งกะเจ้าของ kw เดียวกัน ผมก้อ มี imp มาบ้าง บิดน้อยก้อมาน้อย แต่เจ้าของเค้าไม่ได้ห้ามบิดแข่ง แค่ห้ามใช้ชื่อเค้า เป็น kw
        - กรณีอยากทำ LP ต่างหาก ต้องมานั่งวิเคราะห์ว่า ทำไงลูกค้า จอดแล้ว ไม่แจวหนี ด้วยนะครับ ที่ LP จะต้องมี สูตรสำเร็จ solution อะไรก้อได้ที่ลูกค้าเห็นแล้ว มีทางเลือก (ในตัวเลือกที่เป็น aff link ของเรา) ได้ตัดสินใจ (ในกรอบที่เรากำหนด ก ข ค) แล้วก้อ คลิกต่อ ไม่เสีย traffic
        - ถ้าเป็นยังงั้นได้ ก้อไม่จำเป็นต้องเป็น 1 domain 1 สินค้า แล้วครับ จดโดเมน กลางๆ ศูนย์รวมอะไรซักอย่าง แล้วใช้ subdomain ตรงจุดหน่อย เท่านี้ก้อ เซฟไปได้หลายตังแล้ว อย่างเช่น ส่วนมาก จะ ขาย aff สินค้า electronics แต่วันนี้ เจอ niche ฟิล์มสีฟูจิ รุ่น BB ก้อ จด โดเมนพวก www electronicscircuit com สมมุตินะ ของใครก้อไม่รู้ แล้วทำ sub ให้เป็น FujiFilm.โดเมน.com ไม่ก้อ www.โดเมน.com/FujiFilm ทีนี้ ก้อ test สินค้าได้เป็นร้อยแปด ด้วยการสร้าง subdomain หรือ sub folder แล้ว (ปล. ผมทำเว็บไม่ค่อยเป็นนะ รู้เท่าที่รู้อะ เดาเอา)

2. ผมมี หลายหมื่น imp ครับ แปลว่ามีคนค้น ปัญหาเดียวคือ adtext ไม่เตะตา ปัญหาต่อมา ถ้าเตะตา ตั๋วอาจขายหมดก่อน ทุกอย่างมันดิ้นได้ เช็คลำบากเหลือเกิน แต่ traffic มีครับ การันตี
ผมลองให้ YSM คำนวน top bid ให้ ผมจะต้องเสียเงินราวๆ 20,000 เหรียญ ต่อเดือน ในการจ่ายค่าคลิกทั้งหมด ที่บิด $5 ก้อแปลว่า น่าจะมีประมาณ 4,000 คลิก ต่อเดือน จาก หลาย แสน imp ครับ
 :)

ผมนั่งอ่านก็มึนๆ มันเยอะมาก
เอาเป็นว่า ผมจะเล่าให้ฟังตามที่ผมพอจะจำได้น่ะ
เรื่องการสินค้าก่อนเลย

1.ตัวแรก credit report ผมเองก็ทำให้อยู่เจ้าหนึ่ง น่าจะเป็นเจ้าเดียวกันน่ะ
แต่ก็ไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่ แต่ไม่ขาดทุน
ผมมองสินค้าตัวนี้ว่า มันเหมือนเป็นสินค้าพ่วงมากกว่า ไม่น่าจะใช่สินค้าหลัก
เพราะที่ผมทำ ก็บิดไปเป็นหลัก แต่ไม่ค่อยมี order เท่าไหร่
ผมมองว่ามันน่าจะเป็นสินค้าเสริมสำหรับคนที่ต้องการ loan แล้วติดปัญหาเรื่อง credit
ซื่งเวป loan ทั่วไปก็จะมี credit report เสริมอยู่แล้ว เลยทำให้ขายตรงๆยาก

2.ตัวที่สอง ticket ผมก็เคยทำ แล้วก็ขาดทุนไป ก่อนที่จะใช้้ mass kw
ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะลองกลับไปทำ แต่ยังไม่มีเวลา
สำหรับตัวนี้ผมมองว่า มันพอจะมีหนทางทำได้ โดยเราไม่ต้องไปเจาะลึกถึงขนาด ตั๋วที่ไหน เวลาไหน
เพราะมันจะเป็นลักษณะ ซื้อขาย ticket ถ้าเราไปเจาะขนาดนั้น ก็ไม่ต้องไปทำอย่างอื่นแล้ว
แต่ถ้าทำได้ก็ดี
และอีกอย่าง ผมมองว่าเรื่อง ticket นี้ customer ส่วนใหญ่น่าจะมี เวปที่เค้ารู้อยู่แล้วว่าจะซื้อได้ที่เวปไหน
น่าจะเป็นการเข้าไปที่เวปโดยตรงซะมากกว่า
ผมเลยยังไม่ได้ลองทำอีกครั้ง

อีกอย่างที่อยากจะบอกคือ
เราอย่าไปคิดย้อน เราควรจะหา product ที่ทำกำไรให้ได้ก่อน
แล้วค่อยคิดไปบิด หรือ แข่งกับคนอื่น
เช่น เราต้องบิดที่ต่ำๆไว้ก่อน เรื่อง display url ยังไม่ต้องไปสนใจ
หาให้ได้ก่อนว่า มันขายได้จริงๆ แล้วเราค่อยมาสนใจเรื่อง display url
ถ้าเราไปคิดย้อน คือคิดว่า มี kw แล้ว มี imp แล้ว แต่ไม่คลิก
แล้วพยายามทำให้คลิก ผมบอกได้เลย คลิกไปก็ไม่ซื้อ
ถ้าเค้าจะคลิก เค้าคลิกไปแล้ว
อย่าไปคิดเข้าข้างตัวเอง ว่ามันน่าจะคลิก มันน่าจะซื้อน่ะ

เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆแล้วมีอะไรเพิ่มเติม จะโพสอีกที
มันเยอะ อ่านแล้วตาลาย

แต่ผมจะบอกอะไรให้อย่างน่ะ
ที่ผมได้อยู่ทุกเดือน
kw ที่มีคลิกเยอะที่สุดของผม
มีคลิกวันละ ไม่เกิน 10 คลิก

:)

กระทู้นี้ได้ความรู้จริง ๆ ครับ อย่างน้อย ๆ ก็ได้แนวทางเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้ผมไม่ทิ้งเงินให้ google ฟรี ๆ แล้วครับ อย่างน้อยต้องมีเสียว

ส่วนเรื่อง landing page ผมเจอบาง Advertiser ห้ามใช้ Domain เค้าเป็น landing page เลยต้องทำเอง แต่ก็ต้องลองครับ ของแบบนี้

ไว้จะมาบอกครับ

ลองทำตามที่ผมบอกดูมั้ยว่าจะ work รึป่าว

1.หา kw ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะหาได้ ให้เกี่ยวข้องกับ market
เช่น ticket ก็ต้องมีคำว่า ticket อยู่ใน kw หรือคำที่มีความหมายเดียวกับ ticket
2.เอา kw ทั้งหมด ไปบิดที่ ysm อย่างเดียวที่ต่ำสุด $0.1
3.ทำใจไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นๆ เช่น display url,qs, อันดับ ads
4.รอดูผล คลิกรวม ทั้งหมดถ้าได้ 100-200 คลิก ต้องมี order มาให้เห็น
5.track kw ทีละตัว ถ้าเกิน 50 คลิก ไม่มี order ลบทิ้ง
6.หา kw เพิ่มอีก แล้วอัดเข้าไป
7.ถ้าหา kw เพิ่มไม่ได้แล้ว แล้วยังไม่มี order อีก ก็เปลี่ยน market ไปเลย

ถ้าเจอ kw + product ที่ทำกำไรแล้ว ค่อยไป add ใน adword,adcenter
แล้วค่อยเลือกบิดแข่งเฉพาะ kw ที่ทำกำไร เพื่อหา maxbid ของเรา

เท่าที่ผมมองดู เหมือนกว่าคุณ SearchMarketing เป็นเหมือนผมเมื่อก่อน
คือ ข้ามขั้นตอนไปไกล ทั้งๆที่เรายังไม่เจอ product ที่ทำกำไรให้เราเลย
คือ เรายังไม่รู้เลยว่า มันขายได้จริงๆรึป่าว ที่เราเลือกจาก epc ก็เป็นการคาดเดาเพื่อลดความเสี่ยงเท่านั้น
แต่เราข้ามไปมองถึงเรื่องการทำ qs,ctr ซะแล้ว
เมื่อก่อนผมก็เป็นแบบนี้ พยายามทำ ctr จนทะลุ 30%
แต่ก็ขาดทุน เพราะผมยังไม่เจอ product เลย แล้วจะทำ ctr,qs ไปเพื่ออะไร

ตอนนี้ที่ผมทำอยู่
ctr ของผมแค่ 3-5% แค่นั้นเอง

:)

ท่านเทพมาโปรดแล้วววว

ผมไม่ใช่ขั้นเซียนอะไรหรอกนะครับ เพิ่งมาศึกษาเหมือนกัน :-[
ในความเห็นผมสิ่งที่คุณอาจจะพลาดไปคือ เวลา และประสบการณ์ มั้งครับ
คือผมคิดอยู่ตลอดในการศึกษาเรื่องพวกนี้คือความรู้ที่เราได้รับในการอ่าน จากหนังสือ หรือเรียนรู้จากเว็บนั้น
ผมว่ามันยังมีบางสิ่งที่ไม่มีัใครกล้าบอกให้เรารู้ เป็นความลับของเขา ความลับที่ทำให้ได้เงิน มาก ๆ จริง ๆ  :Dประมาณว่ายังมีอะไรกั๊ก ๆ ไว้ ความรู้นี้ผมว่ามันต้องลงมือทำก่อนจึงจะรู้ ต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งมั้งครับ อาจจะเร็วหรือช้าก็อาจจะขึ้นอยู่กับว่าเราจะหาความลับหรือเคล็ดลับนั้นเจอได้เมื่อไหร่ หรือว่าเรามีข้อมูลที่จะหาเคล็ดลับนั้นมากเพียงไหน

คืออันนี้ผมคิดเอาเองนะครับจากการที่อ่าน ๆ มาหลายที่ ผมก็ยังศึกษามันไปเรื่อย ๆ ครับ ยังไม่เคยได้เงินจากการทำ internet marketing สักกะแดงเดียว  :'(

ไม่แน่ใจว่าได้อ่านบทความสัมมนาของคุณ asiram รึยังครับ ...  ::)
ผมว่าสำหรับคนไม่ประสีประสากับ internet marketing แบบผมชอบเทคนิคคุณ asiram มากเลย


สัมมนา Affiliate Marketing By ASIRAM
 (http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,13720.0.html)

... ขออนุญาตนะครับคุณ asiram

 :o super niche keyword.

ขอผมสักสอง key ได้มะครับ ตลาดอื่นก็ได้นะคุณ มาริสา  :D

อย่างที่บอกครับ ปัญหาหลักของผม คือ
1) Adtext ตอนนี้ได้เทคนิคเยอะแล้ว คิดว่า เดี๋ยวไปลองแล้วจะมารายงานผล
2) อันนี้สำคัญ Product ขายอะไร ขายยังไง ยังเลือกไม่เป็น เคยคิดว่าเลือกเป็น แต่เลือกไป มันไม่ยักกะเป็นเงินกลับมา

คงขอกลับไปนับ 1 ถามคำถาม ง่ายๆ ก่อนละกันว่า

หา niche product ใน CJ หายังไงอ่าครับ
เจอแต่กว้างๆ หรือไม่ก้อ มันแข่งสูง อย่างเช่น webhosting คงไม่ต้องพูดถึง

พวก 1 advertiser 1 product เนี่ย ผมไม่ค่อยอยากแตะ คนแย่งกันหูดับตับไหม้

อยากได้พวก 1 advertiser 100 product แบบขายหมึก แต่ไม่รู้จะ ขายอะไร
หมึก แคนนอน หรอ ก้อยังกว้างอยู่นะ ลึกลงไปอีกหรอ หมึก แคนนอน อิงค์เจ็ท รุ่น 1800 เงี้ยหรอครับ

ถ้ายังงี้ขายได้ยัง?

อ่านหมดตั้งกะเดือนที่แล้วครับ อ่านสม่ำเสมอ ทุกอาทิตย์ ซ้ำไปซ้ำมา โดยเฉพาะวันที่ ไปเจอปัญหาใหม่ๆ จะกลับมาอ่าน ทวน ทุกข้อมูลที่เซฟไว้ แล้วก้อ bookmark ไว้ครับ

ปัญหาของผม ไม่ใช่ผมไม่มีข้อมูล

ผมมีข้อมูลมากไป แต่จับมาปฏิบัติ ยังไม่เกิดผลที่น่าพอใจครับ

ตอนนี้ทุกคำถามที่โพสต์ถาม

1) เชิงปฏิบัติล้วนๆ
2) แก้ปัญหาตรงจุด
3) ทิ้งไว้ให้เป็น แหล่งข้อมูลเรียนรู้ ให้กับคนที่ผ่านมา หัวอกเดียวกัน กำลังท้อ ไม่ก้อ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ไว้ศึกษาไปพลางๆ

ยังมีคนอีกหลายคนที่ ไม่เคยแม้แต่สมัคร ไอดี มาโพสต์
ซุ่มอ่าน ดูดข้อมูล คิด ไตร่ตรอง
เค้าเหล่านั้นจะได้ประโยชน์ไปด้วยไงครับ

ถ้าผมมีอะไร ถ้าไม่ นอกเรื่องจนเกินไป จะโพสต์ทิ้งไว้ในนี้แทน จะได้ไม่กินที่กระทู้อื่นมากมาย แล้วก้อสะดวกต่อการ track ด้วย
ยังไงก้อ ขอบคุณ คุณ Asiram ที่เข้ามาช่วยสอนครับ

ข้อมูล ทุกข้อมูล มีค่าสำหรับผม เสมอ :-* (พูดเหมือน Google เลย)

เอาสั้นๆนะครับ ส่วนตัวที่เคยทำก็แล้วกัน ยาวๆไว้เลิกงานแล้วจะมา comment ใหม่
1. หากลุ่มสินค้าที่คนต้องการก่อนโดยใช้ tool ของ gg ล้วนๆ เช่น keyword external ดูคน search, competitor คร่าวๆ, gg zeitgeist, gg trend  อันอื่นดีกว่านี้ก็มีครับ แต่เสียตัง
2. วิเคราะห์เจาะลึกสินค้าว่ามันน่าขายได้มั้ย จากนั้นก็เข้าไปหาข้อมูลจากเวบไซต์ขายของ ออนไลน์ เพื่อพิสูจน์สมมติฐานของเรา ข้อนี้แยกได้อีกเยอะเลยเช่น ตัวสินค้า ราคา การจัดส่ง ความน่าเชื่อถือของ สินค้า คู่แข่งของสินค้าเอง สินค้าข้างเคียง และอีกอย่างคือให้นึกเหตุผลล่วงหน้าไว้เลยว่า มีอะไรอีกไหมที่จะทำให้เขาจะไม่ซื้อสินค้าเรา
ถ้าหมดแล้ว ก็ลองเลือกมาทำการโปรโมทเลย   :P

เมื่อก่อนทำคล้ายๆ แบบนี้ละครับ แต่กับ CJ

เผลอทำ เป็นนิสัย ทำจนเสร็จ ดีใจ ได้สินค้า

ปรากฏว่า

Your application has been declined by our advertiser for one or more reasons...

ซ๊าดเอย  :o

ผมเลย จำใจ apply ดูว่า ที่มันรับผมทำ มีอะไรบ้างก่อนอะครับ

แต่ตอนนี้ จะไปลงที่ Amazon เทคนิคนี้ คงใช้ได้ไม่มีปัญหาไร

แต่สงสัยครับว่า ถ้าขายของที่ hot hit ติด trend คู่แข่งมันก้อ เยอะใช่ม๊า สินค้าก้อ ไม่ niche / kw ที่ว่าจะ niche ก้อโดนกินไปเกือบหมด

ทำไงต่อละครับทีนี้ ???

quote=asiram
ลองทำตามที่ผมบอกดูมั้ยว่าจะ work รึป่าว

1.หา kw ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะหาได้ ให้เกี่ยวข้องกับ market
เช่น ticket ก็ต้องมีคำว่า ticket อยู่ใน kw หรือคำที่มีความหมายเดียวกับ ticket

ของผมทุก kw มีคำว่า ticket และ tickets ครับ ส่งเข้า Search Result list ออกมา เป็นพรืด ว่ามีตั๋วอะไรบ้าง อันไหนขายกี่บาทถึงกี่บาท อันไหนขายหมดแล้ว
2.เอา kw ทั้งหมด ไปบิดที่ ysm อย่างเดียวที่ต่ำสุด $0.1
2.1)ทำไมบิดทดลองที่ YSM ครับ? แพงกว่า adcenter ด้วย (ไม่ได้ถามหาเรื่องหาอย่าเข้าใจผมผิด)  :-X
2.2แล้วบิดทดลองนี่บิด content 0.1 ด้วยมั้ย?

3.ทำใจไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นๆ เช่น display url,qs, อันดับ ads
รับทราบ :'(
4.รอดูผล คลิกรวม ทั้งหมดถ้าได้ 100-200 คลิก ต้องมี order มาให้เห็น
อันนี้คือไม่ต้องไปคิดเผื่อว่า เอ๊ะ Adtext เราไม่ดีรึเปล่า ให้โอกาสมันอีกนิดน่า ใช่ปะครับ

ถ้าเจอ kw + product ที่ทำกำไรแล้ว ค่อยไป add ใน adword,adcenter
แล้วค่อยเลือกบิดแข่งเฉพาะ kw ที่ทำกำไร เพื่อหา maxbid ของเรา
ใช้ได้กับทุกกรณีปะครับ ysm -> adcen -> adwords เพราะที่เคยอ่านจำได้คุณ Asiram บอก Adcenter -> adwords -> แล้วเก็บกินที่ YSM สุดท้าย


เท่าที่ผมมองดู เหมือนกว่าคุณ SearchMarketing เป็นเหมือนผมเมื่อก่อน
คือ ข้ามขั้นตอนไปไกล ทั้งๆที่เรายังไม่เจอ product ที่ทำกำไรให้เราเลย
คือ เรายังไม่รู้เลยว่า มันขายได้จริงๆรึป่าว ที่เราเลือกจาก epc ก็เป็นการคาดเดาเพื่อลดความเสี่ยงเท่านั้น
แต่เราข้ามไปมองถึงเรื่องการทำ qs,ctr ซะแล้ว
เมื่อก่อนผมก็เป็นแบบนี้ พยายามทำ ctr จนทะลุ 30%
แต่ก็ขาดทุน เพราะผมยังไม่เจอ product เลย แล้วจะทำ ctr,qs ไปเพื่ออะไร
เพราะผมศึกษาเยอะไป ขาดประสบการณ์ตรง หวังอย่างยิ่งว่า ทดลองจริงไม่เกิน 2 เดือน เสียเงินทิ้งไม่เกินหมื่นบาท จะ บรรลุธรรมครับ
ตอนนี้ที่ผมทำอยู่
ctr ของผมแค่ 3-5% แค่นั้นเอง

:)

ขอบคุณครับ :)

ลืมบอกไป เมื่อก่อนผมทำ amazon ครับ  :P
ผมว่าหาของที่ขายได้ ดีกว่านะครับ ไม่ต้องฮิตมากเพราะคู่แข่งแรงๆมันเยอะ  ส่วนเรื่องคีย์เวิด niche ผมว่ายังไม่หมดหรอก บางอย่างต้องอาศัยพลิกแพลงหลบหลีกคู่แข่งขัน จะขายได้ไมได้ก็ตรง keyword นี่แล่ะ ผมว่าจะลองเอา key เดิมไปเล่นดู ไว้ว่างๆก่อน  :'(

เพราะเท่าที่ผมทำมา และได้ยินคนอื่นๆพูดตรงกันว่าที่ ysm ให้ conversion ดีที่สุด
ให้ทำเฉพาะ search อย่างเดียว
ถ้าไม่รู้จะทำอะไรแล้วค่อยไปลอง content


ไม่ใช่คับ รอดูว่า product ที่เราขาย มันขายได้รึป่าว ไม่เกี่ยวกะ adtext
adtext มันช่วยให้มีคลิกมากหรือน้อย ไม่ได้ช่วยให้ขายได้รึป่าว


ผมใช้กับทุกกรณี ที่ผมจะหา kw+product
ที่ผมบอก ผมว่าผมบอกว่า ysm->adcenter->adwords น่ะ
ลองอ่านใหม่
เพราะผมเริ่มได้กำไรจาก ysm และปัจจุบันก็ได้จาก ysm
แต่ adwords เพิ่งมาเริ่มได้มากกว่า ysm เมื่อไม่นาน
แต่ถ้าเทียบเป็น % ysm ก็ยังมากกว่า adwords

:)

รู้แล้วจะถามอะไร

ได้ kw มาแล้ว เอาไปลงใน ysm นี่ ลงแบบ advance  หรือ standard ครับ

อยากได้ phrase + exact ไม่อยากได้ broad

เห็นที คงต้องเป็น standard ใช่ปะงับ ::)

เรื่องสินค้า ผมว่าคุณSearchMarketing น่าจะรู้นะครับว่าอันไหนขายได้

เพราะเห็น มีเพื่อนที่อเมริกา แล้วรู้ว่าช่วงไหนคนที่นั้นซื้ออะไรบ้างไม่ซื้ออะไรบ้าง

มีแหล่งข้อมูลอยู่กับตัวแล้วนี้ครับ

อย่ายึดติดว่าขายของออนไลน์เลยจะไม่เอาข้อมูลออฟไลน์


ตลาดที่ทำเงินให้ผมอยู่ มาจากการได้แหล่งข้อมูลออฟไลน์ ->TV  แล้วผมค่อยมาดูว่ามีคู่แข่งเยอะมั้ยที่หลัง(อื่นๆด้วย)



แล้วก็เสริมคุณasiramหน่อย ctrของคุณasiram แค่ 3-5% แค่นั้นเอง

ctrของผม แค่ 0.80-1% แค่นั้นเอง  :)

แคมเปญเดียวนะ  อันอื่นก็ตั้งแต่2-7% แต่เดียวนี้เหลือ 2-5%


ลองคิดแบบนี้สิครับคุณSearchMarketing ไม่สนว่าอะไรมันจะผิดถูกในทฤษฎีหรือที่คนอื่นๆบอกกัน  ถ้าสำหรับเรามันดี(ชายได้) มันก็คือดึ ถูกวิธี  :)

วิธีของคนอื่นผมสนใจผมอ่านแต่จะเอามาหมดหรือไม่นั้นมันอีกเรื่อง


โชคดีนะครับ  :)