กระทั่งย่างเข้าคืนที่ 10 น.ส.รสรินทร์ ก็ยังไม่ยอมให้ร่วมหลับนอน โดยยังอ้างว่ายังมีประจำเดือนอยู่ ทำให้นายอนันต์รู้สึกสงสัยในการแสดงออกของน.ส.รสรินทร์ นำเรื่องไปปรึกษากับญาติ ก่อนจะพากันไปพบ น.ส.รสรินทร์และญาติๆ เพื่อขอเลิกและขอสินสอดคืน
ในที่สุดเขาบอกว่าพร้อมจะร่วมหลับนอนแล้ว แต่ตนไม่เอาด้วยกลัวโดนหลอกอีก ยืนยันจะขอเงินสินสอดทั้งหมดคืน เขาบอกเงินเอาไปใช้จ่ายกับการจัดงานหมดแล้วและยังท้าทายถ้าต้องการเงินคืนก็ ให้ไปฟ้องศาลเอา
ในข่าว บอกว่า เธอพร้อมจะร่วมหลับนอนแล้ว
ตอนนี้ ทำไมฝ่ายชายไม่ร่วมหลับนอนกับฝ่ายหญิงล่ะครับ ถ้าคิดว่า sex เป็นเรื่องสำคัญมากกว่า ความรัก และความเข้าอกเข้าใจกัน
เรื่องนี้คงจะทำให้ผู้ชายคนนี้หมดรักแล้วหละครับ แต่งงานแล้วไม่ยอมนอนด้วย แถมยังมีหนุ่มๆโทรหา พูดคุยกันอีก
พอเห็นท่าว่าผู้ชายไม่ยอมเข้าจริงๆก็เลย จำใจต้องยอม ถ้าฝ่ายชายไม่โวยวายก็คงยังไม่ยอมแน่เลย
เรื่องนี้ผมชื่นชมผู้ชายนะครับ ถ้าเค้าคิดว่าจริงๆแล้วผู้หญิงไม่ได้รักตัวเอง แต่รักอยู่กับคนอื่น แม้แต่งงานแล้วยังไม่คิดแม้จะให้ความรัก
ฝ่ายชายอาจจะคิดว่า จะไม่เอาละในเมื่อเธอไม่รักนี่ เลยอยากขอเงินคืน เพราะไม่อยากทำให้ฝ่ายหญิงลำบากใจที่ต้องอยู่กับตน
และผมคิดว่า ผู้ชายที่จีบหญิงมาตั้ง 2 ปี แล้วไม่ได้ล่วงเกินฝ่ายหญิงให้เสียหายเลย มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนอย่างนี้ครับ
ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ ผู้ชายน่าสงสารมากครับ ส่วนผู้หญิง ในข่าวบอกว่าทำงาน อบต. เพราะงั้นน่าจะจบ ปวส. หรือ ป.ตรี แล้ว น่าจะมีความรู้พอสมควรครับ อายุ 28 แล้วผมว่าน่าจะยากนะครับที่จะถูกจับคลุมถุงชน ผมว่ามันยากจริงๆครับ (เพราะฝ่ายหญิงมีการมีงานทำมั่นคงแล้ว ไม่น่าจะโดนบังคับจากญาติง่ายๆแน่)
แต่ไม่แน่เหมือนกันครับ ปัญหาอาจจะเกิดจากฝ่ายชายแอบไปเที่ยวมาแล้วไม่ใส่ถุงก็ได้ใครจะไปรู้