[Series หุ้น] – ตอนที่ 1 พื้นฐานหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ ราคา
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,49821.0.html
ตอนที่ 2ตอนนี้จะพูดถึงเรื่องของราคาหุ้นกันต่อนะคะ
ราคาหุ้น แต่ละตัว จะไม่เท่ากัน และจะมีช่วงชั้นไม่เท่ากันด้วย
(หุ้น แต่ละตัว กำหนดราคามาตั้งแต่เข้าตลาด และเคลื่อนไหวมากขึ้น ลดลง หุ้นราคา 2 บาท ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจแย่กว่า หุ้นราคา 5 บาท ไม่เกี่ยวกันค่ะ)
ที่บอกว่า ราคาหุ้น แต่ละตัว จะไม่เท่ากัน และจะมีช่วงชั้นไม่เท่ากันด้วย
ช่วงชั้น คืออะไร ช่วงชั้นของราคา ภาษาอังกฤษ คือ spread
Spread ของหุ้นที่ราคาต่างๆ นะคะ (มีการปรับ spread ใหม่ มีผลบังคับใช้ั้ตั้งแต่ 30 มีนา 2552 จะกลับมาอัพเดตวันหลังนะคะ เอาของเก่าไวก่อน)
ระดับราคา ช่วงราคาต่ำกว่า 2 บาท 0.01 บาท
ตั้งแต่ 2 บาท แต่ต่ำกว่า 5 บาท 0.02 บาท
ตั้งแต่ 5 บาท แต่ต่ำกว่า 10 บาท 0.05 บาท
ตั้งแต่ 10 บาท แต่ต่ำกว่า 25 บาท 0.10 บาท
ตั้งแต่ 25 บาท แต่ต่ำกว่า 50 บาท 0.25 บาท
ตั้งแต่ 50 บาท แต่ต่ำกว่า 100 บาท 0.50 บาท
(ง่ายๆ เลย ช่วงราคานี้ ขยับเปลี่ยนเป็น 0.25 ทำให้รายย่อย ที่เดิมที เล่น 2 ช่องขาย ตอนนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว ต้อง 4 ช่อง ไม่งั้นขาดทุนกำไร หรือ เสียค่าคอมเยอะ)
ตั้งแต่ 100 บาท แต่ต่ำกว่า 200 บาท 1.00 บาท
ตั้งแต่ 200 บาท แต่ต่ำกว่า 400 บาท 2.00 บาท
ตั้งแต่ 400 บาท แต่ต่ำกว่า 800 บาท 4.00 บาท
ตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป 6.00 บาท
หมายความว่า ถ้าหุ้นตัวนึง ราคาต่ำกว่า 2 บาท เช่น 1.76 บาท step ที่ราคาขึ้นลง ก็จะเป็น 1.77, 1.78, 1.79 หรือ ราคาลดลง เป็น 1.75, 1.74, 1.73…
แต่ถ้าเมื่อไหร่ ราคาวิ่งมาที่ 1.99 ต่อไปเป็น 2.00 จากนั้น จะขึ้นเป็น 2.02, 2.04
พอเข้าใจ นะคะ
การบ้าน สมมติหุ้นราคา 5 บาท ราคาถัดไปที่มากกว่า 5 บาท 1 step คือราคาเท่าไหร่ และ ต่ำกว่า 1 step คือ เท่าไหร่ รบกวนตอบการบ้านด้วยค่ะ ^_^
การซื้อขายนะคะจะกำหนดให้ส่งคำสั่ง ซื้อขาย ได้ในหน่วยละ 100 หุ้น นั่นหมายถึง ถ้าจะซื้อ จะต้องซื้อเป็นหน่วยร้อยหุ้น เช่น 2000 หุ้น 2100 หุ้น 2500 หุ้น เป็นต้น แต่จะซื้อ 2513 หุ้น แบบนี้ ไม่ได้ ยกเว้น หุ้นตัวใหญ่ไม่กี่ตัวในตลาด ที่ซื้อได้ในหน่วย 10 หุ้น (แก้ไข เป็น 50 หุ้นค่ะ) พวกราคาสูงๆ ประมาณ 100-200 up น่ะค่ะ มีไม่กี่ตัว เช่น ปูนใหญ่ (SCC) ปตท (PTT)
การซื้อขาย จะไม่พูดถึงซื้อโดยตรงกับมาร์ หรือ ซื้อที่ห้องค้านะคะ เพราะว่า เคยไป แต่ไม่เคยซื้อที่นั่น เป็นบัญชีเทรดผ่านเนตน่ะค่ะ ซื้อขายออนไลน์อย่างเดียว เทรดที่บ้าน แต่ถ้าเนตมีปัญหา หรือ อยู่ระหว่างเดินทางก็สามารถโทรสั่งมาร์ได้ค่ะ
(มาร์ หรือ marketing ของห้องค้า หรือ โปรกเกอร์ที่เราเปิดพอร์ตน่ะค่ะ , พอร์ต คือ บัญชีซื้อขายของเรา port = portfolio)
ค่าคอม ต่างกันนิดหน่อยนะคะ เดี๋ยวค่อยมาต่อ ตอนพูดถึงเรื่องค่าคอม และ มีการบ้าน เรื่องคิดค่าคอม ค่อยว่ากันเรื่องนี้อีกทีนะคะ
การซื้อขายหุ้น จะเป็นการจับคู่ระหว่างคำสั่งซื้อ และ คำสั่งขาย ที่ตรงกัน คนที่เล่นหุ้นแต่ละคนก็ส่งคำสั่งซื้อขาย อันไหนตรงกันก็จับคู่กัน ตามเงื่อนของเวลา คิวหรือลำดับ และ ราคาที่ตรงกัน เรียกว่า
matching การตั้งราคาเองก็มีรายละเอียดค่ะ เช่น ตั้งราคาตอนจะซื้อขายนั้นเลย หรือ ตั้งรอคิว ตั้งล่วงหน้าข้ามวัน หรือ ข้ามวันหยุด ตั้งซื้อแบบจะเอาให้ได้ไม่เกี่ยงราคาตอนเปิด หรือ ปิดตลาดก็มี ไว้ต่อวันหลังตอนลงรายละเอียดเรื่องนี้นะคะ
ต่อไป เรื่องของ Bid/Offer ค่ะ ในภาษาไทย ก็คือ ราคาเสนอซื้อ และ ราคาเสนอขาย
ถ้าเราลองเปิดหน้าเว็บที่ดูราคาหุ้นออนไลน์ได้ เช่น set.or.th หรือ ในโปรแกรมซื้อขายหุ้น หลังจากเรามีบัญชีซื้อขายแล้ว ก็จะเห็นราคาเรียงกันสามแถว นะคะ เช่น
หุ้น ซีพี เซเว่น (cpall)
จะเรียง ราคาดังนี้ค่ะ
ราคาเสนอซื้อ (Bid) ราคาเสนอขาย (Offer)
11.3 11.4
11.2 11.5
11.1 11.6
(มีการปรับหน้าจอแสดง bid/offer ใหม่ มีผลบังคับใช้ั้ตั้งแต่ 30 มีนา 2552 เป็น 5 ช่องค่ะ ซ้าย ขวา รวมแล้ว 10 ช่อง จากเดิม 6 ช่องค่ะ)
การปรับนี้ ก็ทำให้เราเห็นคนจะซื้อ จะขาย ในราคาต่างๆ ได้ลึกมากกว่าเดิม เรียกว่า เมื่อก่อน เห็นแค่ 3 ระดับราคาซื้อขาย ตอนนี้ก็เห็น 5 ช่องกันเลย ทำให้ปั่นได้ยากขึ้น มีข้อดี ข้อเสีย ให้พิจารณากันค่ะ
สังเกต คือ ราคาจะเรียงจาก ซ้ายมือ จากล่างขึ้นบน และ จากขวามือ บนลงล่าง
คนที่จะซื้อ จะซื้อที่ 11.3, 11.2, 11.1 ตามลำดับ ในขณะที่ คนที่จะขาย ก็จะขายที่ 11.4, 11.5 และ 11.6 ตามลำดับ
แน่นอน ว่าราคาเสนอจะซื้อ ต้องเรียงจากมากก่อน เพราะว่า เสนอราคาสูง จะซื้อได้ก่อน
และ ราคาเสนอจะขาย ต้องเรียงจากน้อยก่อน เพราะว่า เสนอราคาต่ำ จะขายได้ก่อน
ไม่งงนะคะ ^_^
ทีนี้ คิวค่ะ คิว ถ้าเราจะซื้อ หรือ ขาย แบบไม่รอคิวเลย ก็ เคาะเลยค่ะ จะขาย ก็เคาะซ้ายมือ ที่ราคา 11.3 เลย ได้ทันที ส่วนจะซื้อ ก็ เคาะราคาขวามือเลย คือ ที่ราคา 11.4 ก็จะได้เลย
ราคามันก็จะขยับ เดี๋ยวมีซื้อที่ 11.3 เดี๋ยว 11.4 แล้วแต่ว่าปริมาณซื้อขายจะไปทางทิศไหน บนกระดานซื้อขาย หรือ บนโปรแกรมซื้อขายผ่านเนตที่เรามองดูผ่านจะ จะแสดงตัว B หากเป็นการซื้อฝั่งขวามือ คือที่ราคา 11.4
และ จะแสดงตัว S หากเป็นการขายฝั่งซ้ายมือ คือที่ราคา 11.3
และในหลายๆ ครั้ง ราคามันเคลื่อนไหวเร็วมาก เราส่งคำสั่งซื้อขายไม่ทัน ราคาก็ไหลลง หรือ วิ่งขึ้น แทบไม่ต้องสนใจเรื่อง ซื้อ หรือ ขาย (จริงๆ ก็เป็นการซื้อขาย เพียงแต่ใช้สัญลักษณ์เพื่อให้รู้ว่าวันนี้คนเทฟากไหนมากกว่าเท่านั้นเอง ไม่ต้องสนใจก็ได้ค่ะ)
ต่อไปก็เรื่องของคิวค่ะถ้าเราไม่พอใจราคา 11.3 11.4 แต่เราสนใจราคาต่ำกว่า หรือ สูงกว่านั้น เช่น เราสนใจจะซื้อที่ราคา 11.1 เราก็ส่งคำสั่งซื้อทิ้งไว้รอคิว หากเดิมมีคิวอยู่แล้ว 200,000 หุ้น เราจะซื้อ 5000 หุ้น เราก็ต้องเข้าคิวรอซื้อ ที่ตำแหน่ง 200,001- 205,000 หากราคาไหลลงมาที่ราคานั้น พอคิว 200,000 นั่นหมดไป เราก็ได้ ยกเว้นว่าราคาขึ้นไปอีกที เราก็อด
หรือหากใน 200,000 นั้น มีคนยกเลิกคำสั่งไป 100,000 หุ้น เราก็ได้คิวที่ 100,001 – 105,000 อธิบายแบบบรรยายแบบนี้ มองภาพออกไหมคะ ถ้ายังไง วันหลัง จะมาเป็นภาพแล้วกันค่ะ