นับว่าเป็นข่าวร้ายอีกครั้งสำหรับ Firefox ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพราะว่าได้สูญเสียตำแหน่งอันดับสองของเว็บเบราว์เซอร์ของโลกให้กับ Microsoft Edge ไปเป็นที่เรียบร้อย
ถือว่ามาแรงเลยจริงๆ สำหรับ Microsoft Edge เบราว์เซอร์ตัวใหม่ของ Microsoft ที่มันสามารถทำงานได้เหมือนกับ Google Chrome แทบทุกอย่าง ซึ่ง Microsoft Edge รุ่นใหม่นี้มีข้อได้เปรียบในด้านของแรมที่กินน้อยกว่า ทั้งการใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่า Chrome ส่งผลให้คนส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนใจหันไปซบอก Microsoft Edge มากขึ้นแทน Google Chrome
ซึ่งจากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์แอปพลิเคชั่น ได้บอกว่าตอนนี้ส่วนแบ่งของผู้ใช้ที่เคยใช้ Firefox ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้นลดลงเป็นอย่างมาก และที่สำคัญกว่านั้นถือว่าเป็นสถิติต่ำสุดของ Firefox นับตั้งแต่ที่เคยเอาชนะ IE ได้เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา แต่ในขณะที่ Edge ตัวใหม่ยัดไส้ Chromium นั้นมีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นและแซง Firefox ในที่สุด
การทำงานจากที่บ้าน (WFH) ส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งของเบราว์เซอร์?อันนี้ก็เป็นจุดนึงที่น่าสังเกตุ ในสถานการณ์ตอนนี้ที่ทำให้อัตราคนใช้ Firefox ตกต่ำลงเนื่องจากมันเป็นที่นิยมน้อยที่สุดในสามอันดับแรกของเบราว์เซอร์ที่เหล่า IT ชอบใช้ (Chrome, Edge และ Firefox) และบริษัทต่างๆทั้งหลายก็ให้พนักงานนั้นกลับไปทำงานที่บ้านเพราะเนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ซึ่งพวกเขาก็จะดาวน์โหลด Chrome หรือ Edge มาใช้ในเครื่อง โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Chrome และ Edge ก็ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง
การระบาดของ Covid-19 จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการพฤติกรรมการใช้งานเบราว์เซอร์เป็นแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา http://www.atimedesign.com/webdesign/top-web-browsers-2020/