อืม จริงๆเรื่องนี้ มีหลายประเด็นนะครับ
1. เราต้องเช็คก่อนว่าของเราเข้าหมวดอะไร พิกัดเท่าไหร่ (H Code : เช่น 84713020000 คือ โน๊ตบุ๊ค ) โดยการเช็คด้วยตัวเองที่เวปกรมศุล
http://igtf.customs.go.th/igtf...F4BE05C452AF68D17A33B6D222A772 และโทรสอบถามเพื่อความแน่ใจที่ 02 667 7204-05 กองพิกัด เพราะสินค้าบางอย่าง ต้องขอใบอนุญาติอีก เช่น คุณจะเอาทีวี, หรือแบตเตอรี่ เข้ามา แบบนี้ เรื่องก็ต้องไปที่ ขอใบอนุญาติ มอก. อีก ก็ว่ากันยาว.. ต่อไป
2. เมื่อเรารู้พิกัด เราจะรู้ ค่าภาษีทันที เรียกกันว่า ภาษีนำเข้า เช่น อุปกรณ์คอม ไม่มีเป็น 0% , พวกวาล์วอุตสาหกรรม 10% , กล้องถ่ายรูป 3% เป็นต้น
โดย วิธีคิด ภาษี และเงินที่เราต้องจ่าย จะตกอยู่ที่ส่วน ของพิธีการไปรษณีย์แล้วครับ ที่หลักสี่ 02 984 7325 (EMS) และอีกที่คือ หัวลำโพง 02 215 0966-8 ต่อ 20
ถ้าผมจะสรุปวิธีคิด ถ้าไม่พิดพลาดอะไรจะเป็นดังนี้
เช่น ซื้อกล้องถ่ายรูปมา [ราคา 10,000 บาท (คิดเป็นเงินไทยแล้ว) + ค่าขนส่ง 1,000 บาท (เช่น China post) ] x 3 % = 330 บาท
แล้วนำ 330 บาท + 10,000 + 1,000 = 11,330 บาท เราเรียก 11,330 นี้ว่า ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม
แล้วให้นำ 11,330 x 7 % = 793 บาท
สรุป รวมภาษีที่ต้องชำระ 330 + 793 = 1,123 บาท
นี่คือ คิดจาก ไปรษณีย์ไทย ไม่ได้คิดจากเอกชนทั้งหลาย เพราะไปรษณีย์ไทย มีการคัดแยกสิ่งของทางไปรณ๊ย์ให้ด้วยครับ ช่วยเราได้มากในการประหยัดเงิน ยังไงเท่านี้ก่อน เพราะข้อมูลเยอะ เขียนเป็นหน้าไม่หมด ...
9+1 = 10 +1 ให้ครับ สำหรับคำอธิบายเพิ่มเติม
ที่จริงมันมี ทริคอย่างหนึ่ง
มีทริปหนึ่งที่ผมสั่ง WINDOES 7 ULTIMATE 6 ชุด + WINDOWS XP 10 ชุด
โดยส่งผ่าน EMS มาที่สมุย เมื่อสินค้ามาถึง ต้องมีการเสียภาษี ที่ศุลกากรประจำเกาะสมุย
ก็เลยมีใบเขียวเรียกไปเสียภาษี ที่จริงสินค้าของผมโดนตีประเมินคร่าวๆ จากพี่ที่ศุลกากรประจำเกาะสมุย ว่าทั้งหมด จะต้องเสีย 1,700 กว่าบาท
ผมก็เลยขี่มอไซค์ไปครึ่งเกาะ 27 กิโล ระหว่าง หาดเฉวงไป หน้าทอน
ไปคุยกับพี่เขา และได้ไปแก้ไขงานเล็กๆน้อยใน ออฟฟิศศุลกากร พี่เขาใจดีเลยลดให้เหลือ 199 บาท
ปล. พี่เขาเรียกไปทำงานที่ศุลกากรด้วย มีตำแหน่งช่างให้ แต่เราไม่เอา เราไม่ชอบทำงานประจำ
ปล.2 เห็นคู่มือเทียบอัตราเสียภาษีที่นั่นแล้ว ตกใจ ใหญ่กว่าสมุดหน้าเหลืองภาคกลาง 2 เล่มอีก