ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeการคำนวณการปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ เพื่อลดค่าไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การคำนวณการปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ เพื่อลดค่าไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม  (อ่าน 729 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sirawit.cotactic
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 0



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 24 มีนาคม 2023, 15:52:28 »

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภดล วิวัชรโกเศศ

การปรับปรุงค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าในระบบจำหน่ายแรงต่ำมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีปริมาณการใช้เครื่องจักรเป็นจำนวนมาก ในบทความนี้ KJL ขอนำเสนอตัวอย่างการคำนวณ การปรับปรุงค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า หรือ ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ สำหรับการใช้งานจริงในโรงงานอุตสาหกรรม

ทำไมโรงงานควรปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์
โหลดประเภทเครื่องจักรหรือมอเตอร์ที่ถูกติดตั้งและใช้งานอยู่เป็นจำนวนมากในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น จะทำให้ค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า (Power Factor) ของระบบไฟฟ้ามีค่าต่ำลง ทำให้คุณภาพกำลังไฟฟ้า (Power Quality) ของระบบไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่แย่ลงอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ โรงงานอุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องปรับปรุงค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าให้สูงขึ้น
ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์กับการชำระค่าไฟฟ้า
ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าของระบบต่ำกว่า 0.85 จะต้องเสียค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมในส่วนของค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าหรือเพาเวอร์แฟคเตอร์ ในอัตรา 56.07 บาทต่อกิโลวาร์ ดังนั้น โรงงานอุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องติดตั้งคาปาซิเตอร์ และ Power Factor Controller หรือ VAR Regulator ให้ทำงานร่วมกันในระบบไฟฟ้าภายในโรงงาน เพื่อควบคุมให้ค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าในระบบมีค่าสูงตลอดเวลา (ปกติจะตั้งค่าไว้ที่ 0.9 - 0.95) จึงจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าในส่วนนี้ลงได้

ตัวอย่างการคำนวณ การปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์
โรงงานอุตสาหกรรมมีการใช้ไฟฟ้าในรอบเดือนหนึ่ง สมมติว่ามีความต้องการกำลังไฟฟ้าเฉลี่ย (Average power, P) ใน 15 นาทีสูงสุดอยู่ที่ 1,000 kW และมีค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าในระบบอยู่ที่ 0.7 หมายความว่าโรงงานนี้จะมีความต้องการกำลังไฟฟ้าเสมือนหรือกำลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Reactive power, Q) อยู่ที่ 1,000 x tan (cos-1 0.7) = 1,020 kVAR
ทั้งนี้ การไฟฟ้าฯ จะยอมให้ทางผู้ใช้ไฟฟ้าใช้กำลังไฟฟ้าในเงื่อนไขที่มีค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าต่ำสุดที่ 0.85 นั่นคือผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถมีความต้องการกำลังไฟฟ้าเสมือนได้ไม่เกิน 1,000 x tan (cos-1 0.85) = 620 kVAR
นั่นหมายความว่าโรงงานนี้ต้องชำระค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนเพิ่มเติม เพื่อเป็นการชดเชยค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าหรือค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์เท่ากับ 56.07 x (1,020 – 620) = 22,428 บาท ดังนั้น หากโรงงานนี้ได้ติดตั้งอุปกรณ์ปรับปรุงค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าและควบคุมให้ค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้ามีค่าสูงกว่า 0.85 จะทำให้สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าในส่วนของค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ได้ถึง 269,136 บาทต่อปี

หากวิศวกรไฟฟ้า หรือช่างไฟท่านใดต้องการตู้ไฟ คุณภาพดี ตรงตามมาตรฐาน สามารถดูรายละเอียด หรือสอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่
KJL LINE Official Account: @KJL.connect
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์