ความล้มเหลวเชิงบวกผู้ชายคนหนึ่งตกงานเมื่ออายุยี่สิบสอง ตอนอายุยี่สิบสามเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งในสภาจังหวัด อายุยี่สิบสี่ปีการค้าของเขาขาดทุนจนต้องปิดกิจการ อายุยี่สิบเจ็ดเกิดอาการทางประสาทอย่างแรงจนต้องรับการบำบัด อายุสามสิบสี่สมัครเข้าชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง อายุสามสิบเก้าลองสมัครอีกครั้ง แต่ก็สอบตกตามเคย อายุสี่สิบห้าสมัครเข้าชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิก แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง อายุสี่สิบเจ็ดพ่ายแพ้คู่แข่งในพรรคในการสมัครเป็นตัวแทนชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี อายุห้าสิบปีแพ้อีกครั้งในการเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิก
คนอะไร ทำไม่ชีวิตถึงรันทดได้ขนาดนี้ก็ไม่ทราบ ทั้งชีวิตมีแต่คำว่าพ่ายแพ้ตลอดมา แถมแพ้ซ้ำๆในเรื่องเดิมอีกต่างหากเรื่องนี้คงจะจบลงเป็นนิยายโศกสมบูรณ์แบบ หากตอนท้ายของเรื่องไม่ได้ต่อไว้ว่า ตอนอายุครบห้าสิบเอ็ดปี ชายคนนี้ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
ประธานาธิบดีคนที่สิบหกของสหรัฐอเมริกาและนี้คือชีวิตของ
ประธานาธิบดีลิงคอล์น หนึ่งในประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติ และเป็นที่รักยิ่งของชาวอเมริกันจนถึงทุกวันนี้
อัจฉริยบุคคลแทบทุกคนเคยล้มเหลวในชีวิตอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ คนเก่งของเรา เจ้าของรางวัลโนเบลจากทฤษฎีสัมพัทธภาพ รูปภาพของเขาถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนความฉลาดอัจฉริยะในปัจจุบัน น่าสนเมื่อตอนเข้ายังเป็นเด็กนักเรียนประถมที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ครูของเขาเคยตราหน้าไว้ว่า “ เด็กคนนี้ไม่มีวันประสบความสำเร็จในชีวิตได้แน่นอน “
ความล้มเหลวอาจไม่ใช่สิ่งตรงข้ามกับความสำเร็จก็เป็นได้ เป็นไปได้ไหมว่า ทั้งสองสิ่งนี้คือส่วนผสมของกันและกัน ในจานสีแห่งชีวิตที่พวกเราได้รับมาหากเราเปลี่ยนแปลงคำนิยามของคำว่า ‘ล้มเหลว’ และ ‘สำเร็จ’ เป็นไปได้ไหมว่า ชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลงไปได้โดยสิ้นเชิง
บทความบางตอน ยกมาจากหนังสือ "อัจฉริยะสร้างสุข" ของ หนูดี วริษา เรช
ปล. ไม่มีอะไรมากครับ เบื่อๆ ทำเว็ป (ยังไม่ประสบความสำเร็จ) เลยอยากจะแบ่งปันเพื่อน ๆ มือใหม่ที่อาจจะเริ่มท้อแท้ และไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือดี ๆ ....
สู้ต่อไป..ไอ้มดแดง