"เจอร์รี่ หยาง" ลาตำแหน่งซีอีโอยาฮู

อนิจจัง ไปซะละเจอร์รี่หยาง :-\

ยาฮูประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าผู้ร่วมก่อตั้งยาฮูอย่างเจอร์รี่ หยาง (Jerry Yang) ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการต่อสู้ไม่ให้ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เทกโอเวอร์บริษัทเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของยาฮูแล้ว บอร์ดระบุว่าได้ประชุมและเห็นพ้องต้องกันว่าเวลานี้คือเวลาที่เหมาะสมสำหรับ การคัดสรรผู้นำยาฮูคนใหม่

รอย บอสต็อก (Roy Bostock) ประธานยาฮูแถลงว่า หยางและกรรมการบริหารยาฮูนั้นประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการเปลี่ยนตัวประธานกรรมการบริหารบริษัทมาระยะหนึ่งแล้ว กระทั่งสามารถตกลงกันว่าควรจะแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่เพื่อนำพายาฮูให้เติบโต ต่อไปในเวลานี้ ยืนยันว่าตลอดเวลา 18 เดือนที่หยางดำรงตำแหน่งซีอีโอเป็นช่วงเวลาที่ดีของยาฮู โดยหยางจะยังคงเป็นสมาชิกกรรมการบริหารยาฮูและเป็นผู้บริหารที่มีบทบาทสำคัญ ของยาฮูต่อไป

ยา ฮูบอกว่า หยางจะลงจากตำแหน่งทันทีที่กรรมการบริหารสามารถคัดสรรผู้มาดำรงตำแหน่งทาง หยางได้ ขณะที่หยางแถลงเห็นด้วยว่านี่ถึงเวลาแล้วที่ยาฮูจะถูกส่งต่อไปยังผู้นำคน ใหม่ ท่ามกลางภาวะมูลค่าหุ้นยาฮูดำดิ่งลงตลอดช่วงปีที่ผ่านมา

"นับจากก่อตั้งบริษัทและนำทางให้ยาฮูเติบโตเป็นแบรนด์ที่ได้รับความ เชื่อถือจากผู้ใช้นับล้านคน ผมพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับยาฮูมาตลอด เมื่อบอร์ดขอให้ผมมารับตำแหน่งซีอีโอและเป็นผู้นำทีมในการปรับโครงสร้าง บริษัท ผมก็พยายามทำอย่างดีที่สุดเพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากในการเปลี่ยน วิสัยทัศน์ธุรกิจตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ยาฮูเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ" หยางแถลง "และเพื่อให้ยาฮูได้เข้าสู่ยุคใหม่ ที่มีการเปิดเสรีมากขึ้น นี่คือเวลาที่เหมาะสมแล้วสำหรับผมที่ตำแหน่งซีอีโอและพนักงานยาฮูที่มีความ สามารถทั่วโลกจะถูกส่งต่อไปยังผู้นำคนใหม่"

หยางบอกว่าจะยังคงให้ความสนใจกับการดำเนินกลยุทธ์ระดับโลกของยาฮูต่อ ไป และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ยาฮูเติบโตทั้งในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และโอกาสทางธุรกิจอย่างเต็มที่ โดยยาฮูให้ข้อมูลว่าการสรรหาซีอีโอคนใหม่จะพิจารณาทั้งคนในและนอกองค์กร

เจอร์รี่ หยางในวัย 40 ปี ดำรงตำแหน่งซีอีโอยาฮูตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2007 ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือการปฏิเสธข้อเสนอซื้อหุ้นของไมโครซอฟท์ในราคา 33 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าการตัดสินใจครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ถือหุ้นของยาฮู เพราะยาฮูต้องชวดเงินจำนวนถึง 4.7 หมื่นล้านเหรียญ และหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว มูลค่าหุ้นของยาฮูดำดิ่งลงเหลือเพียง 10-12 เหรียญเท่านั้น

ขณะ เดียวกัน การแถลงลาตำแหน่งซีอีโอของหยางก็เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากข้อตกลง ด้านโฆษณาออนไลน์ระหว่างกูเกิลและยาฮูต้องล้มเลิกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด คดีความผูกขาดตลาดในอนาคต ข้อตกลงที่เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับยาฮูในสัดส่วนที่นักลงทุนพอใจ จึงหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย

เด็กชายหยางนั้นเกิดที่ไต้หวันในวันที่ 6 พฤศจิกายน 1968 จากนั้นจึงย้ายมาอยู่ในสหรัฐฯพร้อมครอบครัวเมื่อมีอายุได้ 10 ปีและเติบโตที่ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย ระหว่างที่หยางศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หยางและเพื่อนร่วมชั้นนามเดวิด ฟิโล (David Filo) ได้ใช้เวลาว่างร่วมกันสร้างดัชนีเว็บไซต์ที่มีอยู่ทั่วโลกในขณะนั้นโดยให้ ชื่อเรียกว่า "Jerry's Guide to the World Wide Web" เพื่อเป็นเครื่องมือนำทางในการใช้งานอินเทอร์เน็ต

บริษัทยาฮูเกิดขึ้นในปี 1995 และหยางก็กลายเป็นเศรษฐีในปีถัดไปเพราะปีดังกล่าวเป็นปีที่ยาฮูเข้าตลาดหลัก ทรัพย์ 5 ปีถัดมายาฮูสามารถผ่านพ้นช่วงฟองสบู่ดอทคอมแตกได้โดยครองความนิยมเป็น เว็บไซต์อันดับหนึ่ง มีผู้ใช้งานหลายล้านคนต่อวัน กระทั่งยักษ์ใหญ่ที่ชื่อกูเกิลเกิดขึ้น ความนิยมของยาฮูก็เริ่มสั่นคลอน และกลายเป็นเว็บไซต์สืบค้นข้อมูลที่มีการใช้งานมากเป็นอันดับสองของโลก

นิตยสาร Forbes เคยจัดอันดับว่าหยางเป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 524 ของโลกด้วย ระบุว่าหยางครอบครองทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.23 พันล้านเหรียญสหรัฐ

http://manager.co.th/CyberBiz/...News.aspx?NewsID=9510000136595