การขึ้นเครื่องบินไม่มีอะไรน่ากลัว แต่รายละเอียดก่อนบินนั้นยิบย่อยมาก เช่น
จะไปด้วยสายการบินไหน? จะบินด้วยราคาเท่าไหร่? จะหอบสมบัติบ้าติดตัวไปได้มากแค่ไหน? จะติดต่อเอเจนซี่ยังไง? จะจองตั๋วเองยังไงให้ได้ราคาถูกที่สุด?
ซึ่งรายละเอียดพวกนี้เราจําเป็นต้องคํานวณให้ดีก่อนจะเลือกเดินทาง ยิ่งถ้าเดินทางเพื่อไปเที่ยวในราคาประหยัดด้วยแล้วแอบเชื่อว่าหลายๆคนคงจะเสิร์จหาข้อมูลแต่ละสายการบินอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์เผื่อลดต้นทุนการเดินทางแน่นอน ที่อยากจะแนะนําสําหรับการบินคือ
1. เช็คราคาให้แน่ใจ – ก่อนจองตั๋วเครื่องบิน เจียดเวลามาหาสายการบินราคาย่อมเยาว์ก่อนตัดสินใจไปด้วยเอเจนซี่ที่เราอาจต้องโดนโขกสับก่อนการเดินทาง ถ้ากลัวว่าตั๋วที่คุณจองจะไม่ถูกจริงให้มาเช็คที่เวบไซด์พวกนี้เพื่อย้ําความมั่นใจได้ แค่ใส่ชื่อสนามบินขาไปและกลับ ระบุวันที่ คุณก็จะสามารถหาสายการบินในราคาสบายกระเป๋าโดยไม่ต้องผ่านเอเจนซี่ได้แล้ว
2. สายการบิน – อันนี้แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน ถ้าชอบบินแบบสงบๆ หลับสบายตลอดทาง การบินไทยก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง สําหรับนักเรียนที่เริ่มออกเดินทางครั้งแรก การบินด้วยสายการบินของประเทศเราเองก็สร้างความอุ่นใจได้ไม่น้อยเหมือนกัน แต่สําหรับคนที่ชอบความท้าทายและไฮเทคโนโลยี สายการบินจากญี่ปุ่นหรือประเทศทางยุโรปและอเมริกาก็เป็นตัวเลือกที่น่าลิ้มลองไม่แพ้กัน คุณจะได้รับชมหนัง เล่นเกมส์ ดูข่าว ฟังเพลงอย่างมีความสุขไปตลอดการเดินทาง หรือถ้าอยากเสี่ยงด้วยสายการบินราคาประหยัดอันนี้ก็ต้องทำใจว่าที่นั่งมันจะแคบและเราอาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องด้วย
3. น้ำหนักกระเป๋า – คาดว่าหลายคนคงไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจําเป็น แต่เอาเข้าจริงๆ มันสําคัญมากที่ต้องรู้ก่อนยัดของลงประเป๋าว่าเราจะเอาไปได้เท่าไหร่
โดยปกติถ้าบินระยะยาวสายการบินต่างๆ จะให้น้ําหนักประมาณ 20-30 กิโลกรัม (ไม่นับที่แบกขึ้นเอง) แต่ถ้าเป็นนักเรียนกระเหรี่ยงที่เดินทางไปนอกชายแดนไทยครั้งแรกบางสายการบินจะอะลุ่มอะล่วยให้ได้ถึง 40 กิโลกรัม (แต่ต้องขอล่วงหน้า และแบ่งเป็น 2 กระเป๋า ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม)
ถ้ายังมีของเยอะและโหลดลงกระเป๋าใหญ่ไม่หมดเรายังสามารถแบกขึ้นเครื่องได้อีกประมาณสิบกิโลกรัม แต่สําหรับผู้ที่มีความสามารถพิเศษในการแบกหามโดยทําหน้านิ่งๆ จะสามารถขนเพิ่มได้ถึงยี่สิบกิโลกรัม แนะนําให้เลือกกระเป๋าเล็กๆ แล้วยัดของที่มีน้ําหนักพวกหนังสือลงไปจะช่วยลดภาระน้ําหนักในกระเป๋าใหญ่ได้มากทีเดียว
4. อาหารพิเศษ – สําหรับคนที่กินอาหารพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นมุสลิม มังสวิรัติ หรือบางคนที่แพ้อาหารบางประเภท อย่าลืมระบุลงไปตอนจองตั๋วว่าขออาหารพิเศษ (หรือบอกผ่านเอเจนซี่) ทางสายการบินจะได้เตรียมอาหารไว้ให้ ตอนเช็คอินที่สนามบินถ้าจะให้ชัวร์ควรจะตรวจสอบกับพนักงานก่อนขึ้นเครื่องทุกครั้ง
ข้อดีของการขออาหารพิเศษคือคุณจะได้รับอาหารก่อนเพื่อนร่วมทางในเครื่องบินเสมอ กินก่อน อิ่มก่อน เข้าห้องน้ําก่อน นอนก่อน นับว่าสะดวกมากทีเดียว
5. หลุมอากาศ – ถ้าไม่รู้เลยว่าถนนบนฟ้ามีหลุมต่างๆ เหมือนถนนบนดินเช่นกัน ก็ให้รับรู้ไว้จะได้ไม่แตกตื่นเวลาที่เครื่องบินดันไปสะดุดหลุมที่ว่านี่เข้าให้ เครื่องบินจะมีอาการกระตุกลงเล็กน้อยถึงปานกลางแล้วแต่ว่าไปหัวทิ่มใส่หลุมใหญ่และถี่แค่ไหน แต่มันจะทําให้เรารู้สึกวูบเหมือนถูกฉุดกระชากลงสู่พื้นโลกแบบไม่บอกไม่กล่าว
ทางที่ดีควรคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ตลอดเวลาแม้ว่าคุณกัปตันจะประกาศให้ปลดเข็มขัดแล้วก็ตาม ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าคุณกัปตันจะไม่ขับเครื่องไปชนหลุมอากาศแล้วสร้างความกระทบกระเทือนกับผู้โดยสาร โดยเฉพาะการบินกับเครื่องลําเล็กๆ ที่คุณจะสามารถรับรู้ได้ถึงการทํางานของเครื่องยนต์อย่างแนบชิด การคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลายังไงก็สร้างความอุ่นใจให้เรามากว่าไม่ว่าเครื่องจะบินเอียงขนาดไหนตัวเรา ก็ยังจะติดเก้าอี้ไปตลอดการเดินทาง
6. ตั๋วเครื่องบิน – อย่าลืมพิมพ์ตั๋วเครื่องบินไปสนามบินด้วย สําหรับบางคนที่ชอบยื่นแค่พาสพอร์ตโดยที่ไม่ได้พิมพ์ตั๋วไป ขอเตือนว่าบางสนามบินมีความงี่เง่าส่วนตัวอย่างที่เราไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากยอมรับอย่างงงๆ พร้อมกับต้องวิ่งหาร้านอินเตอร์เน็ตในสนามบินเพื่อพิมพ์ตั๋วออกมาทั้งๆที่มันไม่จําเป็น
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยให้พิมพ์ออกมาอย่างน้อย 1 ชุดติดตัวไปด้วย แล้วการยื่นตั๋วอิเลกทรอนิกส์สมัยนี้ก็ทําให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถเช็คอินให้เราเร็วขึ้นด้วย
นอกจากนี้บางสายการบินจะให้เราเช็คอินออนไลน์ถ้าลืมทําคุณก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มให้เค้าเช่นกัน ดังนั้นควรเช็คให้ละเอียดว่าสายการบินที่จะพาคุณไปเรื่องมากแค่ไหนและต้องทําอะไรก่อนบินรึเปล่า? ไม่อย่างนั้นได้จ่ายเงินค่าบริการเช็คอินให้สายการบินอีกรอบ
7. ของเหลว – ความจริงเราสามารถเอาของเหลวที่จําเป็นต้องใช้ขึ้นเครื่องได้โดยแต่ละชิ้นต้องไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (แต่ปริมาตรรวมของทุกขวดต้องไม่เกิน 1 ลิตร) ดังนั้นคนที่เดินทางท่องเที่ยวโดยไม่โหลดประเป๋าลงเครื่องก็สามารถเอาสบู่ แชมพู ครีมต่างๆติดตัวไปได้
นอกจากนี้ขวดพลาสติกที่ใช้ใส่น้ําก็สามารถเอาขึ้นไปได้เช่นกัน (แต่ต้องไม่มีน้ําข้างใน) ข้อควรระวังคือให้ดูปริมาตรที่ระบุที่ข้างขวดว่ามันต่ํากว่า 100 มิลลิลิตรหรือเปล่า เจ้าหน้าที่สนามบินไม่เคยสนว่าข้างในจะมีของเหลวอยู่เท่าไหร่แต่ถ้าขวดมันมากกว่า 100 มิลลิลิตร ขวดนั้นก็ต้องชะตาขาดที่ถังขยะหน้าเครื่องเอ็กเรย์ที่สนามบินแน่นอน
นอกจากนี้พวกของฝากที่คล้ายๆของเหลวเช่น แยมผลไม้ น้ําจิ้ม ซอสต่างๆ แต่ละขวดก็ต้องห้ามเกิน 100 มิลลิลิตรเช่นกัน (แต่ขนกลับมาหลายๆขวดได้)
8. การแต่งตัว – ถ้าไม่อยากโดนเจ้าหน้าที่ลูบไล้ตามร่างกายควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่มีองค์ประกอบของโลหะหนัก และควรถอดเข็มขัด นาฬิกา มือถือ กระเป๋าตังค์ หย่อนลงตะกร้าก่อนผ่านเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ (บางสนามบินให้ถอดกระทั่งรองเท้า)
สำหรับคอมพิวเตอร์ ถ้าจะให้รวดเร็วควรวางไว้ในที่ที่หยิบออกมาง่าย เพราะเวลาสแกนกระเป๋าต้องเอาคอมพิวเตอร์ออกจากกระเป๋าด้วย (แล้วอย่าลืมเก็บมันเข้ากระเป๋าหลังจากผ่านจุดตรงจร่างกายด้วย)
9. การเลือกที่นั่ง – อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวเช่นกัน ถ้าบินระยะยาวจะสามารถเลือกที่นั่งได้ตั้งแต่ตอนจองตั๋วอยู่แล้ว
ถ้าชอบนั่งริมหน้าต่างชมวิวบนฟ้าแนะนําให้นั่งหน้าปีกเครื่องบินไม่งั้นก็หลังๆปีกไปเลย ไม่อย่างนั้นคุณจะได้เพ่งมองปีกเครื่องบินที่บดบังทัศนียภาพของพื้นโลกไปตลอดการเดินทางไม่ต่างอะไรกับการนั่งข้างใน
สําหรับมนุษย์ห้องน้ําแนะนําให้นั่งริมทางเดินจะได้ไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น
ส่วนคนขาดความอบอุ่นควรนั่งตรงกลางลําเพราะคุณจะได้รับความรักจากผู้คนครบแปดทิศรอบตัวแน่นอน แต่ทางที่ดีขอให้เลี่ยงที่นั่งตรงกลางลําไว้เพราะว่าเวลาจะออกไปเข้าห้องน้ําแต่ละทีจะมีความยากลําบากในตัวมันเองค่อนข้างสูง
10. คำเตือนกับการบินกับไฟล์ทประหยัด อันนี้เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีกับมนุษย์ดาวโลกร่วมร้อยชีวิตถ้าเราไม่ได้จองที่นั่งล่วงหน้า มันเหมือนกับไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบของเพลงจนกว่าเราจะเอาตัวเองนั่งลงตรงที่ว่างได้
เราจะต้องปากกัดตีนถีบกระเสือกระสนผลักตัวเองไปข้างหน้าๆ เพื่อจะได้ขึ้นเครื่องและเลือกที่นั่งก่อน ทางที่ดีควรไปเช็คอินตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้รออยู่แถวหน้าและอย่ายอมให้มนุษย์เนียนมาแซงคิวคุณได้
เวลาขึ้นเครื่องได้แล้วให้เลือกนั่งที่ใกล้ทางออกที่สุด ไม่อย่างนั้นตอนเครื่องลงคุณจะต้องรอ รอ รอ กว่าคนจะยกกระเป๋าลงเสร็จกว่าจะลําเลียงกันไป ถ้าต้องไปต่อรถอาจจะตกรถได้เลยทีเดียว
แหล่งที่มา
www.studysqr.com 
อื่นๆ
