โดยทั่วไปแล้วการตรวจ HIV นั้นมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารน้ำลายในช่องปาก หรือการใช้เลือด หากเราเคยไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือคลินิกตรวจก็จะใช้หยดเลือดเพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด ซึ่งเราเป็นคนที่ตรวจเลือดอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว และทันทีที่เห็นข่าวประกาศจากกรมควบคุมโรคและสาธารณะสุขว่าประเทศไทยมีชุดตรวจเอชไอวีได้ด้วยตัวเองที่บ้าน วางจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปและแพลตฟอร์มขายออนไลน์ ก็ได้ลองเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า มียี่ห้อ Insti อ่านภาษาไทยว่า อินสติ ซึ่งเป็นชุดทดสอบที่นำเข้าจากประเทศแคนนาดา ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและได้รับการอนุญาตจาก Health Canada และได้เพิ่งได้รับการรับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย(อย.) อีกต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นเขาเคลมว่ารู้ผลเร็วที่สุดในโลก ภายใน 1 นาทีเท่านั้น!! (เท่าที่ศึกษาบางยี่ห้อส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที) จึงทำให้ยิ่งอยากรู้ อยากลองทดสอบเข้าไปอีก แล้ววันนี้จะมารีวิวให้ทุกคนว่าใช้งานยังไงบ้าง
เราได้ลองสั่งผ่านเว็บของเขาโดยตรง เว็บนี้
https://thailandhivtest.com/ หรือผ่านเพจ Facebook
https://www.facebook.com/instithailand ก็ได้เช่นกัน ในราคา 500 บาท ซึ่งจริงๆแล้วได้เคยลองหาในเว็บแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Lazada / Shopee ก็มีตัวแทนจำหน่ายอยู่หลายร้านเลย เห็นมีโปรโมชั่นอยู่เรื่อย ๆ ลองค้นหาดูก็ได้ (อาจเจอยี่ห้ออื่นแต่ไม่ผ่านอย.แน่นอน เพราะ อย.ไทย ประกาศว่ามียี่ห้ออินสติเพียงเจ้าเดียวที่ได้รับอนุมัติ)
หลักงจากกดสั่งไปคือทางร้านตอบกลับเร็วมาก ทันที่ที่กดสั่งซื้อเพียงไม่นาน เขาก็แจ้งกว่ากำลังจัดส่งแล้ว และวันรุ่งขึ้นก็ได้รับของเลย รวดเร็วมาก และทางร้านก็ยังใส่ใจในรายละเอียดของผู้รับ โดยไม่ระบุตัวสินค้าว่าเป็นอะไรบนกล่องทำให้เราอุ่นใจและมีความเป็นส่วนตัว ประทับใจมากเลย
แกะพัสดุออกมาจะพบเป็นซองแพ็คเกจของสินค้าอย่างดี ดูดีมีมาตรฐาน มีรายละเอียดของครั้งที่ผลิตและวันหมดอายุโดยประมาน 1 ปีเลย รายละเอียดเป็นภาษาไทย
ภายในแพ็คชุดตรวจจะพบกับอุปกรณ์ชุดตรวจหลายชิ้นเลย มีแบบประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตัวเองด้วย ช่วยเราได้กรองประเมินความเสี่ยงอธิบายถึงความเสี่ยงของเราถึงขั้นไหนและควรปฏิบัติตัวอย่างไรต่อไป
ส่วนคู่มือนั้นมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษละเอียดมาก ส่วนประกอบของอุปกรณ์และน้ำยาแต่ละชนิดพร้อมกับรายละเอียด หลักการทำงานของชุดตรวจ การเตรียมตัวและอุปกรณ์ ขั้นตอนการเจาะเลือด ผสมเลือดกับชุดน้ำยา แค่เทน้ำยาลงทีละขวดง่ายมากจริง และที่สำคัญการแปลผลการตรวจ อีกทั้งยังมีช่องการการติดต่อเพื่อขอคำแนะนำให้คำปรึกษาได้อีกด้วย
ตื่นเต้นแล้ว เริ่มทำการตรวจกันเลยดีกว่า
1) ก่อนอื่นแกะซองสีขาว วางทุกอย่าง เรียงตามตัวเลข ล้างมือให้สะอาด บีบนวดนิ้วมือที่จะเจาะเลือดให้เลือดไหลเวียน
2) บิดที่จุกอุปกรณ์เจาะเลือด (วงสีแดง) ไม่ต้องตกใจว่าเข็มอยู่ไหน ตัวเข็มเจาะจะซ่อนอยู่ข้างในสปริง สามารถกดจิ้มไปที่นิ้วได้เลย 1 ครั้ง เสียงจะดังแต๊บ! จะรู้สึกสะดุ้งเฉยๆ
3) แล้วเราก็บีบนิ้วให้เลือดออกมาให้ได้ 1 หยดใหญ่ๆ หยดลงไปในน้ำยาขวดหมายเลขที่ 1 (ถ้าเลือดน้อยออกมาน้อยให้รูดตั้งแต่โคนนิ้วออกมา) **เน้นว่าต้องเป็น 1 หยดใหญ่ๆ เพราะหากเลือดน้อยเกินไปผลลัพธ์จะไม่แสดงผล** และเห็นข้อห้ามคือ “ห้ามนำนิ้วปาดที่ปากขวดน้ำยา”
4) จากนั้นเขย่าขวดหมายเลขที่ 1 จำนวน 4 ครั้งแล้วเทลงไปในแผ่นทดสอบจนหมดขวด
5) จากนั้นเขย่าขวดหมายเลขที่ 2 จำนวน 4 ครั้งแล้วเทลงไปในแผ่นทดสอบจนหมดขวดตามไปติดๆ
6) สุดท้ายเขย่าขวดหมายเลขที่ 3 จำนวน 4 ครั้งแล้วเทลงไปในแผ่นทดสอบจนหมดขวด
7) เพียงแค่นับ 1 – 10 ก็จะเห็นจุดบริเวณใกล้ ๆ ตัว c ลาง ๆ แล้ว คือเร็วมากเพราะของยี่ห้อนี้เขาการันตีว่ารู้ผลภายใน 1 นาทีจริงด้วย และมีความแม่นยำถึง 99% กลับมาดูที่คู่มืออ่านผลทดสอบ สรุปสั้นๆ
- ถ้าผลขึ้น 1 จุด ตรงใกล้ ๆ ตัว c หมายถึง ไม่พบการติดเชื้อเอชไอวี
- ถ้าผลขึ้น 2 จุด (ตามรูปในคู่มือ) หมายถึง อาจติดเชื้อเอชไอวี ให้ไปตรวจยืนยันเอชไอวีจากสถานพยาบาลอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
- หากผลเป็นบวก เราจะได้รีบเข้าการรักษาด้วยกินยาต้านไวรัส หรือขอคำปรึกษาจากแพทย์ได้เลย
แต่อย่างไรก็ตามส่วนตัวแนะนำว่าให้ตรวจซ้ำ 2 ครั้ง เพื่อความมั่นใจ และที่สำคัญ การตรวจหาเชื้อเอชไอวีนั้นมีวินโดว์พีเรียด Window Period หรือเรียกว่าระยะหลบ อยู่ที่ 21-22 วัน ถึง 3 เดือน หลังจากได้รับเชื้อ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนกันเลย ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งอย่างน้อย 3เดือน
ผมดูมากจากคลิปนี้เลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=gdxNTqUCDHY เลยตัดสินใจสั่งซื้อมาลองใช้ สรุปคือ ประทับใจมาก
ใครที่มีความเสี่ยงบ่อยๆ ขอแนะนำให้ลองตรวจดูนะครับ