ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeโดนฟ้องศาล เรื่องรถยนต์
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: โดนฟ้องศาล เรื่องรถยนต์  (อ่าน 338 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
icolawfrim
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 สิงหาคม 2020, 11:58:03 »

 โดนฟ้องศาล เรื่องรถยนต์หรือขึ้นศาลเรื่องรถ ไม่มีรถคืน สำหรับรถยนต์นี้ไม่ใช่หนึ่งในปัจจัย 4  แต่เป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่มีความสำคัญที่ขาดไม่ได้ หากท่าน โดนฟ้องเรื่องรถยนต์ หรืแขึ้นศาลเรื่องรถยนต์ อาจจะผ่อนเช่าซื้อจ่ายเงินค่างวดไม่ตรงเวลา หรือมีปัญหาใดเกิดขึ้น โทรมาสอบถามกับสำนักงานเบื้องต้น เพื่อหาทางแก้ไข ท่านจะได้คลี่คลายปัญหาลงไปบ้าง จะได้มีเวลาทำมาหากิน

คำแนะนำเบื้องต้นก่อนที่จะ ถูกฟ้องศาล เรื่องรถยนต์

หากไม่อยากเป็นคดีความในเรื่องการโดนฟ้อง อันดับแรกคือการต้องประเมินความสามารถในการผ่อนของตัวเองและเผื่อเอาไว้เยอะๆเช่นมีรายได้ 40,000 บาทต่อเดือน ผ่อนรถเขาสมมติให้ 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ก็เท่ากับ 16,000 บาทต่อเดือน แต่ในความเป็นจริงเราควรเผื่อไว้มากกว่านั้น สมมุติสัก 20% หรือ 25% ของรายได้ 40,000 บาท ก็คือผ่อนรถเดือนละไม่เกิน 8,000 หรือ 10,000 บาท คือผ่อนให้น้อยที่สุด อย่าแบกภาระเยอะ รถรุ่นไหนที่ Option มันสูงราคาแพงไม่จำเป็นก็ลดสเปคลงไปบ้าง เมื่อคุณเองมีภาระน้อย ชีวิตคุณก็จะเบาตัวขึ้น และโอกาสในการผ่อนชำระไม่ตรงตามงวดก็จะเป็นไปได้ยากขึ้น คุณก็จะไม่ โดนฟ้องในคดีเกี่ยวกับรถยนต์ อันนี้คือทางที่ 1

หากผ่อนรถยนต์ไม่ไหวทำยังไง
แต่สำหรับในบางกรณีที่ผ่อนไปแล้วและไม่ไหวจริงๆ อย่ารอให้ไฟแนนซ์มายึดหรือฟ้อง ให้รีบขายรถโดยการลงประกาศขายในตลาดอินเตอร์เน็ต มันจะเร็วตั้งราคาอย่าแพงเกินไป เผื่อเวลาไว้สักหน่อยในการขาย เพราะการขายรถยนต์มันต้องใช้เวลา ถ้าอยากเร็วก็ต้องไปขายให้เต็นท์รถแต่ว่าราคาจะไม่ดีเท่ากับเราขายเอง ถ้าไม่ไหวอย่ายื้อ โดนฟ้องมาตัวท่านเองจะเสียหายเยอะ

หรือทำการหาผู้เช่าซื้อคนใหม่มาเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อเดิมของเรา หน้าที่ผ่อนชำระก็จะตกแก่ผู้เช่าซื้อคนใหม่

เมื่อไฟแนนซ์ซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องรถยนต์
สามารถเรียกได้ดังนี้คือ เรียกให้คืนรถยนต์ เรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ เรียกให้เราชำระค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ รวมถึงดอกเบี้ยต่างๆ ท่านจะเห็นว่ามันเป็นเงินที่เยอะอยู่ และในฐานะลูกหนี้ค่อนข้างที่จะเสียเปรียบ

ดังนั้นอย่าให้ไฟแนนซ์หรือโจทก์มายึดรถยนต์เรา ผ่อนไม่ไหวก็ขาย ไปหาซื้อคันที่มันเล็กกว่าหรือเป็นมือสอง เท่าที่กำลังเราผ่อนไว้อย่างน้อยก็ยังมีรถใช้

 

ขึ้นศาลเรื่องรถ ไม่มีรถคืน
ตามที่กล่าวเบื้องต้นตามปกติท้ายฟ้องโจทก์ ขอให้จำเลยคือรถยนต์คันดังกล่าว แต่หากจำเลยไม่สามารถคืนได้ก็ขอให้ใช้ราคาแทน โดยการคิดราคารถ ก็จะคิดราคาณวันฟ้องนั้นเองว่าเป็นราคากี่บาท นี่คือ สิ่งที่เราควรรู้ว่าถ้าเราไม่มีรถคืน ก็ต้องจ่ายเงินให้เขาไป

 

การที่เราไม่มีรถคืนให้กับบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งในขณะที่ทำสัญญาเช่าซื้อนั้นเราคู่สัญญายังผ่อนชำระไม่หมด กรรมสิทธิ์รถยนต์โดยปกติจะเป็นของบริษัทไฟแนนซ์ เราซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถ ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาในข้อหายักยอกทรัพย์ได้ ดังนั้นการขึ้นศาลเรื่องรถโดยไม่มีรถคืน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

 

สำหรับค่างวดรถยนต์ซึ่งจ่ายให้ไฟแนนซ์ไปแล้วกี่บาทก็ต้องนำมาคำนวณรวมด้วย ว่ายอดหนี้คงเหลือจริงๆกี่บาท ซึ่งจุดนี้ต้องไปดูในแต่ละรายละเอียดของรูปคดี

http://www.xn--72cf2bi6bdb7ewc6a5isb5d.com/

http://xn--b3ca1bicj2cj1jqaf.c...bd-1563-45cd-9df8-154a05470a11

http://xn--12cce9ebk7db0a1kd8e...a6-bfe1-498e-b155-ab20d1f0aff7

https://www.facebook.com/lampang11

https://www.facebook.com/lumpoon11
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์