Featured Snippet คือ ผลการค้นหาของ Google ที่แสดงผลเป็นคำตอบ โดยไม่ต้องคลิกเข้าไปอ่าน ปกติแล้วจะอยู่ด้านบนสุดของหน้าแสดงผลการค้นหา เหนือเว็บอันดับ 1 ทำให้บางครั้งถูกเรียกว่าอันดับ 0 (Position Zero) ด้วย
โดยทั่วไป เรามักจะพบเป็นข้อความสั้น ๆ หรือย่อหน้า ความยาวประมาณ 5 บรรทัด แต่ความจริงแล้ว ประเภทของ Featured Snippet มีทั้งหมด 5 อย่าง คือ
1. เลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสมก่อนจะเขียนคอนเทนต์ หรือปรับปรุงคอนเทนต์ในเว็บไซต์ คุณต้องเลือก Keyword ที่เหมาะสมก่อน เพราะไม่ใช่ทุก Keyword จะสามารถทำให้เว็บไซต์ ติด Snippet ได้
----------------------------------------------------------------------------------
2. เน้นใช้ Long-tail Keywordหนึ่งในวิธีทำให้เว็บของคุณ ติด Featured Snippet คือ การใช้ Long-tail Keyword หรือ Keyword ที่ประกอบด้วยคำเกินกว่า 3 คำขึ้นไป
โดย Long-tail Keyword มักใช้เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง เฉพาะเจาะจง หรือเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งาน ดังนั้น การแทรก Keyword แบบนี้เข้าไปในเว็บไซต์ จึงมีส่วนทำให้เว็บไซต์ติด Snippet ง่ายขึ้น
----------------------------------------------------------------------------------
3. ตั้งชื่อหัวข้อย่อยเป็นคำถามการตั้งชื่อย่อย (H2 หรือ H3) ของบทความในหน้าเว็บเป็นคำถาม เป็นการบอก Google ว่า Google สามารถดึงข้อความจากหัวข้อนั้น ไปตอบคำถามของผู้ใช้งานในฐานะ Featured Snippet ได้
----------------------------------------------------------------------------------
4. เขียนเนื้อหาตามฟอร์แมตของ Google
นอกจากชื่อหัวข้อแล้ว เนื้อหาของหัวข้อยังมีผลต่อการติด Snippet โดยเนื้อหาของบทความต้องเขียนเป็นการตอบคำถาม ซึ่งมีฟอร์มตามนี้
- ข้อความแรกขึ้นต้นด้วย Keyword ตามด้วยคำว่า “คือ”
- กระชับ อ่านเข้าใจง่าย
- มีความยาวไม่เกิน 50-60 ตัวอักษร
- ไม่พูดถึงชื่อแบรนด์ในข้อความ
- ไม่ใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 อย่างฉัน ผม เรา พวกเรา
----------------------------------------------------------------------------------
5. ดันลำดับเว็บไซต์ให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ติด Snippet เป็นทางลัดในการขึ้นไปอยู่อันดับบนสุดในหน้าแสดงผลการค้นหา แต่ในเวลาเดียวกัน อันดับดั้งเดิมของเว็บไซต์ ก็มีผลต่อการเลือกแสดงผลเป็น Snippet เช่นกัน
โดยผลการศึกษาของ
Ahrefs บอกว่า เว็บอันดับ 1 มีโอกาสติด Featured Snippet ถึง 30.9% ขณะที่เว็บอันดับ 2 และ 3 มีโอกาสติดต่ำลงมา คือ 23.5% และ 15.9% ตามลำดับ