การซื้อบ้าน เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ใช้เงินจำนวนมากย่อมมีความเสี่ยง บทความนี้ จะมาแนะนำ 5 สัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่าโครงการอสังหาฯ นั้นๆ อาจมีปัญหา ช่วยให้คุณตัดสินใจได้
ขายบ้าน 
อย่างชาญฉลาด ป้องกันความเสี่ยง และความสูญเสียกันค่ะ
โครงการบ้าน
1. ทำเลที่ตั้ง
"ทำเลที่ตั้ง" ส่งผลต่อความสะดวกสบาย มูลค่าบ้าน และคุณภาพชีวิตในระยะยาว สิ่งที่เราควรศึกษาก่อนตัดสินใจซื้อ มีรายละเอียดดังนี้
- ประเภทของทำเล : เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา เช่น ใจกลางเมือง ชานเมือง หรือย่านชานเมือง
- สิ่งอำนวยความสะดวก : มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันหรือไม่ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน สถานีรถไฟฟ้า หรือรถสาธารณะ
- สภาพแวดล้อม : ปลอดภัย เงียบสงบ หรือมลพิษทางอากาศและเสียง
- ศักยภาพการเติบโต : ทำเลนั้นมีแนวโน้มเจริญเติบโตหรือไม่ ราคาที่ดินมีแนวโน้มขึ้นหรือลง
- กฎหมายและข้อบังคับ : มีข้อกำหนดอะไรเกี่ยวกับการก่อสร้างหรือการใช้งานที่ดินหรือไม่
โครงการบ้าน
ตรวจสอบพื้นที่รอบข้าง
- สังเกตเพื่อนบ้าน : เพื่อนบ้านเป็นมิตร เงียบสงบหรือสร้างปัญหา
- สภาพการจราจร : การจราจรติดขัดหรือไม่ มีทางเลือกในการเดินทางอื่นหรือไม่ เช่น รถไฟฟ้า รถสาธารณะ
- สถานที่สำคัญ : ใกล้กับสถานที่สำคัญที่คุณต้องไปบ่อยหรือไม่ เช่น ที่ทำงาน โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า
- แหล่งมลพิษ : มีแหล่งมลพิษทางอากาศ
เสียง หรือน้ำอยู่ใกล้เคียงหรือไม่
- ความปลอดภัย : พื้นที่นั้นปลอดภัยจากอาชญากรรมหรือไม่

ตรวจสอบสภาพทางกายภาพ
- สภาพดิน : ดินทรุด น้ำท่วม หรือมีปัญหาด้านธรณีวิทยาหรือไม่
- โครงสร้างพื้นฐาน : ถนนหนทาง ระบบไฟฟ้า ประปา และระบบระบายน้ำเพียงพอหรือไม่
- สิ่งก่อสร้าง : อาคารโดยรอบเก่าหรือใหม่ มั่นคงแข็งแรงหรือไม่
- วิวทิวทัศน์ : วิวทิวทัศน์สวยงามหรือไม่ มองเห็นอะไรบ้าง
- ทิศทาง : บ้านหันหน้าไปทางทิศไหน รับแสงแดดและลมอย่างไร
โครงการบ้าน
2. สถานะทางการเงินของบริษัทผู้พัฒนา : ความมั่นคงทางการเงินของโครงการบ้าน เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
- ขอเอกสารงบการเงินจากบริษัท : ผู้ซื้อมีสิทธิ์ขอเอกสารงบการเงินของโครงการจากบริษัท เพื่อศึกษาสภาพการเงินของโครงการ
- วิเคราะห์งบการเงิน : ดูว่าโครงการมีกำไรหรือขาดทุน สภาพคล่องเป็นอย่างไร มีหนี้สินมากน้อยแค่ไหน และมีแผนบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างไร
- เปรียบเทียบงบการเงินกับโครงการอื่น : เปรียบเทียบงบการเงินของโครงการที่สนใจกับโครงการอื่นๆ ในทำเลใกล้เคียงกัน
ตรวจสอบสถานการณ์ก่อสร้าง
- ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้าง : ไปดูก่อสร้างด้วยตัวเอง หรือติดตามความคืบหน้าจากสื่อต่างๆ
- เปรียบเทียบกับแผนงาน : เปรียบเทียบความคืบหน้าการก่อสร้างกับแผนงานที่บริษัทแจ้ง
- ตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้าง : สังเกตว่างานก่อสร้างมีคุณภาพดี ใช้วัสดุดี และได้มาตรฐานหรือไม่
ตรวจสอบประวัติของบริษัท
- ค้นหาข้อมูลบริษัท : ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ผู้บริหาร และผลงานที่ผ่านมา
- ตรวจสอบคดีความ : ตรวจสอบว่าบริษัทมีคดีความหรือข้อพิพาทใดๆ หรือไม่
- อ่านรีวิวจากลูกค้า : อ่านรีวิวจากลูกค้าของโครงการอื่นๆ ของบริษัท
โครงการบ้าน
3. ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านก่อนตัดสินใจซื้อ
ตรวจสอบจากสัญญาซื้อขาย
- รายละเอียดวัสดุ : สัญญาซื้อขายบ้าน หรือ
ขายคอนโด 
ควรระบุรายละเอียดวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง เช่น ประเภทของไม้ กระเบื้อง สี อุปกรณ์ไฟฟ้า และสุขภัณฑ์
- มาตรฐานวัสดุ : สัญญาซื้อขายบ้านควรระบุมาตรฐานของวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง เช่น ยี่ห้อ รุ่น และคุณสมบัติ
เปรียบเทียบกับบ้านตัวอย่าง
- เข้าชมบ้านตัวอย่าง : โครงการบ้านส่วนใหญ่จะมีบ้านตัวอย่างให้ผู้ซื้อเข้าชม เพื่อดูรายละเอียดของบ้าน รวมถึงวัสดุที่ใช้

เปรียบเทียบกับสัญญาซื้อขาย : เปรียบเทียบวัสดุที่ใช้ในบ้านตัวอย่างกับวัสดุที่ระบุในสัญญาซื้อขาย ว่าตรงกันหรือไม่
- สังเกตคุณภาพของงาน : สังเกตคุณภาพของงานก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ และรายละเอียดต่างๆ ว่ามีมาตรฐานหรือไม่
- นัดหมายกับเจ้าหน้าที่โครงการ : นัดหมายกับเจ้าหน้าที่โครงการเพื่อเข้าชม ก่อสร้าง
- ตรวจสอบวัสดุที่มาส่ง : สังเกตวัสดุที่มาส่งที่ ก่อสร้าง ว่าตรงตามสัญญาซื้อขายหรือไม่