ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปCryptocurrencyบัญชี Libra สามารถโดน อายัด หรือถูดยึดโดน facebook ได้ไหมครับ
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: บัญชี Libra สามารถโดน อายัด หรือถูดยึดโดน facebook ได้ไหมครับ  (อ่าน 16577 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
picpost1234
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 53
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 882



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 26 มิถุนายน 2019, 14:25:08 »

ผมมีความสงสัยครับ ว่า บัญชี Libra  จะมีอิสระเหมือน bitcoin รึปล่าว เช่น ถูกอายัด หรือ ถูดยึดเงิน โดยองค์กรที่ดูแล มีใครทราบบ้างครับ
บันทึกการเข้า
sleep
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 282
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,581



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2019, 14:28:57 »

คิดว่าได้ ไม่งั้นกลายเป็นที่ฟอกเงิน
บันทึกการเข้า

ฺโฮสติ้งไทย แนะนำ ===> Host atom
SpaRK
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 165
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,528



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2019, 14:36:23 »

มองว่ามันเป็นctypto สกุลกนึ่งมันรันบน blockchain 100% และบัญชีไม่เกี่ยวกับแอคเค้าเฟซบุค, Facebook แค่เป็นตัวตั้งตัวตีในการโปรโมทเริ่มต้นเท่านั้น. น่าจะอิสระเหมือนcrypto อื่นๆที่รันบนblockchain แต่จะเกิดเร็วๆนี้จริงหรือเปล่าไม่รู้ เพราะกำลังโดนสอบสวนอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มิถุนายน 2019, 14:37:13 โดย SpaRK » บันทึกการเข้า
snookerpk
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2019, 13:52:51 »

มาหาข้อมูลครับผม  wanwan011
บันทึกการเข้า
ดาวโลก
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 112



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2019, 16:08:47 »

อายัดไม่ได้ครับ เป็นไปตามกฏหมายสากลระหว่างประเทศ เพราะองค์กรตั้งอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์
ถ้าไม่ได้ทำผิดกฏหมายสากลระหว่างประเทศอะไร ก็คงไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบได้

ถ้าเป็นเงินผิดกฏหมายสากล ฟอกสกุลเงินใหม่ หรือโกงเงินคนอื่น ก็สามารถฟ้องร้อง
ที่ศาลอียูได้ครับ ดังนั้น ถามในแง่ความเป็นส่วนตัวก็มีน้อยกว่าบิทคอยน์ แต่คงไม่ใช่
เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะขอข้อมูลการเงิน Libra ของเราไปได้ง่ายๆ

แพล็ตฟอร์มที่ได้ประโยชน์ก็เช่น เฟซบุค ไมโครซอฟต์ มาสเตอร์การ์ด วีซ่า เป็นต้น
เพราะเขามีข้อมูลส่วนตัวของคนทั่วโลกอยู่แล้ว เขาก็เพียงแต่เชื่อมต่อระบบเงินเข้ากับ
ข้อมูลของเขา แน่นอนว่าบริษัทเหล่านี้ก็สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือรูปแบบ
การค้าใหม่ๆ อีคอมเมิร์สที่หลากหลายมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น สมมุตว่ามีชายคนรวยคนหนึ่งอยู่ในซานฟรานซิสโก ต้องการแหวนเพรชแต่งงาน
ที่ร้านในนิวยอร์คซึ่งอยู่ห่างกัน 6 พันกิโลเมตร แต่เขาไม่รู้ว่าแฟนจะถูกใจวงไหนกันแน่ ดังนั้น
เขาจึงขอให้ส่งแหวนเพรช ราคา 1 พันล้านมา 5 วงเพื่อให้แฟนเลือกในวันนี้เพื่อขอแต่งงานกัน
ร้านขายเพรชจะส่งเพรชในกล่องนิรภัยชั้นดีมาทางไฮเปอร์ลูปซึ่งใช้เวลา 6 ชม. โดยคนรวยคนนี้
ต้องวางเงินประกันมูลค่าเพรชและประกันภัยต่างๆ จำนวน 6 พันล้าน เมื่อได้แหวนเพรชที่ต้องการ
แล้วเงินส่วนต่างๆ จะถูกจ่ายให้คนที่เกี่ยวข้องจนเสร็จภายในเวลาไม่เกิน 7 ชม. และคืนเงิน
ส่วนเกินด้วย Libra ได้ทันที

หลายคนคิดว่า Libra เกิดขึ้นมาเพื่อทดแทนเงินสกุลอื่น จริงๆ มันต้องเชื่อมโยงกับสกุลเงินอื่นอีก
ครับ เพราะโลกเงินสดไม่ได้หายไปง่ายๆ หรอก บัตรเครดิตก็ไม่ได้หายไปง่ายๆ ยังใช้เวลาเปลี่ยนผ่าน
อีกหลายสิบปี แต่มันจะเปลี่ยนระบบการเงินใหม่ของโลกให้ดีขึ้น ค่าธรรมเนียมน้อยลง ทุกอย่างเสร้จแล้วขึ้น
สิ่งค้ำประกันต่างๆ ก็ใช้กันได้ทั่วโลก ระบบอีคอมเมิรส์ การท่องเที่ยว การขนส่ง การสื่อสาร และด้านอวกาศ
มันกำลังผลักดันให้เราก้าวไปอย่างรวดเร็วมาก

ทำไมเราถึงช้าไม่ได้เหมือนวันวาน ก็เพราะข้อมูลที่เราได้รับในวันนี้มันอยู่ในเสี้ยววินาที ดังนั้น การเสียเวลา
แบบอดีตจึงเป็นภาระของคนทั่วๆ ไป เทคโนโลยีต่างๆ มันผลักดันสิ่งเหล่านี้ไปข้างหน้า แต่จำไว้นะครับ
เทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้คิดค้นกันมานานเกือบๆ ร้อยปีแทบทั้งนั้น เพียงแต่คอมพิวเตอร์มันทำให้สิ่งเหล่านี้
พัฒนาไปอย่างรวดเร็วเท่านั้นเอง

ไฮเปอร์ลูป มีคนคิดไอเดียลักษณะนี้มาเกือบ 100 ปี อีรอน มัค เพิ่งประกาศแพล็ตฟอร์มเมื่อ 5 ปีก่อนหรือทฤษฏ๊
ต่างๆ ผ่านหมดแล้ว วันนี้สหรัฐและยุโรปได้ทำในระดับสเกลจริงได้แล้ว เหลือเพียงการปรับรายละเอียดและพัฒนา
ผลิตภัณฑ์เพื่อขาย

ดาวเทียวอินเตอร์เน็ต ทั้ง สเปซเอ็กซ์ อเมซอน ไมโครซอฟต์ และยุโรปเองก็ เริ่มสร้างระบบดาวเทียมอินเตอร์เน็ต
ที่สามารถใช้ง่ายๆ ที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ ด้วยราคาที่ถูกและโหลดได้เร็วมากๆ นั่นคือ โลกกำลังก้าวเข้าสู่มาตรฐานความเร็ว
ใหม่ในการสื่อสาร


คลาวด์คอมพิวติ้ง + ควอนตั้มคอมพิวติ่ง มันทำให้การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และซับซ้อนสูงสามารถประมวลผลได้เร็ว
ทำให้การทำนายความต้องการ การแลกเปลี่ยนข้อมุลกันเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระหว่างคนกับคน คนกับอุปกรณ์ อุปกรณ์กับ
อุปกรณ์

Crispr เป็นแนวทางการรักษายาด้วยรหัสพันธ์กรรมหรือ DNA ผลการรักษาโรมะเร็งในระยะท้ายๆ มีผลสำเร็จถึง 97%
และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 ล้านบาท นั่นคือ อนาคต 100 ปีข้างหน้าหากหลานคุณป่วย เขาเจาะเลือดด้วยตัวเองแล้วเช็คกับเครื่องที่บ้าน
แล้วส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตไปยังสหรัฐ เมื่อแพทยน์ถอดรหัสดีเอ็นเอที่ผิดพลาดได้แล้ว เขาจะผสมยาดีเอ็นเอของ
เราโดยเฉพาะให้ แล้วส่งมาทางไฮเปอร์ลูป 15 ชม. รวมเวลาทั้งหมด 30 ชม.ก็ได้รับยารักษาแล้ว เชื่อเลยว่าถ้าระบบ
การเงินยังเป็นแบบเก่าอยู่จะเป็นปัญหาใหญ่มากแน่

นาซ่า ไม่นานมานี้นาซ่าประกาศแล้วว่าจะขายที่ดินให้คนรวยบนดวงจันทร์ จะทำเหมืองพลังแสงอาทิตย์บนดวงจันทร์
จะขุดแร่ธาตุต่างๆ มาขายบนโลก สหรัฐ ยุโรป ลักแซมเบิร์ก ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ประกาศแผนชัดเจนแล้วว่า
จะนำแร่ไททาเนียมจากแถบดาวเคราะห์น้อยมาขายบนโลก

AI เป้นเทคโนโลยีที่มากระตุ้นให้เราฉลาดมากขึ้น ดังนั้น อนาคตลูกหลานทุกคนที่ฉลาดกว่า AI ก็มีโอกาสรวยล้นฟ้าได้เลย
ไม่จำเป็นจะต้องเป้นลุกคนรวย พ่อแม๋สะสมและกอบโกยจากสิ่งต่างๆ เอาไว้ให้ก่อนแล้วมากอบโกยทางธุรกิจต่ออีก

เทคโนโลยีพวกนี้มันทำให้เงินต้องเปลี่ยนไป ไม่ใช่เฟซบุคทำให้มันเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่บิทคอยน์ทำให้เงินมันเปลี่ยนไป
เมื่อเทคโนโลยีมันเปลี่ยนมันก็บีบให้มนุษย์เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เงินคือเส้นเลือดหล่อเลี้ยงโลกก็ต้องปรับเปลี่ยนตาม
คงไม่มีใครอยากถ่ายรูปกล้องฟิมล์แล้วเอาไปล้างรูป แล้วมาสแกนไฟล์เพื่ออัพขึ้นมาแชร์บนอินสตาแกรมหรอก เราเห็น
สิ่งเหล่านี้มานานแล้วว่าเทคโนโลยีมันบีบให้เราเปลี่ยนไป ตัวบล็อกเชนก็มาบีบให้ระบบการเงินของโลกต้อง
เปลี่ยนแปลง

แน่นอนเลยว่ายิ่งใหญ่ยิ่งโดนกระทบมากหากไม่ยอมปรับตัวเอง ส่วนคนตัวเล็กๆ อย่างเรา หากปรับตัวก่อนก็คือโอกาส
ที่ดีมากเช่นเดียวกัน แต่ก็นั่นละคน 4-5 พันล้านคนก็มีโอกาสด้วย นั่นคือ โลกเราใกล้กันมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี และ
เทคโนโลยีเองก็บีบให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเอง สังคมต้องปรับตัวตาม ผมได้ดูคลิปโฆษกคนสวยของบริษัทคอยน์เบส ให้
สัมภาษณ์ไว้ว่า มีบางคนต้องการจะหยุดการเปลี่ยนแปลงหรือหมุนโลกให้ย้อนกลับไปยังอดีต โดยที่คนนี้ไม่รู้ตัวเลยว่า
โลกได้เหวี่ยงเขาออกจากอนาคตของโลกไปแล้ว คนที่ไม่มีอนาคตกับโลก โลกก็ไม่มีอนาคตกับเขาเช่นเดียวกัน จบครับ
บันทึกการเข้า

Stay Hungry Stay Foolish. ค้นหาโลกใหม่ ค้นหาปัญญา
mean
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 121
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,009



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2019, 21:05:39 »

ดาวโลก : ขอบคุณครับ ผมชอบมุมมอง ที่คุณเขียน : )
บันทึกการเข้า

Twenty-One
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 335
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,751



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2019, 08:08:15 »

libra น่าจะเกิดจาก โดนต่อต้านเยอะ แต่ก็ไม่แน่ครับ รอดูในอนาคต
บันทึกการเข้า

# บริการโฮสติ้งขั้นเทพ 24/7 เปิดให้บริการ web hosting มาแล้ว 14 ปี ลูกค้ากว่า 40,000 ราย ให้ความไว้วางใจ
# hosting คุณภาพสูง ดูแลระบบโดย system engineer ประสบการณ์สูง
# host เร็ง แรง ไม่มีล่ม ติดตั้ง cms ฟรี
# vps ราคาถูก 50GB 999 บาท

mahatang
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 47
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,117



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2019, 09:12:19 »

น่าจะได้ครับ ไม่งั้นจะเป็นแหล่งฟอกเงินอย่างดีเลย
บันทึกการเข้า

picpost1234
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 53
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 882



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2019, 23:00:32 »

อายัดไม่ได้ครับ เป็นไปตามกฏหมายสากลระหว่างประเทศ เพราะองค์กรตั้งอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์
ถ้าไม่ได้ทำผิดกฏหมายสากลระหว่างประเทศอะไร ก็คงไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบได้

ถ้าเป็นเงินผิดกฏหมายสากล ฟอกสกุลเงินใหม่ หรือโกงเงินคนอื่น ก็สามารถฟ้องร้อง
ที่ศาลอียูได้ครับ ดังนั้น ถามในแง่ความเป็นส่วนตัวก็มีน้อยกว่าบิทคอยน์ แต่คงไม่ใช่
เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะขอข้อมูลการเงิน Libra ของเราไปได้ง่ายๆ

ตกม้าตายตรงนี้ครับ ''อายัดไม่ได้ครับ เป็นไปตามกฏหมายสากลระหว่างประเทศ เพราะองค์กรตั้งอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ ถ้าไม่ได้ทำผิดกฏหมายสากลระหว่างประเทศอะไร ก็คงไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบได้''


คือถ้าเป็นไปตามกฏหมาย แสดงว่ามันพร้อมจะถูกยึดและอายัดได้เสมอ ผิดหรือถูกกฏหมาย ใครชี้ครับ? ผู้มีอำนาจรัฐเป็นคนชี้ครับ ถ้าผู้มีอำนาจรัฐต้องการจะให้คุณผิด ต่อให้คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเขาก็หาเรื่องให้คุณผิดได้
บันทึกการเข้า
Appman
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 77
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,013



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2019, 03:25:19 »

คือผมว่าถ้าสีดำเลยนี่อาจโดนอายัดครับ
บันทึกการเข้า

little_seo
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 97



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2019, 09:48:17 »

อายัดไม่ได้ครับ เป็นไปตามกฏหมายสากลระหว่างประเทศ เพราะองค์กรตั้งอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์
ถ้าไม่ได้ทำผิดกฏหมายสากลระหว่างประเทศอะไร ก็คงไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบได้

ถ้าเป็นเงินผิดกฏหมายสากล ฟอกสกุลเงินใหม่ หรือโกงเงินคนอื่น ก็สามารถฟ้องร้อง
ที่ศาลอียูได้ครับ ดังนั้น ถามในแง่ความเป็นส่วนตัวก็มีน้อยกว่าบิทคอยน์ แต่คงไม่ใช่
เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะขอข้อมูลการเงิน Libra ของเราไปได้ง่ายๆ

แพล็ตฟอร์มที่ได้ประโยชน์ก็เช่น เฟซบุค ไมโครซอฟต์ มาสเตอร์การ์ด วีซ่า เป็นต้น
เพราะเขามีข้อมูลส่วนตัวของคนทั่วโลกอยู่แล้ว เขาก็เพียงแต่เชื่อมต่อระบบเงินเข้ากับ
ข้อมูลของเขา แน่นอนว่าบริษัทเหล่านี้ก็สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือรูปแบบ
การค้าใหม่ๆ อีคอมเมิร์สที่หลากหลายมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น สมมุตว่ามีชายคนรวยคนหนึ่งอยู่ในซานฟรานซิสโก ต้องการแหวนเพรชแต่งงาน
ที่ร้านในนิวยอร์คซึ่งอยู่ห่างกัน 6 พันกิโลเมตร แต่เขาไม่รู้ว่าแฟนจะถูกใจวงไหนกันแน่ ดังนั้น
เขาจึงขอให้ส่งแหวนเพรช ราคา 1 พันล้านมา 5 วงเพื่อให้แฟนเลือกในวันนี้เพื่อขอแต่งงานกัน
ร้านขายเพรชจะส่งเพรชในกล่องนิรภัยชั้นดีมาทางไฮเปอร์ลูปซึ่งใช้เวลา 6 ชม. โดยคนรวยคนนี้
ต้องวางเงินประกันมูลค่าเพรชและประกันภัยต่างๆ จำนวน 6 พันล้าน เมื่อได้แหวนเพรชที่ต้องการ
แล้วเงินส่วนต่างๆ จะถูกจ่ายให้คนที่เกี่ยวข้องจนเสร็จภายในเวลาไม่เกิน 7 ชม. และคืนเงิน
ส่วนเกินด้วย Libra ได้ทันที

หลายคนคิดว่า Libra เกิดขึ้นมาเพื่อทดแทนเงินสกุลอื่น จริงๆ มันต้องเชื่อมโยงกับสกุลเงินอื่นอีก
ครับ เพราะโลกเงินสดไม่ได้หายไปง่ายๆ หรอก บัตรเครดิตก็ไม่ได้หายไปง่ายๆ ยังใช้เวลาเปลี่ยนผ่าน
อีกหลายสิบปี แต่มันจะเปลี่ยนระบบการเงินใหม่ของโลกให้ดีขึ้น ค่าธรรมเนียมน้อยลง ทุกอย่างเสร้จแล้วขึ้น
สิ่งค้ำประกันต่างๆ ก็ใช้กันได้ทั่วโลก ระบบอีคอมเมิรส์ การท่องเที่ยว การขนส่ง การสื่อสาร และด้านอวกาศ
มันกำลังผลักดันให้เราก้าวไปอย่างรวดเร็วมาก

ทำไมเราถึงช้าไม่ได้เหมือนวันวาน ก็เพราะข้อมูลที่เราได้รับในวันนี้มันอยู่ในเสี้ยววินาที ดังนั้น การเสียเวลา
แบบอดีตจึงเป็นภาระของคนทั่วๆ ไป เทคโนโลยีต่างๆ มันผลักดันสิ่งเหล่านี้ไปข้างหน้า แต่จำไว้นะครับ
เทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้คิดค้นกันมานานเกือบๆ ร้อยปีแทบทั้งนั้น เพียงแต่คอมพิวเตอร์มันทำให้สิ่งเหล่านี้
พัฒนาไปอย่างรวดเร็วเท่านั้นเอง

ไฮเปอร์ลูป มีคนคิดไอเดียลักษณะนี้มาเกือบ 100 ปี อีรอน มัค เพิ่งประกาศแพล็ตฟอร์มเมื่อ 5 ปีก่อนหรือทฤษฏ๊
ต่างๆ ผ่านหมดแล้ว วันนี้สหรัฐและยุโรปได้ทำในระดับสเกลจริงได้แล้ว เหลือเพียงการปรับรายละเอียดและพัฒนา
ผลิตภัณฑ์เพื่อขาย

ดาวเทียวอินเตอร์เน็ต ทั้ง สเปซเอ็กซ์ อเมซอน ไมโครซอฟต์ และยุโรปเองก็ เริ่มสร้างระบบดาวเทียมอินเตอร์เน็ต
ที่สามารถใช้ง่ายๆ ที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ ด้วยราคาที่ถูกและโหลดได้เร็วมากๆ นั่นคือ โลกกำลังก้าวเข้าสู่มาตรฐานความเร็ว
ใหม่ในการสื่อสาร


คลาวด์คอมพิวติ้ง + ควอนตั้มคอมพิวติ่ง มันทำให้การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และซับซ้อนสูงสามารถประมวลผลได้เร็ว
ทำให้การทำนายความต้องการ การแลกเปลี่ยนข้อมุลกันเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระหว่างคนกับคน คนกับอุปกรณ์ อุปกรณ์กับ
อุปกรณ์

Crispr เป็นแนวทางการรักษายาด้วยรหัสพันธ์กรรมหรือ DNA ผลการรักษาโรมะเร็งในระยะท้ายๆ มีผลสำเร็จถึง 97%
และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 ล้านบาท นั่นคือ อนาคต 100 ปีข้างหน้าหากหลานคุณป่วย เขาเจาะเลือดด้วยตัวเองแล้วเช็คกับเครื่องที่บ้าน
แล้วส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตไปยังสหรัฐ เมื่อแพทยน์ถอดรหัสดีเอ็นเอที่ผิดพลาดได้แล้ว เขาจะผสมยาดีเอ็นเอของ
เราโดยเฉพาะให้ แล้วส่งมาทางไฮเปอร์ลูป 15 ชม. รวมเวลาทั้งหมด 30 ชม.ก็ได้รับยารักษาแล้ว เชื่อเลยว่าถ้าระบบ
การเงินยังเป็นแบบเก่าอยู่จะเป็นปัญหาใหญ่มากแน่

นาซ่า ไม่นานมานี้นาซ่าประกาศแล้วว่าจะขายที่ดินให้คนรวยบนดวงจันทร์ จะทำเหมืองพลังแสงอาทิตย์บนดวงจันทร์
จะขุดแร่ธาตุต่างๆ มาขายบนโลก สหรัฐ ยุโรป ลักแซมเบิร์ก ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ประกาศแผนชัดเจนแล้วว่า
จะนำแร่ไททาเนียมจากแถบดาวเคราะห์น้อยมาขายบนโลก

AI เป้นเทคโนโลยีที่มากระตุ้นให้เราฉลาดมากขึ้น ดังนั้น อนาคตลูกหลานทุกคนที่ฉลาดกว่า AI ก็มีโอกาสรวยล้นฟ้าได้เลย
ไม่จำเป็นจะต้องเป้นลุกคนรวย พ่อแม๋สะสมและกอบโกยจากสิ่งต่างๆ เอาไว้ให้ก่อนแล้วมากอบโกยทางธุรกิจต่ออีก

เทคโนโลยีพวกนี้มันทำให้เงินต้องเปลี่ยนไป ไม่ใช่เฟซบุคทำให้มันเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่บิทคอยน์ทำให้เงินมันเปลี่ยนไป
เมื่อเทคโนโลยีมันเปลี่ยนมันก็บีบให้มนุษย์เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เงินคือเส้นเลือดหล่อเลี้ยงโลกก็ต้องปรับเปลี่ยนตาม
คงไม่มีใครอยากถ่ายรูปกล้องฟิมล์แล้วเอาไปล้างรูป แล้วมาสแกนไฟล์เพื่ออัพขึ้นมาแชร์บนอินสตาแกรมหรอก เราเห็น
สิ่งเหล่านี้มานานแล้วว่าเทคโนโลยีมันบีบให้เราเปลี่ยนไป ตัวบล็อกเชนก็มาบีบให้ระบบการเงินของโลกต้อง
เปลี่ยนแปลง

แน่นอนเลยว่ายิ่งใหญ่ยิ่งโดนกระทบมากหากไม่ยอมปรับตัวเอง ส่วนคนตัวเล็กๆ อย่างเรา หากปรับตัวก่อนก็คือโอกาส
ที่ดีมากเช่นเดียวกัน แต่ก็นั่นละคน 4-5 พันล้านคนก็มีโอกาสด้วย นั่นคือ โลกเราใกล้กันมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี และ
เทคโนโลยีเองก็บีบให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเอง สังคมต้องปรับตัวตาม ผมได้ดูคลิปโฆษกคนสวยของบริษัทคอยน์เบส ให้
สัมภาษณ์ไว้ว่า มีบางคนต้องการจะหยุดการเปลี่ยนแปลงหรือหมุนโลกให้ย้อนกลับไปยังอดีต โดยที่คนนี้ไม่รู้ตัวเลยว่า
โลกได้เหวี่ยงเขาออกจากอนาคตของโลกไปแล้ว คนที่ไม่มีอนาคตกับโลก โลกก็ไม่มีอนาคตกับเขาเช่นเดียวกัน จบครับ
ผมชอบการแสดงความเห็น มุมมอง รวมถึงความรู้ที่ได้จากคุณ ดาวโลก จัง นานๆ จะมีแบบนี้ ขอบคุณมากๆ ครับ  wanwan017
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์