หรือเราจะเข้าใจ dofollow กับ nofollow ผิดมาตลอด
พอดีวันนี้กะจะนั่งเขียนบทความแล้วมาสะดุดกับ plugin Yeost เกี่ยวกับเวลาที่เราทำลิ๊งออกให้เป็น dofollow ซึ่งตามความเข้าใจของเรา
“ทำลิ๊งออกทำไมต้องทำ dofollow ด้วยในเมื่อมันจะส่ง Link Juice จากเว็บเราไปให้คนอื่น”
ถ้างั้นทำไม Yeost แนะนำละ? ว่าแล้วก็สงสัยเลยหาคำตอบมันซะเลยคุ้ยไปคุ้ยมาไปเจอประโยคนึงว่า
“Our mission is SEO for Everyone. We strongly believe in equal chances for everyone on a connected web. By asking you to add that outbound link, we ask you to connect your website to the next website. And that website to the next website. By doing so, we create a web that expands and expands, from one related website to another”
แปลประมาณว่าภารกิจของเรา ทางเราเชื่อมั่นว่า หากทุกๆเว็บไซต์ทำลิ๊งถึงกันและกันแบบ dofollow แล้วมันจะเกิดสังคมในอุดมคติคือให้แล้วก็ให้ต่อๆกันไปแบบไม่สิ้นสุดเมื่อนั้นทุกเว็บก็จะดูดีในสายตากุเกิ้ลโดยที่เราไม่ต้องบากหน้าไปขอหรือซื้อแบ๊คลิ๊ง
พูดง่ายๆว่าให้เราทำตัวเป็นผู้ให้ก่อนแล้วเราจะได้ทีหลังเอง เอิ่มเดียวนะนี่ชั้นเขียนบทความเพื่อให้ไฟเขียวใน Yeost ติดเพื่อให้มุงได้เป็นพระเอกใช่ไหม? โดยที่มุงไม่สนใจเลยว่าเว็บใหม่ๆที่พึ่งทำกว่าจะได้มาแต่ละคะแนนมันยากขนาดไหนเพื่อให้มุงได้เป็นพระเอกแค่นั้น?
อ่านแล้วก็คิดว่า สังคมที่นู่นมันคงเป็นแบบนั้นมั้งถึงได้วิ่งเล่นบนทุ่งลาเวนเดอร์ซะขนาดนั้น อ่านแล้วอยากจับพวกนี้มาทำ SEO ในเมืองไทยแล้วจะรู้ว่า เมื่อเป็นผู้ให้แล้วต้องให้ไม่สิ้นสุด ถ้าวันใดหยุดให้แล้วนอกจากไม่สำนึกบุญคุณแล้วเผลอๆจะด่าลับหลัง ด้วยความที่เราแปลได้ความมาอย่างนี้ เราจึงไม่มั่นใจว่าเราแปลถูกหรือเปล่าจึงลองหาเช็คกับหเว็บ SEO ดังๆในหัวข้อเดียวกัน
ไปๆมาๆ มาสะดุดเข้ากับเว็บ backlinko อ่านแล้วน่าสนใจ ทำให้รู้สึกว่านี่เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับ nofollow กับ dofollow มาตลอดเลยนี่นา (กว่าจะเข้าเรื่องได้) มาคะจะเล่าให้ฟังว่าไปเจออะไรมา เริ่มแรกก็ไม่มีอะไรแค่อธิบายเกี่ยวกับ dofollow และ nofollow ความหมายของมัน ซึ่งโอเคเป็นอย่างที่เข้าใจและตรงกัน จนมาสะดุดประโยคนี้
“Adam White wanted to rank his blog for the keyword “backlink software”.
What did he do?
He bought a bunch of nofollowed links from a high-quality site in the SEO space.
And all of those links had “backlink software” as their anchor text.
So: what happened?
His ranking shot up from #19…to #1 in Google for his target keyword.”
แปลย่อๆว่า “ นาย อดัม ไวส์ เนี่ยสร้างบล๊อคมาเพจนึงและต้องการจะทำคีย์ “แบ๊คลิ๊ง ซอฟต์แวร์” จึงได้ลองใช้วิธีหาซื้อแบ๊คลิ๊งจากเว็บใหญ่ๆแบบ nofollow มาอย่างเยอะและทำลิ๊งกลับมาที่เว็บเค้าโดยใช้ Anchor ปรากฎว่า อาทิตย์ถัดมาติดคีย์เวริด แบ๊คลิ๊ง ซอฟต์แวร์ เด้งจากลำดับ 19 มาได้ที่ 1 ของกุเกิ้ล
หรือจะเอาตัวอย่างถัดไปก็คือ หัวหน้า seo ของบริษัท SurveyMonkey ต้องการหาคำตอบว่า “ตกลงแล้วกุเกิ้ลมันสนใจหรือไม่สนใจ nofollow ลิ๊งกันแน่?” เค้าจึงได้ทำการทดลอง เอาลิ๊งใส่ลงในหน้า 404 ซึ่งหน้าที่ลิ๊งชี้ไปนั้นเป็นหน้าใหม่ยังไม่ได้ทำ index เข้ากุเกิ้ล ซึ่งตามความเข้าใจของเรา คือกุเกิ้ลจะต้องไม่สนใจเพราะหน้านั้นยังไม่ถูก index แต่ปรากฏว่าวันถัดมาเค้าเข้าไปเช็คปรากฎว่ากุเกิ้ล index เรียบร้อยแล้วจ้า
ทาง backlinko บอกว่าจากการทดลองเค้าสรุปว่า ลิ๊งแบบ nofollow ไม่ใช่อย่างที่เราเข้าใจกันว่ากุเกิ้ลจะไม่ตาม กลับกันเลยด้วยซ้ำกุเกิ้ลตามและเอามาติดอันดับด้วยซ้ำ เค้าจึงสรุปว่า ลิ๊งแบบ dofollow มีค่าทำให้เว็บคะแนนดีขึ้นเรื่องความน่าเชื่อถือ แต่ลิ๊งแบบ nofollow นั้นกุเกิ้ลเอามาคิดคะแนนในการจัดอันดับด้วย ใครที่สายชอบหาลิ๊งเมื่ออ่านบทความนี้แล้วรู้นะว่าต้องทำไงต่อ ขอให้โชคดีอันดับขึ้นไวๆคะ
ที่มา:
https://backlinko.com/nofollow-link