บอกเล่าเทคนิคการทำ SEO แบบบ้าน ๆ ของผม
konderntang:
ห่างหายไปนานมากเลยครับสำหรับวงการ SEO ศิริรวมแล้วน่าจะราว ๆ 3 ปีที่ไม่ได้แตะเรื่องนี้เลย วันนี้ได้กลับมาอัพเดตเว็บไซต์ใหม่อีกครั้งพบว่ามีหลายอย่างเปลี่ยนไปมากในการทำ SEO ไม่ว่าจะคู่แข่งที่มีจำนวนมากขึ้นมหาศาล อีกทั้งองค์ประกอบภายนอกอีกมากมาย วันนี้จึงอยากมาอัพเดตเทคนิคของผมให้เพื่อน ๆ ได้ทำตามกันดู แต่บอกไว้ก่อนนะครับว่าสิ่งที่ทำเนี่ยผมไม่ได้อ้างอิงเอกสารทางวิชาการใด ๆ ทั้งสิ้น อาศัยประสบการณ์ที่ทำแล้วมาแบ่งปันให้อ่าน ใครมีความเห็นอะไรต้องการเสนอความเห็น ยินดีรับฟังครับผม
1. โฮสติ้ง
เลือกที่ดี ๆ ไว้ก่อน ไม่ล่มบ่อย เพราะ Bot จะวิ่งอยู่ตลอดเวลา เราไม่รู้เลยว่าช่วงไหนที่มีบอทวิ่งอยู่ในเว็บไซต์เรา ถ้าเกิดว่าโฮสต์ล่มขึ้นมาพอดีตอนบอทกำลังวิ่งอยู่บนเว็บเรา ก็จะเป็นตัวแปรอีกตัวที่ทำให้โดนลดอันดับความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์เราลง ในทุกวันนี้โฮสติ้งดี ๆ ราคาถูกมีเยอะมาก ๆ สามารถใช้งานได้ไม่จำกัด แต่ให้ดูรายละเอียดเงื่อนไขดี ๆ ที่บอกว่าไม่จำกัดนั้นจะว่าไปก็จะโดนจำกัดเรื่องของ inode (จำนวนไฟล์ทั้งหมดที่จัดเก็บ) การใช้งานทรัพยากร เช่น CPU, RAM เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เว็บช้าไปด้วย หากว่ามีคนเข้าชมเว็บไซต์เราเยอะ ๆ
ตัวอย่างโฮสที่ผมใช้ : จะไม่จำกัดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล แต่ว่าจะมีตัวนับ inode ต้องมีเกิน 400,000 ซึ่งก็คือผมสามารถเก็บไฟล์ไว้บนนี้ได้ทั้งหมด 4 แสนไฟล์ แต่ไฟล์จะขนาดใหญ่แค่ไหนก็ได้นั่นเอง
อีกอย่างที่เป็นตัวแปรสำคัญเมื่อเลือกใช้ Hosting ก็คือ CPU, RAM ของผมโดนจำกัด RAM ที่ 1GB, CPU 1 Core ซึ่งทรัพยากรขนาดนี้ถ้าเป็นเว็บที่รูปภาพเยอะ ๆ คนเข้าพร้อม ๆ กัน 10 กว่าคนก็เริ่มช้าแล้ว รวม ๆ เฉลี่ยรองรับได้ประมาณ 500 - 1000 ไอพีต่อวัน สำหรับใครที่คิดว่าเว็บใหญ่ก็เอาส่วนนี้มาตัดสินใจด้วยครับ
2. CMS
ส่วนนี้ผมจะไม่ฟันธงว่าอันไหนดีที่สุด เอาแล้วแต่คนถนัดของแต่ละคนจะดีกว่า ในส่วนของผมจะเลือกใช้ Wordpress เป็นหลัก รองลงมาก็จะเป็น Joomla แต่เมื่อคุยกับบางคนที่มาสายโปรแกรมมิ่งก็จะเลือกใช้ CMS ที่พัฒนาเอง สาเหตุที่ผมเลือก Wordpress ก็เพราะมันถนัดที่สุดไปแล้ว ใช้งานได้ง่ายมี Plugin เสริมมากมายใช้งานได้แบบฟรี ๆ SEO Friendly มาก
3. Url ไม่สำคัญอีกต่อไป
มีช่วงนึงที่ Google ให้ความสำคัญกับ Keyword ที่แทรกอยู่ใน url สังเกตุได้ว่าเวลาค้นหาคำบางคำ google จะแสดงตัวหนาใน url ด้วย แต่เดี๋ยวนี้องค์ประกอบตรงนี้เหมือนกับโดนตัดออกไป ไม่นำมาเป็นใจความสำคัญอีกต่อไป
4. Meta Description
Description ในแต่ละบทความยังมีความสำคัญอยู่นะครับ มันคือเนื้อหาสำคัญที่สรุปให้ Search Engine ได้รู้ว่าบทความนั้น ๆ เกี่ยวข้องกับอะไร ผมจะเขียน Meta Description ยาวประมาณ 150 คำต่อบทความ โดยแทรกคีย์เวิร์ดไป 1 ครั้ง ถ้าใครที่ใช้ Wordpress ผมขอแนะนำให้ใช้ Plugin ชื่อ Yoast ที่เป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์ Meta Description ของบทความเรา ถึงแม้จะไม่ 100% แต่มันก็ดีกว่านั่งเทียนเขียนไปโดยไม่รู้จุดหมายครับ
5. Alt Tag
ในที่นี้คือการใส่ Tag กำกับในรูปภาพให้ Search Engine ทราบว่ารูปแต่ละรูปเกี่ยวข้องกับอะไร หลายครั้งมากครับที่ traffic ของเว็บผมจะมาจากคนที่ค้นหารูปภาพ
6. Link ภายในเว็บไซต์
Search Engine โดยเฉพาะ Google จะชอบมากที่จะไต่ไปตามลิงค์เพื่อเก็บข้อมูล เมื่อเราได้เขียนบทความแต่ละเรื่องแล้ว อย่าลืมที่จะใส่ลิงค์กลับไปบทความอื่น ๆ ในเว็บของเรา แต่ควรเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันด้วย
7. Link ภายในบทความ
อย่าสับสนกันนะครับกับข้อก่อนหน้าทีพูดถึงลิงค์ภายในเว็บไซต์ แต่อันนี้คือลิงค์ภายในบทความ หรือ Anchor หรือการทำสารบัญภายในน่ะแหละ นั่นหมายความว่าในแต่ละเรื่องควรจะมีการแบ่งหัวข้อ เป็นข้อ ๆ แบ่ง tag ไปแต่ละหัวข้อ ผมใช้ H1 เป็นหัวข้อบทความ, H2 เป็นหัวข้อย่อย, H3 ย่อยลงไปอีกที แต่จะใช้เพียงเท่านี้ไม่ย่อยมาก ๆ ทำให้มันมีสารบัญที่ตอนเริ่มบทความ ถ้าใครที่ใช้ Wordpress ก็ให้ใช้ Plugin ชื่อ TOC+ ที่จะใส่สารบัญให้เองอัตโนมัติครับ เมื่อเราใส่สารบัญในเว็บไซต์แล้วเราจะได้ลิงค์เพิ่มในหน้าค้นหาของ Search Engine (ตัวอย่างแบบรูปด้านล่าง)
8. ทำเว็บให้คนอ่านไม่ได้ทำให้ google อ่าน
พึงระลึกเสมอว่าให้ทำเว็บไซต์เพื่อให้คนเข้ามาดู เข้ามาอ่าน ไม่ได้ทำเว็บเพื่อเรียกให้ Google เข้ามา แน่นอนว่าถ้าจะปั่นเว็บเพื่อ SEO อย่างเดียวมันอาจจะมีอันดับที่กระโดดขึ้นสูงมาสักพักนึง แต่ก็เชื่อได้สนิทใจเลยว่าอยู่ได้ไม่นาน อันดับเว็บคุณจะหายไปจนแทบจะไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำ ทำให้เว็บรออ่านง่าย ๆ ดูง่าย ๆ ให้คนติดใจอยู่กับเรานาน ๆ ถึงมันจะเหนื่อยแต่ระยะยาวผลลัพท์ออกมาดีเสมอ
9. Back Link สำคัญที่คุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ
ใครที่ซื้อ Backlink จำนวนมาก หรือจ้างคนทำ SEO ให้โพสต์เพื่อหา Backlink ทีนึง 2-3 ร้อยที่ บอกเลยว่ามันไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่สำคัญซะทั้งหมด การที่จะหา Backlink กลับมาให้เลือกหาจากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์เราจะดีที่สุด ... แล้วจะไปหาที่ไหน เทคนิคการหาของผมบ้าน ๆ มาก เมื่อค้นหาข้อมูลแล้วเว็บไหนที่มันขึ้นมาเยอะ ๆ อ่ะครับ ติดต่อไปที่เจ้าของเว็บขอแลกลิงค์เลย วิธีนี้จะเหนื่อยและถึก ไม่รับประกันว่าทุกเว็บจะยอมแลกกลับมาหาเรา แต่เชื่อเลยครับว่าระยะยาวมันดีมากเลยแหละ
10. สุดท้าย "Content"
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุค กี่สมัย "Content" คือพระเอกของงานเสมอ ทำเว็บให้มีเนื้อหาที่สดใหม่ อัพเดตสม่ำเสมอ ถ้าใครที่เน้นเนื้อหาสำหรับอ่านก็เขียนเนื้อหาให้ยาวหน่อย สำหรับผมถ้าเป็นบทความที่เขียนเองผมก็จะเขียนให้ได้ 1,000 คำขึ้นไปเน้นเขียนแบบธรรมชาติที่สุด อย่างที่บอกไปว่าเขียนให้คนอ่านไม่ได้เขียนให้บอทอ่าน ... ใส่รูปภาพประกอบบทความ ถ้าเรื่องเที่ยวก็ใส่รูปเยอะหน่อย ส่วนใครขยันทำ Video ก็ใส่เข้าไปด้วย แต่แนะนำให้อัพขึ้น youtube แล้วเอามา Embed ในเว็บเราจะดีกว่า
ดูบทความและเว็บตัวอย่างของผมได้ที่ลิงค์นี้ "เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน "
kondam:
ขอบคุณครับ :wanwan017:
Ball24:
ขอบคุณครับ :'(
del555:
:wanwan017: :wanwan017: :wanwan017:
oscarminny:
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป