*เนื้อหาต่อไปนี้มีการสอดแทรกมุกตลกเข้าไปเพื่ออรรถรสของผู้อ่านและผู้เขียน ซึ่งอาจมีฝืดบ้างและทำให้ผู้อ่านบางท่านไม่ชอบใจ สำหรับผู้ที่ต้องการอ่านคอนเทนต์แบบจริงจัง สามารถกด Hyperlink แรกได้*
![wanwan012](http://www.thaiseoboard.com/Smileys/default/wanwan012.gif)
ก่อนอื่นเลย
On Page SEO ![](http://www.thaiseoboard.com/go/ex.png)
และ
Off Page SEO นั้นเป็นสองส่วนหลักสำคัญของ
Search Engine Optimization หรือเรียกง่ายๆว่า
SEO ![](http://www.thaiseoboard.com/go/ex.png)
นั่นเอง ซึ่ง SEO แน่นอนว่ารวมไปถึง On Page และ Off Page นั้นมีหน้าที่สำคัญในการช่วยปรับแต่งเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มยอดการมองเห็น (Visibility) ในหน้าผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา (SERPs) โดย SEO ทั้ง 2 แบบ โฟกัสในหน้าที่ที่ต่างกันและมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
หน้าบ้าน (On Page SEO) และ หลังบ้าน (Off Page SEO)
On-page SEO (SEO ภายในหน้าเว็บ): การปรับแต่ง On-page SEO นั้นเป็นการปรับแต่งเนื้อหาและส่วนที่อยู่ภายในเว็บไซต์เพื่อเป็นไปในทิศทางที่เหมาะสมสำหรับการค้นหาของคำสำคัญและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมไปถึงการใช้คำสำคัญในส่วนของ เนื้อหา หัวข้อ การปรับแต่งแท็ก (Title Tag) เรื่องราวและรายละเอียดอื่น ๆ เช่นความสมดุลในการใช้คำสำคัญ (Keyword) ในปริมาณที่เหมาะสม
Off-page SEO (SEO ภายนอกหน้าเว็บ): Off-page SEO เน้นการสร้างลิงก์และกิจกรรมที่เกิดขึ้นนอกเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและอิทธิพลของเว็บไซต์ โดยรวมไปถึงการสร้างลิงก์ออกไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ และการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสำหรับผู้อื่น เพื่อให้พวกเขาแชร์และลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของคุณนั่นเอง
ซึ่งหน้าที่หลักๆของ On Page SEO มีดังต่อไปนี้:1. การปรับแต่งคำสำคัญ (Keyword) คีย์ใจ
- การใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชื่อหน้าเว็บ, หัวข้อ, เนื้อหา, และแท็กเมต้าเพื่อสื่อถึงความเกี่ยวข้องของเนื้อหา (Content) กับเครื่องมือค้นหา
- ซึ่ง Keyword ที่ใช้ควรเป็นคำที่ มี Volume ค้นหาสูงและมีความยาก-ง่าย หรือ Keyword Difficulty (KD%) ที่ไม่ยากจนเกินไป
2. การปรับแต่ง Title Tag ไตเติลใจ
- Title Tag (Site Title) คือ Tag ที่บอกชื่อของหน้าเว็บไซต์ ในหน้าแสดงผลการค้นหา โดย Title Tag จะอยู่ข้างใต้ชื่อเว็บ (URL) และลิงค์ของหน้าเว็บ
- โดย Title Tag ควรมี Keyword หลักของเว็บอยู่ด้วย ยิ่งถ้าอยู่ในอันดับแรกได้ก็จะยิ่งดี!
(ภาพปลากรอบ)
![wanwan001](http://www.thaiseoboard.com/Smileys/default/wanwan001.gif)
3. H1 Heading หรือ หัวข้อ H1 เฮ็ดใจ
- โดย H1 หรือ หัวข้อแรกของคอนเทนต์ คือ องค์ประกอบสำคัญ
- ช่วยให้หน้าเนื้อหาในเว็บเป็นระเบียบ อ่านง่าย
- เพราะ H1 ช่วยทำให้เสิร์ชเอนจิ้นรวมไปถึงคุณผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาในหน้าเว็บมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการจัดอันดับ SEO
4. เมต้า (META description)
โดย แท็กเมต้า คือ คำอธิบายของหน้าเว็บที่อยู่ใต้ Title Tag อีกที ถึงแม้ว่าแท็กเมต้าจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ที่เสิร์ชเอนจิ้นใช้จัดลำดับ SEO แต่การเขียนชื่อแท็กเมต้าและคำอธิบายเมต้าที่น่าสนใจช่วยเรียกให้ผู้ใช้คลิกที่ผลการค้นหาของคุณ
โดยการเขียน แท็กเมต้า ที่ดีนั้นควรมีความยาวไม่เกิน 160 ตัวอักษร เพราะถ้ามากไปกว่านั้นเสิร์ชเอนจิ้น จะตัดข้อความทิ้ง ทำให้ข้อความขาดหายอ่านได้ไม่ครบ
(ภาพปลากรอบภาพปลาใจ)
![wanwan011](http://www.thaiseoboard.com/Smileys/default/wanwan011.gif)
5. Slug หรือ ส่วนสุดท้ายของ URL
Slug หมายถึง ส่วนสุดท้ายของ URL หลัง / ซึ่งบอกการมีอยู่ของหน้าเว็บหรือโพสต์ในเว็บไซต์ต่าง ๆ
- ควรเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา
- สั้นแต่ได้ใจความ ไม่ยาวจนเกินไป
6. การแก้ไข Internal Link
โดยการปรับแต่ง Internal Link หรือ ลิงค์ภายใน นั้น ทำขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพของคอนเทนต์ ให้ง่ายต่อการเข้าถึงและเพื่อให้ผู้อ่านมีประสบการณ์ที่ดี(UX) ในระหว่างการเข้าชมเว็บไซต์ โดยคำที่ควรใช้ผูกกับ Internal Link ควรเป็น Keyword ที่สำคัญของเว็บไซต์นั้นๆหรือคำที่เว็บไซต์นั้นๆต้องการให้ติดอันดับ เพราะการผูกลิงก์กับคำทั่ว ๆ ไปอย่าง “คลิกเลย” นั้นส่งผลให้คำว่า “คลิกเลย” ติด SEO แทน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อเว็บไซต์นั่นเอง
เมื่อรู้แล้วว่าหน้าที่หลักๆของ On Page SEO คืออะไรเรามาดูหน้าที่ของ Off Page SEO กัน โดยมีดังต่อไปนี้:1. Backlink หรือ ลิงค์ย้อนกลับ
Backlink (ไม่ใช่ Blackpink) เป็นลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์หนึ่งไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ โดยการสร้าง backlink เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการทำ SEO เพราะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์คุณปรากฏในผลการค้นหาเป็นอันดับต้นๆ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และช่วยเพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์
2. การเขียนบล็อกแขกรับเชิญ (Guest Blogging)
คือการเขียนและเผยแพร่เนื้อหาบนเว็บไซต์อื่นในแวดวงเดียวกันหรือในกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน เช่น การที่เขียนเรื่อง "On Page SEO กับ Off Page SEO ต่างกันอย่างไร??" ในเว็บนี้นี่เอง
3. บทวิจารณ์และรีวิว (Reviews and Citations)
รีวิวและอ้างอิงเว็บไซต์ของคุณบนเว็บไซต์รีวิว หรือ แหล่งข้อมูลสถิติช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ
4. การเขียนคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ (Quality content)
คอนเทนต์เป็นเครื่องมือบอกเล่าเรื่องราวของบริษัท สินค้า บริการ ดังนั้น คุณภาพของคอนเทนต์ จึงมีความสำคัญทั้งต่อผู้อ่านเอง เสิร์ชเอนจิ้น และการทำ SEO โดยคอนเทนต์คุณภาพ มีลักษณะดังต่อไปนี้:
- นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว
- เป็น Original คอนเทนต์ไม่ได้ลอกเลียนมาจากที่ใด
- สั้น-กระชับโดยที่ข้อมูลถูกต้องครบครัน หรือถ้ายาวก็ยาวในระดับที่ให้ข้อมูลสำคัญได้เพียงพอ
- อ่านรู้เรื่อง ไม่ใช้ศัพท์เฉพาะ (Technical terms)จนผู้อ่านไม่เข้าใจ
- มีโครงสร้างชัดเจน อ่านง่าย สบายตา สบายยาย
5. การสร้างลิงก์ (Link Building)
การสร้างลิงก์จากเว็บไซต์อื่น ๆ ไปยังเว็บไซต์ของคุณเป็นส่วนสำคัญของ Off-page SEO โดยมีส่วนช่วยสำคัญในการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสำคัญของเว็บไซต์ โดยจะเห็นได้ว่า Link Building และ Backlink นั้นมีความคล้ายคลึงกัน นั่นก็เพราะ Link Building เป็นการทำ Backlink ประเภทหนึ่งนั่นเอง แต่ Link Building จะมีความหมายและรวมถึงประเภทที่กว้างกว่า เช่น Internal Link, Outbound Link, และแม้แต่ Backlink ก็คือ Link Building นั่นเอง
โดยสรุปคือ On-page SEO จะเน้นการปรับแต่งเนื้อหาและส่วนภายในของเว็บไซต์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการค้นหา ในขณะที่ Off-page SEO จะเน้นไปที่การสร้างความน่าเชื่อถือและลิงก์ไปยังเว็บอื่น รวมไปถึงลิงค์จากเว็บอื่นให้กลับมายังเว็บของตัวเองนั่นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้นทางเรา The TEPCO เอเจนซี่ทางด้านการตลาดออนไลน์ที่มีประสบการณ์ทำงานมามากกว่า 10 ปีนั้น
รับทำ SEO ![](http://www.thaiseoboard.com/go/ex.png)
เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ
![wanwan011](http://www.thaiseoboard.com/Smileys/default/wanwan011.gif)