หัวข้อ: ขายสินค้าแบบ e-commerce ต้องเสียภาษีอย่างไร??? เริ่มหัวข้อโดย: ae18 ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 17:17:35 ขายสินค้าแบบ e-commerce ต้องเสียภาษีอย่างไร? ตอนนี้ทำงานประจำกับขายของทางเน็ตด้วย คิดอยากจะลงมาทำแบบเต็มตัว แต่อยากรู้เรื่องการเสียภาษีในการขายของแบบ e-commerce เพราะธุรกิจที่ทำทางเน็นอยู่ตอนนี้มีแนวโน้มไปได้ดี แม้ผลตอบแทนจะได้ไม่มากเท่าไหร่ เผื่อธุรกิจที่ทำอยู่ก้าวหน้าเกินคาด จะได้ไม่ต้องมาห่วงกับเรื่องการเสียภาษีย้อนหลัง ไม่ทราบว่าพอจะมีพี่ๆในที่นี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเสียภาษีแบบขายของทางเน็ตให้ได้บ้างไหม??? :-*
หัวข้อ: Re: ขายสินค้าแบบ e-commerce ต้องเสียภาษีอย่างไร??? เริ่มหัวข้อโดย: FernanZdo ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 17:21:58 ผมจดทะเบียนการค้าครับ 50 บาท ต่างจังหวัดไปจดที่ อบจ แต่กทมไม่ทราบเหมือนกันว่าจดที่ไหน
จดเสร็จแล้วรอ1เดือนเพื่อรับCODEมาติดเว็บของเรา เมื่อติดแล้วจะเป็นสัญลักษณ์ของกรมัฒนาธุรกิจการค้าเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บของเรา ดูได้ที่นี่เลยครับ http://www.thairegistration.com/mainsite/ :wanwan020: หัวข้อ: Re: ขายสินค้าแบบ e-commerce ต้องเสียภาษีอย่างไร??? เริ่มหัวข้อโดย: beatyserum ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 18:12:49 ทำไมต้องจดทะเบียน
กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการส่งเสริมและสนับสนุนพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มและขยายช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ จากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก สาเหตุหนึ่งเกิดจากการขาดความน่า เชื่อถือของผู้ประกอบการ ทำให้ผู้บริโภคขาดความมั่นใจ เพราะไม่สามารถรู้หรือทราบได้ว่าผู้ประกอบการเป็นใคร อยู่ที่ไหน กรณีมีปัญหาหรือข้อพิพาทต่าง ๆ ไม่สามารถตรวจสอบการมีตัวตนของผู้ประกอบการได้ ดังนั้น จะเห็นว่า ความเชื่อถือและเชื่อมั่นดังกล่าว ถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การที่จะช่วยกระตุ้นให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้รับความแพร่หลายในประเทศไทย เกิดการทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น จะต้องมีการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการตัดสินใจทำธุรกรรมพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้กำหนดให้ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีสถานประกอบการตั้ง อยู่ในประเทศไทย ต้องมา จดทะเบียนพาณิชย์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบการมีตัวตนของผู้ประกอบการได้ว่า ผู้ประกอบการมี ตัวตนจริงหรือไม่ เป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำธุรกรรมอะไรบ้าง ประโยชน์ของการจดทะเบียน 1. สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้ประกอบการในระดับหนึ่ง โดยกรมฯ จะจัดทำเลขทะเบียน พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องหมาย Registered) จัดส่งให้แก่ผู้ประกอบการ (ส่งทางe-Mail ในรูปแบบ Source Code) เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปแสดงไว้บน Web Site หรือ Home Page เพื่อแสดงว่าได้ จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว เมื่อผู้บริโภค (ผู้ซื้อ) เห็นเครื่องหมาย Registered แล้ว จะเกิดความมั่นใจในการทำธุรกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อ click ที่เลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบจะเชื่อมโยงมายังฐานข้อมูลกรมฯ และแสดงข้อมูลทางทะเบียนของผู้ประกอบการ เพื่อให้ ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานะและการมีตัวตนของผู้ประกอบการได้ 2. กรมฯ จะนำรายชื่อเว็บไซต์ที่ขึ้นทะเบียน มาจัดทำเป็นฐานข้อมูล แยกตามประเภทธุรกิจ (www.dbd.go.th/edirectory (http://www.dbd.go.th/edirectory)) นำไปเผยแพร่แก่ผู้ประกอบการและประชาชนผู้สนใจผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง 3. ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่จดทะเบียนแล้ว สามารถยื่นขอใช้เครื่อง หมายรับรองความน่าเชื่อถือ (Trustmark) จากกรมฯ ได้ ซึ่งเครื่องหมาย Trustmark นี้จะมีความ น่าเชื่อถือสูงกว่าเครื่องหมาย Registered กล่าวคือ จะออกให้แก่เว็บไซต์ที่มีคุณสมบัติตามที่กรมฯ กำหนด เท่านั้น เพื่อเป็นการยกระดับผู้ประกอบการของไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ (www.trustmarkthai.com (http://www.trustmarkthai.com)) 4. การได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น การเข้าร่วมการอบรมสัมมนา การได้รับคำแนะนำ และการได้รับข้อมูลข่าวสารด้านการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ผู้มีหน้าที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งประกอบพาณิชยกิจในเชิงพาณิชย์อันเป็นอาชีพปกติ ดังนี้ (1) ซื้อขายสินค้าหรือบริการ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้แก่ บุคคลที่มีเว็บไซต์เพื่อทำการซื้อขายสินค้าหรือบริการ (2) บริการอินเทอร์เน็ต (ISP : Internet Service Provider) (3) ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Web Hosting) (4) บริการเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (e-Marketplace) เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการจดทะเบียน 1. คำขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.) และ รายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์ (เอกสารแนบ) 2. สำเนาบัตรประจำตัว - กรณีบุคคลธรรมดา ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน - กรณีนิติบุคคล ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวผู้จัดการของห้างหุ้นส่วน หรือของกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด (ไม่ต้องแนบหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล) 3. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) 4. หนังสือชี้แจง (กรณียื่นล่าช้าหรือเกินกำหนด) กำหนดเวลาการยื่นคำขอจดทะเบียน ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ ให้ยื่นขอจดทะเบียนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มประกอบการ สถานที่ยื่นจดทะเบียน (1) ผู้ประกอบการที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครให้ยื่นจด ทะเบียนต่อ สำนักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1-7 หรือ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง สำนักทะเบียนธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยจะเลือกยื่นต่อสำนักงานใดก็ได้ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง (ชั้น 10 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ นนทบุรี) โทร. 0 2547 5153-5 สำนักงานบริการการจดทะเบียนธุรกิจ 1 (อาคารธนาลงกรณ์ ถ.บรมราชชนนี)โทร.0 2446 8160-9 สำนักงานบริการการจดทะเบียนธุรกิจ 2 (อาคาร ถ.พระราม 6) โทร. 0 2618 3345 สำนักงานบริการการจดทะเบียนธุรกิจ 3 (อาคารปรีชาคอมเพล็กซ์ ถ.รัชดาภิเษก) โทร. 0 2276 7268 สำนักงานบริการการจดทะเบียนธุรกิจ 4 (อาคารวรวิทย์ ชั้น 8 โซน A-B) โทร. 0 2234 2951-3 สำนักงานบริการการจดทะเบียนธุรกิจ 5 (อาคารปรีชาคอมเพล็กซ์ ถ.รัชดาภิเษก) โทร. 0 2276 7255 สำนักงานบริการการจดทะเบียนธุรกิจ 6 (อาคารโมเดิอร์นฟอร์ม ถ.ศรีนครินทร์) โทร. 0 2722-8366-7 สำนักงานบริการการจดทะเบียนธุรกิจ 7 (อาคารปรีชาคอมเพล็กซ์ ถ.รัชดาภิเษก) โทร. 0 2276 7253 (2) ผู้ประกอบการที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่จังหวัดอื่น นอกจากกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะตั้งอยู่อำเภอใด ให้ยื่นต่อสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดนั้น ๆ เพียงแห่งเดียว ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ต้องจดทะเบียน - มีระบบการสั่งซื้อ เช่น ระบบกรอกฟอร์ม ระบบตะกร้า e-mail หรืออื่น ๆ - มีระบบการชำระเงิน ออฟไลน์ หรือ ออนไลน์ เช่น การโอนเงินผ่านระบบบัญชี การชำระด้วยบัตรเครดิต หรือ e-cash , e-wallet เป็นต้น เป็นต้น - มีระบบสมัครสมาชิก เพื่อรับบริการข้อมูลหรืออื่น ๆ โดยมีการคิดค่าใช้จ่าย (ถือเป็นการขายบริการ) เช่น บริการข่าวสาร/บทความ/หนังสือ การรับสมัครงานผ่านทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น - มีวัตถุที่ประสงค์หลักในการรับจ้างโฆษณาสินค้าหรือบริการของผู้อื่น และมีรายได้จากการโฆษณานั้น - รับจ้างออกแบบเว็บไซต์ หรือเพียงโฆษณาว่าเป็นผู้รับจ้างออกแบบเว็บไซต์ เพราะถือว่าการออกแบบเว็บไซต์นั้นมีช่องทางการค้าปกติบนอินเทอร์เน็ต - เว็บไซต์ให้บริการเกมส์ออนไลน์ที่คิดค่าบริการจากผู้เล่น (เจ้าของเว็บไซต์ต้องจดทะเบียน) - เว็บไซต์ที่มีการส่งมอบสินค้าหรือบริการผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น การ Download โปรแกรม เกมส์ Ringtone Screensaver SMS เป็นต้น ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ไม่ต้องจดทะเบียน - มีเฉพาะหน้าร้านโชว์สินค้าของตนเอง แต่ทำการค้าในช่องทางปกติ (ไม่ใช่อินเทอร์เน็ต) แม้จะมีข้อความแจ้งว่าให้ติดต่อได้ เช่น สนใจโทร.ติดต่อ… หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ …. - การโฆษณาสินค้าของตนเอง โดยลักษณะของการโฆษณานั้นไม่ใช่วัตถุที่ประสงค์หลักของกิจการและไม่ใช่ช่อง ทางค้าปกติ แม้จะมี banner ของผู้อื่นมาติดและมีรายได้จาก banner ก็ตาม - การประชาสัมพันธ์หรือเผยแพร่ข้อมูลแก่สมาชิกหรือบุคคลทั่วไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือบริการ เช่น เพื่อการสอน ประกาศรับสมัครงาน - การประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท หรือสินค้า - เว็บไซต์ส่วนตัว (ส่วนบุคคล) ที่สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว การงาน การศึกษา หรือความสนใจส่วนตัว - เว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางด้านข้อมูล โดยมีจุดประสงค์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยไม่มีการเสียค่าสมาชิกหรือ ค่าใช้จ่ายใด ๆ - ร้านอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการในการเล่น net ที่เจ้าของร้านได้รายได้จากค่าชั่วโมงการเล่นอินเทอร์เน็ต (อินเทอร์เน็ตคาเฟ่) และ เกมส์คอมพิวเตอร์ ประเภทนี้ เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตฯ ไม่ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ให้จดทะเบียนพาณิชย์ ปกติ (ถือเป็นพาณิชยกิจธรรมดา ในช่องทางปกติ ไม่ใช่ e-Commerce ) ที่มา http://www.thaimarketpress.com/index.php?topic=22.0 หัวข้อ: Re: ขายสินค้าแบบ e-commerce ต้องเสียภาษีอย่างไร??? เริ่มหัวข้อโดย: ae18 ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 21:08:09 ขายสินค้าแบบ e-commerce ต้องเสียภาษีอย่างไร? ... ที่ผมอยากรู้คือ การขายของทางอินเตอร์เน็ตเนี้ย ต้องไปเสียภาษียังไง เพราะกลัวเรื่องภาษีย้อนหลังมาก :wanwan009: และขอบคุณมากครับ สำหรับเรื่องการจดทะเบียนการค้า ตัวนี้ผมไปจดมาเรียบร้อยแล้ว :wanwan019: ยังเหลือแต่เรื่องภาษีนี่แหละครับ รบกวนพี่ๆ ที่ขายของทางเน็ต ที่พอจะมีความรู้เรื่องพวกเหล่านี้ มาแนะนำน้องบ้างครับ :wanwan012: หัวข้อ: Re: ขายสินค้าแบบ e-commerce ต้องเสียภาษีอย่างไร??? เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 21:49:26 ขายสินค้าแบบ e-commerce ต้องเสียภาษีอย่างไร? ... ที่ผมอยากรู้คือ การขายของทางอินเตอร์เน็ตเนี้ย ต้องไปเสียภาษียังไง เพราะกลัวเรื่องภาษีย้อนหลังมาก :wanwan009: และขอบคุณมากครับ สำหรับเรื่องการจดทะเบียนการค้า ตัวนี้ผมไปจดมาเรียบร้อยแล้ว :wanwan019: ยังเหลือแต่เรื่องภาษีนี่แหละครับ รบกวนพี่ๆ ที่ขายของทางเน็ต ที่พอจะมีความรู้เรื่องพวกเหล่านี้ มาแนะนำน้องบ้างครับ :wanwan012: ถ้าของที่ซื้อมาขายต่อไม่มี vat ซื้อ หรือขอ vat ซื้อไม่เต็มจำนวน ก็เสียภาษีแบบเหมารายปีถูก ๆ ครับ ถ้าสรรพากรยังไม่มาไม่ต้องไปบอกครับ |