ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขอแชร์ประสบการณ์ค่ะ เกี่ยว 2009 ในลูกสาว (แต่ลูกสาวบอกว่าเขาเป็น ไข้ 3500)เขียนบันทึกไว้ ลองอ่านดูค่ะ
ลูกสาวอายุ ห้าขวบค่ะ ตอนที่น้องเป็น คือ ช่วงสิงหาคม ปีที่แล้ว (กำลังระบาดหนักเลย)
ตอนที่ลูกเป็นไข้ ดิฉันอยู่ต่างประเทศ รู้สึกผิดและรู้สึกแย่มากมาก ถ้าลูกเป็นอะไรไปคงไม่ให้อภัยตัวเอง(ตอนนี้ก็ยังรู้สึกแย่ทุกครั้งที่คิด)
ก็คือ ว่า ปกติจะโทรหาลูกทุกวัน แล้ว วันนั้นวันศุกร์ โทรมาหา คุณแม่บอกว่า มุก ไม่สบาย สงสัยติดหวัดตา หวัดเฉย ๆ คงไม่เป็นไร( แต่ช่วงนั้นกำลังระบาดหนัก มุกก็จะ น้องอยากเป็น 2009 เขาจะชอบพูด)
วันที่ 2 โทรมา คุณแม่บอกว่า พาไปหาหมอ โอชิช หมอบอกให้ไปโรงพยาบาล แต่หมอ ชัยสิทธิ์ เป็นหมอเวรที่โรงพยาบาลบอกว่า แค่ คออักเสป ให้ยามาทาน ตอนนี้น้องนอนแล้ว ( ขอบอกชื่อหมอน่ะค่ะ เพราะว่าโกรธมาก มาก และขอ ชม หมอ โอชิช ว่า เก่ง มากมากค่ะ )
วันที่ 3 โทรหาอีก คุณแม่บอกว่า น้อง แอดมิทเมื่อคืน เพราะ น้องเหนื่อยมาก และ อาเจียน ตลอดเวลา ป้าต้อมเอามาส่งตอนเที่ยงคืน (โชคดีที่ดิฉันมี พี่สาวเป็น แพทย์ และพยาบาล ในโรงพยาบาล นั่น รพ.ชัยภูมิ)พี่สาวและ พ่อกับแม่ของดิฉันนอนเฝ้าน้อง ป้าต้อมนอนเตียง้ดียวกับน้อง ดิฉันคุยกับลูก ลูกบอกว่า “แม่น้องอยู่โรงพยาบาล ป้าต้อมพามา เหนื่อยมาก แค่นี้น่ะ” แต่น้ำเสียงลูกเหนื่อยจริงๆ พี่สาวบอกว่า ต้องเจาะเลือด และ ตรวจปอด กว่าจะรู้ผลก็อีกสักพัก
วันที่ 4 ดิฉันโทรอีก พี่สาวคนที่เป็นหมอบอกว่า น้องมุก ปอดอักเสบน่ะ ให้ ทามิฟู แล้ว กัน 2009 น่าจะโอเค
วันนั้นลูกนำเสียงดีขึ้น แต่บอกว่า “ แม่น้องมีน้ำเกลือด้วย ฉีดยาด้วย ป้าต้อมฉีดให้ ไม่เจ็บ”
วันที่ 5 ลูกบอกว่า “ อยากกลับบ้านแล้ว มีแต่คนมาหอมแก้ม เบื่อ ไม่มีเพื่อนเลยแม่”
วันที่ 6 น้องกลับบ้าน แต่ ต้องมาตรวจอีก ครั้ง ใน อีก 7 วัน พอกะว่าเขาถึงบ้านกันแล้วดิฉันโทรอีก
คุณแม่บอกว่า “ใจเย็น ๆ น่ะ อย่าตกใจ ไอ้มุกเป็น 2009 ตอนนั้น วินาทีนั้น ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก กังวลและกลัวไปหมด เพราะไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว มันไม่อันตรายมากมาย ถ้า หาหมอทัน
แต่ตอนนั้นตกใจมากโทรหาพี่สาวที่เป็นพยาบาล มันบอกว่า โทรหาหมอดีกว่า แก่ฟังแม่ แม่ไม่ใช้หมอ น่ะ เออ ก็ถูก ของมัน เลย โทรหาป้าต่าย
ป้าต่ายบอกว่า” ใช่เจ้ามุก เป็น 2009 เพราะ มุก มี ปอดอักเสบ และ มี ไข้สูง เหนื่อย และหอบ (โดยปกติ น้องมุกจะมีโรคหอบเป้นโรคประจำตัวค่ะ) แต่ตอนนี้อยู่ในระยะเฝ้าระวัง ส่วนคนที่อยู่รอบๆ ตัวต้องระวังถ้ามีใครเป็นหวัด ต้องให้ ทามิฟู
แต่ดีแล้วที่เจ้ามุกเป็นก่อนเพือ่นคนอื่นจะได้รู้ทางหนีทีไล่”
ถึงชั่วโมงนี้ ทุกคนในบ้าน หนาวววววววววววววววว กันทุกคนเพราะ ทุกคนไปเยี่ยมมุก เล่นกันมุก และที่สำคัญป้าต้อมนอนกับมุก ในช่วงที่ มุก กำลังแพร่เชื้อ 2-5 วัน เพราะฉะนั้นป้าต้อม อยู่ในข่ายที่จะเป็นคนต่อไป
ส่วนพ่อของดิฉันพอรู้ว่าน้องมุก เป็น 2009 ท่านเงียบมาก เพราะพี่สาวบอกว่า ดีที่มาทัน เพราะมันกินปอดแล้ว ถ้าช้าอาจไม่ทันการ แต่พอดิฉันถามลูกสาว แกก็จะบอกว่า “น้องเป็นไข้หวัด 3500 แม่” ทำไม 3500” “อ้าวก็ค่าห้อง 3500” ก็พอดีอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีตังค์ไปโรงพยาบาลเอกชน เลยเข้ารัฐ
และสรุปว่า การที่น้องมุก เป็น 2009 ในตอนนั้นเป็นที่ กล่าวขวัญไปทั้งตัวจังหวัด ว่า หลานหมอต่ายเป็น 2009 พี่สาวบอกว่า น่าจะติดมาจากโรงเรียน เพราะมีครูมานอนแอดมิทเหมือนกัน ส่วนน้องมุกบอกว่า มีเพื่อนเป็นหวัดเต็มไปหมด แต่ทำไมมมมม มาเป็นที่ลูกฉันน่ะ
หลังจากนั้นก็ มี หลาวสาว อีก 2 คนที่เป็นต่อจากมุก แต่เขาได้ ทามิฟู เลย หายดีแล้ว ส่วนเจ้าหลานชาย สอง คน ไม่เป็น เพราะแม่เขาบอกว่า ทุกวันที่คลินิกจะมีคนไข้มาหา เด็ก ๆ คงได้ภูมิคุ้มกันหมดแล้ว เลยไม่เป็น
ส่วนคุณหมออีกท่านบอกว่า การที่เด็กเป็นแล้วจะไม่กลับมาเป็นอีก ส่วนผู้ใหญ่อย่างเรา มีโอกาสกลับมาเป็นอีกค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณ Jealous ค่ะ ถึงมือหมอแล้วไม่ต้องหว่งค่ะ เพราะตอนนี้น้องมุก เป็นลิงเหมือนเดิมแล้วค่ะ