http://www.thairath.com/news.p...ion=economic&content=42550 หวังบาทอ่อนชวนคนไทยขนเงินลงทุนนอก โถ! ธปท.กว่าจะรู้ตัวเมื่อสาย [5 เม.ย. 50 - 04:41]ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกรายงานบทความของนางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธปท. เรื่องการกระจายความเสี่ยงการลงทุน ด้วยการออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชน และคนไทยที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เห็นช่องทางการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ ธปท.ที่ผ่อนคลายเกณฑ์ให้นักลงทุนประเภทต่างๆ หันไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อลดแรงกดดันที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
โดยในบทความระบุว่า หลักของการลงทุนในประเทศ ที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีนั้น ควรลงทุนในหุ้นส่วนหนึ่ง และลงทุนในตลาดตราสารหนี้อีกส่วนหนึ่ง เพราะหากเป็นการลงทุนระยะยาวที่ครอบคลุมวงจรเศรษฐกิจทั้งขาขึ้นและขาลง จะพบว่าการลงทุนใน 2 ประเภทนี้ ทำกำไรได้มากกว่าการลงทุนในหุ้น หรือพันธบัตรรัฐบาลเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ การออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ของต่างประเทศ ก็เป็นอีกช่องทางที่ทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยความเสี่ยงของการลงทุนไม่เพิ่มขึ้น แต่ต้องเลือกลงทุนในแต่ละประเทศในช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากที่สุด รวมทั้งหากสามารถโยกเงินจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งหรือจากหลักทรัพย์หนึ่งไปอีกหลักทรัพย์หนึ่งได้ในเวลาที่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงปี 49 ที่ผ่านมา ยอดเงินที่นักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศโดยตรงอยู่ในระดับที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับเงินลงทุนโดยตรงที่เข้ามาจากต่างประเทศ โดยปี 49 มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาในไทยทั้งสิ้น 361,174 ล้านบาท ขณะที่มีเงินจากนักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศเพียง 33,882 ล้านบาท และตัวเลขล่าสุดเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เงินลงทุนโดยตรงที่เข้ามาจากต่างประเทศ ยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง 22,147 ล้านบาท ขณะที่มีเงินจากนักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศเพียง 2,260 ล้านบาทเท่านั้น
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ เผยผลสำรวจนักวิเคราะห์และนักการเงินต่างชาติ ส่วนใหญ่เห็นสอดคล้องกันว่า หากไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ก็มีความเป็นไปได้ที่เงินบาทซึ่งแข็งค่าอย่างมากอาจอ่อนค่าลงในที่สุด หลังจากที่ทางการไทยได้ใช้หลายมาตรการในการควบคุมค่าเงินบาท แต่ไม่สามารถกดดันค่าเงินลงได้ ทั้งมาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้าและมาตรการแทรกแซงตลาด แต่ยังไม่ได้ใช้นโยบายการเงินแบบดั้งเดิมคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกดดันค่าเงินบาท
โดยนายฌอน แคลโลว์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนสกุลเงิน ธนาคารเวสท์แพค กล่าวว่า การลดลงอย่างรุนแรงของอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกนอกประเทศและช่วยกระตุ้นการจับจ่ายภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นและยอดเกินดุลการค้าลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อเงินบาท ทำให้ค่าบาทอ่อนค่าลง ซึ่งที่ผ่านมามาตรการควบคุมเงินทุนของไทย ได้ส่งผลให้การนำเงินเข้ามาลงทุนในไทยมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก จนส่งผลให้ผู้ที่นำเงินเข้ามาลงทุนในไทยไม่ต้องการถอนเงินลงทุนดังกล่าวออกไป ดังนั้น มาตรการควบคุมเงินทุนจึงกลับกลายเป็นการเปิดโอกาสไม่ให้บาทอ่อนค่าลง.