ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeทำตาสองชั้น ข้อมูลเชิงลึก ก่อนตัดสินใจ
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำตาสองชั้น ข้อมูลเชิงลึก ก่อนตัดสินใจ  (อ่าน 284 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
lovelyeye
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 0



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 มกราคม 2021, 10:22:30 »

    การทำตาสองชั้น มีหลากหลายเทคนิคที่ช่วยแก้ปัญหาตาที่แตกต่างกัน บวกกับพื้นฐานดวงตาแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ปัจจุบันมีเทคนิคการแก้ปัญหาตาเกิดขึ้นมากมายทีี่ตอบโจทย์ปัญหาตาได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละเทคนิคมีีข้อดีและข้อเสีย รวมถึงเหมาะกับปัญหาตาที่แตกต่างกันออกไป ใครมีแพลนจะทำตาสองชั้น ลองมาทำความรู้จักกับเทคนิคการศัลยกรรมตาให้ลึกซึ้งมากขึ้นกันดีกว่า จะได้รู้ว่าเทคนิคการทำตาสองชั้นแบบไหนที่เหมาะกับเรา

เทคนิคการทำตาสองชั้นยอดฮิตในปัจจุบัน

1. การทำตาสองชั้นแบบไร้รอยเย็บ


เป็นเทคนิคการทำตาสองชั้นด้วยการสร้างชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยการผ่าตัดเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 2 มิลลิเมตร ซึ่งจะมีการออกแบบชั้นตา วิเคราะห์ปัญหาแบบเคสบายเคส ทำให้ได้ตาสองชั้นที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
ข้อดี :
1. ดวงตาดูเปิดขึ้น ดูสดใสขึ้น
2. ไม่มีอาการบวมช้ำ แผลผ่าตัดหายเร็ว
3. การเย็บชั้นตาในระดับความสูงและความลึกที่พอดี ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ
4. สามารถแก้ปัญหาขนตาทิ่มลง ช่วยให้ขนตาดูงอนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อเสีย :
1. หากเป็นคนที่มีไขมันเปลือกตาและหนังตาเกินมาก อาจไม่เหมาะกับการทำตาสองชั้นแบบไร้รอยเย็บ 
2. มีโอกาสต้องกลับมาแก้ตา เพราะไม่ได้ทำการตัดหนังตาส่วนเกินออก เมื่อทำไปนานๆ ชั้นตาอาจหลุด หรือตาไม่เท่ากันได้



เคสที่มีลักษณะตาชั้นเดียว ตาเล็ก หลังจากทำตาสองชั้นเทคนิคหมอรวงข้าว
ทำให้ตาโตขึ้น ชั้นตาคมชัด มีความเป็นธรรมชาติสูง

เหมาะกับใคร :
1. คนที่ต้องการชั้นตาสวยเป็นธรรมชาติ
2. คนที่มีลักษณะตาเล็ก ตาชั้นเดียว ชั้นตาหลบใน
3. คนที่ต้องการทำตาสองชั้น ที่ไม่มีหนังตาเกิน หนังตาตก หรือไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาเยอะ

2. การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว

กรณีคนไข้ที่มีหนังตาเกินและไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาเยอะ อาจเหมาะกับการทำตาสองชั้นแบบกรีด เพราะเป็นเทคนิคการทำตาสองชั้นพร้อมตกแต่งหนังตาส่วนเกิน โดยใช้เลเซอร์ขนาดเล็กพิเศษในการสร้างชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด สามารถลดการเสียเลือดระหว่างผ่าตัด ทำให้ไม่เกิดอาการบวมช้ำหลังผ่าตัด
ข้อดี :
1. การตกแต่งหนังตาเกิน ลดความเสี่ยงชั้นตาหลุด ที่ทำให้ต้องแก้ตาสองชั้น
2. ชั้นตาชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติ
3. ไม่มีปมไหมฝังไว้ใต้ผิวตา คลำไม่สะดุดปมไหม
4. หลับตาแล้วไม่เห็นรอยพับชั้นตา
5. ไม่ระคายเคือง ไม่มีไหมโผล่

ข้อเสีย :
รอยแผลผ่าตัดอาจชัดกว่าการทำตาสองชั้นแบบไร้รอยเย็บ ควรเลือกแพทย์และคลินิกที่มีความชำนาญด้านการทำตาสองชั้นโดยตรง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของแผลผ่าตัดที่เนียน ดูสวยงามมากที่สุด


เคสที่มีลักษณะชั้นตาหลบใน หลังจากทำตาสองชั้นเทคนิคหมอรวงข้าว
ทำให้ตาโตขึ้น ชั้นตาโค้งสวยตามแนวรูปตา ดวงตาสดใสขึ้น

 

เหมาะกับใคร :
1. คนที่มีหนังตาตกปิดทับดวงตา หรือมีไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาเยอะ
2. คนที่มีลักษณะตาชั้นเดียว ชั้นตาหลบใน
3. คนที่ทำตาสองชั้นที่อื่นมาแล้วต้องการแก้ตาสองชั้น

3. การทำตาสองชั้นร่วมกับการเปิดหัวตา

การเปิดหัวตา เป็นเทคนิคการตกแต่งเนื้อที่โค้งปิดด้านหัวตาให้ตาสองชั้นขยายมาถึงด้านหัวตา ช่วยให้ดวงตาดูหวานและโตขึ้น มักทำร่วมกับการทำตาสองชั้น ในกรณีที่คนไข้มีลักษณะหัวตาปิด จะช่วยให้ดวงตาเรียวยาวและได้สัดส่วนมากขึ้น
ข้อดี :
1. ช่วยปรับรูปทรงของดวงตาที่ดูสั้น ให้ดวงตาเรียวยาว ตาหวานขึ้น
2. แก้ปัญหาดวงตาดูเขเข้า ให้ตาดำอยู่ตรงกลางมากขึ้น
3. ในกรณีคนไข้มีลักษณะหัวตาปิดมาก การเปิดหัวตา จะช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้น
4. ช่วยกำจัดหนังตาส่วนเกินที่เหี่ยวย่นบริเวณข้างจมูกออกได้ ในกรณีคนไข้สูงวัย

ข้อเสีย :
บางที่แจ้งว่าเปิดหัวตา แต่กลับไม่ได้ใช้เทคนิคการเปิดหัวตาโดยตรง แค่ทำให้เกิดรอยแผลมาถึงหัวตาเท่านั้น ซึ่งมักจะทำให้เกิดปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยการผ่าตัดซ้ำ และแก้ไขตาสองชั้นมักทำได้ยากกว่าการทำตาในรอบแรก คนไข้ที่ต้องการเปิดหัวตา จึงควรทำกับแพทย์ผู้ชำนาญด้านการทำตาสองชั้นโดยตรง และควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจทำ


เคสที่มีลักษณะตาชั้นเดียว ตาหลบใน หัวตาปิด หลังจากทำตาสองชั้น พร้อมเปิดหัวตาเทคนิคหมอรวงข้าว
ทำให้ตากลมโตและเรียวยาวขึ้น ชั้นตาคมชัดและเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตา

เหมาะกับใคร :
1. คนที่มีทรงดวงตาด้านหัวตาดูงุ้มลง
2. คนที่มีเนื้อคลุมด้านหัวตามาก
3. คนที่มีดวงตาดูไม่หวาน ดวงตาดูดุ
4. คนที่มีดวงตาดูห่าง
5. คนที่มีปัญหาตาดูเขเข้า

4. การทำตาสองชั้นร่วมกับการดึงกล้ามเนื้อตาลีเวเตอร์


คนที่ต้องการทำตาสองชั้นบางราย อาจมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่ทำให้ลืมตาได้ไม่เต็มที่ และมีลักษณะเบ้าตาลึกกว่าปกติ ทำให้ดูง่วงนอนตลอดเวลา และอาจทำให้ตาไม่เท่ากัน หากทำตาสองชั้นโดยไม่มีการแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ร่วมด้วย มักเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง เช่น หนังตาตก ตาไม่เท่ากัน ชั้นตาซ้อนกันเป็นตาสามชั้น เป็นต้น ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำตาสองชั้นร่วมกับการดึงกล้ามเนื้อตาลีเวเตอร์ ที่เป็นการผ่าตัดลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยกเปลือกตา แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ร่วมกับการทำตาสองชั้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดี :
1. หลังทำจะช่วยให้ดวงตาเปิดได้ดีขึ้น ตาดูสดใสขึ้น
2. ช่วยปรับระดับการเปิดตาให้พอดี และเท่ากันทั้งสองข้าง ทำให้ดวงตาเท่ากัน
3. ชั้นตาโค้งสวยตามแนวขอบตา ชั้นตาคมชัด ไม่มีหนังตาเกิน ตาไม่ปรือ ตาไม่ตกซ้ำ
4. ไม่มีปัญหาชั้นตาซ้อนกันเป็นตาสามชั้น
5. แผลผ่าตัดดึงกล้ามเนื้อตาลีเวเตอร์ที่เกิดขึ้นเป็นแผลเดียวกับการทำตาสองชั้น

ข้อเสีย :
หากดึงกล้ามเนื้อตาด้วยเทคนิคที่ไม่ดีพอหรือไม่มีความชำนาญ อาจส่งผลเสียตามมามากมาย
1. กล้ามเนื้อตาเปิดไม่เท่ากัน
2. ตาเบิ่งมากเกินไป อาจจะต้องมีการผ่าตัดซ้ำหลายครั้ง
3. ขอบตาดูไม่เรียบไม่โค้งสวยงาม ชั้นตาไม่เป็นชั้นที่โค้งสวยตามรูปตา
4. เหลือหนังตาส่วนเกิน

เคสที่ตาไม่เท่ากัน จากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาดูอิดโรย
หลังจากทำตาสองชั้น พร้อมดึงกล้ามเนื้อตาลีเวเตอร์เทคนิคหมอรวงข้าว
ทำให้ตาเท่ากัน ชั้นตาชัดเจน รักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอย่างตรงจุด

เหมาะกับใคร :
1. คนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาปรือ หนังตาตก
2. คนที่ตาไม่เท่ากันจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
3. คนที่เบ้าตาลึกจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
4. คนที่ทำตามาแล้ว มีปัญหาตาสามชั้น ชั้นตาหนาหรือใหญ่เกินไป ตาตก ตาปรือ สามารถแก้ตา ร่วมกับการดึงกล้ามเนื้อตาลีีเวเตอร์ เพื่อให้ได้ชั้นตาที่สวยงามขึ้นได้

5. การทำตาสองชั้นร่วมกับการเติมไขมัน

การทำตาสองชั้นร่วมกับการเติมไขมัน แก้ปัญหาเบ้าตาลึก หรือชั้นตาสูง เป็นการนำไขมันจากบริเวณหน้าท้อง โดยเปิดแผลประมาณ 2 เซนติเมตร นำมาจัดเรียงในบริเวณเบ้าตาที่ลึกและเย็บชั้นตาให้เป็นตาสองชั้นที่สวยงาม

ข้อดี :
1. แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ชั้นตาสูงอย่างได้ผล
2. ไขมันคงรูป อยู่ได้ถาวร ไม่ต้องกลับมาเติมซ้ำ
3. ผิวเปลือกตาบริเวณที่เติมไขมันจะเนียนเรียบ
4. ไขมันไม่ไหล ไม่จับตัวเป็นก้อนแข็ง ดูเป็นธรรมชาติ
5. ทำร่วมกับการผ่าตัดแก้ไขปัญหาตาอื่น เช่น ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ได้ดี

ข้อเสีย :
ต้องผ่าตัด 2 ตำแหน่งของร่างกาย คือเปลือกตาและบริเวณหน้าท้อง ทำให้ต้องดูแลตัวเองมากกว่าการทำตาสองชั้นตามปกติ


เคสเบ้าตาลึกและมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาปรือ ดูอิดโรย ไม่สดใส
หลังจากทำตาสองชั้นร่วมกับการเติมไขมัน พร้อมดึงกล้ามเนื้อตาลีเวเตอร์ และเปิดหัวตาเทคนิคหมอรวงข้าว
ช่วยแก้เบ้าตาลึกและรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอย่างตรงจุด
ทำให้ได้ตาสองชั้นชัดเจน ตาไม่ปรือ เบ้าตาไม่ลึก ตาดูกลมโตและเรียวยาว ดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เหมาะกับใคร :
1. คนที่มีลักษณะเบ้าตาลึก จนเห็นร่องลึกระหว่างเปลือกตากับคิ้ว ทำให้ดูอิดโรยและดูอายุ
2. ทำตาสองชั้นแล้ว ชั้นตาสูงและลึก จนดูไม่เป็นธรรมชาติ หลังทำจะช่วยลดขนาดชั้นตาให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้นได้

เคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

หากตัดสินใจทำตาสองชั้นแล้ว ควรเตรียมตัวก่อนผ่าตัดให้ดีีตามคำแนะนำของแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังผ่าตัดออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุด
1. งดสูบบุหรี่ล่วงหน้าก่อนผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์
2. ทำใจให้สบาย อาจออกกำลังกาย หรือหากิจกรรมทำ เพื่อลดความเครียด
3. นอนหลับให้เต็มที่
4. เลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมแซมผิว เช่น เนื้อปลา วิตามิน A วิตามิน C วิตามิน E และสังกะสี เป็นต้น และรับประทานผักผลไม้อย่างสม่ำเสมอ เพราะผักผลไม้มีส่วนช่วยลดอาการอักเสบหลังผ่าตัดได้

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

    ไม่ใช่แค่การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเท่านั้น แต่การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ก็มีผลต่อการเข้าที่่ของแผลผ่าตัด และความสวยงามของตาสองชั้นเช่นกัน ซึ่งคนไข้สามารถดูแลตัวเองได้ตามคำแนะนำดังนี้
1. ประคบเย็นให้บ่อยที่สุด ในช่วง 3 วันหลังผ่าตัด
2. นอนหนุนหมอนสูงใน 2 วันหลังผ่าตัด
3. หลีกเลี่ยงการก้มต่ำ เบ่งหรือจาอย่างรุนแรง
4. ทาขี้ผึ้งบริเวณแผลผ่าตัด
5. รับประทานยาที่แพทย์จัดให้ครบ
6. ก่อนตัดไหม ระวังแผลโดนน้ำ หรือโดนความมัน
7. หลีกเลี่ยงรับประทานของหมักดอง อาหารทะเล ไก่ ไข่ กะปิ ปลาร้า ในช่วง 3สัปดาห์หลังผ่าตัด
8. เริ่มประคบอุ่นในวันที่ 6 หลังผ่าตัด
อย่างไรก็ดี คนที่สนใจทำตาสองชั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการทำตา เพื่อที่จะได้ทราบปัญหาตาของตนเองและรับฟังคำแนะนำในการแก้ปัญหาตาอย่างตรงจุดจากแพทย์ผู้ทำตาสองชั้นโดยตรง เพื่อผลลัพธ์ของการทำตาสองชั้นที่ดีและตรงใจมากที่สุด

ดูรูปเพิ่มเติมและอ่านบทความจัดเต็มได้ที่
https://www.lovelyeyeclinic.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 มกราคม 2021, 10:30:12 โดย lovelyeye » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์