มีด้วยเหรอครับตอนนี้
มีอยู่ครับ แต่มันลดบทบาทลงไป เนื่องจาก ปริมาณข้อมูลที่เข้ามาเร็วมาก และหลากหลายแพตฟอร์ม ข้อความ
ภาพ วิดีโอ และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกวัน จนกลายเป็นยุค บิกดาต้า หรือข้อมูลจำนวนมากๆ ที่ไหลเข้าสู่อินเตอร์เน็ต
อย่างรวดเร็ว และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน
ยุคบิ๊กตาต้า คือความเร็วของข้อมูล ความหลากหลายของชนิดข้อมูล ซึ่งเราไม่สามารถวิเคราะห์หรือประเมินผลมันได้ทัน
จึงต้องพึ่งพวก ai โดยเฉพาะ Deep Learing มากขึ้น เพื่อคำนวณวิเคราะห์ข้อมูลให้ได้คำตอบดีที่สุดและเร็วที่สุด
PR หรือ Page Rank ถ้าอยู่ในมิติอื่นจะเรียกว่า Rangking หรืออันดับการแข่งขัน ซึ่งกูเกิลใช้เทคนิคการคำนวณ
แรงค์เมตริกซืมาใช้ในการหา PR (ใครมีความรู้ทางคณิตศาสตร์และสนใจว่าคำนวณยังไง ค้นคำว่า Cleve moler + Google Rank)
นั่นคือ กูเกิลคำนวณเมตริกซ์ หาค่า Ranking ให้แต่ละเว็บไซต์ ตามค่าแบ็คลิงค์ กูเกิลก็พัฒนาเทคนิคอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติม
ปกติค่าแรงค์ที่ได้จะถูกต้องแค่ 70% แต่ได้เปรียบด้านความเร็วในการจัดอันดับเว็บจากทั่วโลก
สิ่งที่กูเกิลอัพเดตค่า Ranking สำหรับแต่ละเว็บไม่ไหว ก็เพราะว่า การคำนวณเมตริซ์ขนาด 2พันล้านหลัก 2 พันล้านแถว
นั้นใช้เวลานานมาก และแบ่งส่วนการคำนวณที่หลากหลาย จนไม่สามารถเสร็จทีเดียว จึงจำเป็น ต้องแสดง PRค่าเก่า
และใช้เทคนิคอันอื่นของกูเกิลข้ามามีบทบาทแทน
เท่าที่ลองดูข้อมูลจากผู้รู้ทางด้านคณิตศาสตร์ของโลก น่าจะมี 2 เหตุผลสำคัญที่กูเกิลไม่อัพเดทค่า PR
1. PR ยังมีอยู่เพียงแต่พอเราเข้าสู่ยุคบิกดาต้า ซึ่งข้อมูลพวกไฟล์เสียง วิดีโอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งบอทกูเกิลที่จะเก็บค่าแบ็ค
ลิงค์ไปคำนวณ มันยังไม่ก้าวหน้าพอที่จะรู้เนื้อหาหรือจุดเด่นของคอนเทนต์พวกนี้ได้ จะเอาเข้าไปคำนวณหาแรงค์ก็ไม่ได้
2. คิดว่า Google ไม่สามารถคำณวนค่าแรงค์ขนาดใหญ่ได้ทันเวลาอีกต่อไป แรงค์ของเว็บนาดกลางและเล็กมีการเปลี่ยนแปลงมาก
หากยังคำนวณแบบเก่า ผลการค้นไม่น่าดีขึ้น เลยไม่อัพเดทค่า PR ส่วน PR เว็บใหญ่ๆ ก็ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
มองด้านบิ๊กดาต้า และ คณิตศาสนค์อธิบายได้ว่า Google ไม่สามารถคำนวณค่าแรงค์ได้ทัน อาจต้องรอยุคคอนตวัมคอมพิวเตอร์นั่นละ
เราอาจะได้เห็น PR อัพเดทให้เห็นอีกครั้ง
ผลการค้นหาของ Google อาจจะมองในแง่ธุรกิจ ผลประโยชน์ต่อสังคมโลก หรือแง่มุมอื่นๆ ร่วมด้วยก็ได้ คงไม่มีอะไรตายตัวครับ การเพิ่มขึ้น
ของข้อมูลอย่างรวดเร็ว การวัดคุณภาพเสียงและวิดีโอ ต้องรอ Deep Leaning ที่ก้าวหน้ามากว่านี้ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
ไม่แปลกใจที่ Google แอปเปิล ไมโครซอฟต์ เฟสบุค อเมซอน ตั้งเป้าในอีก 5 ปีข้างหน้า
ตั้งเป้าหมายพัฒนาธุรกิจตัวเอง เพื่อให้แต่ละบริษัทมีมูลค่าเกิน 3 ล้านล้านเหรียญ
เพราะบริษัทเหล่านี้ ครอบครองบิ๊กดาต้าของโลกไว้ สามารถให้บริการได้ตั้งแต่คนทั่วไป จนถึงบริษัทขนาดใหญ่
แน่นอนว่าลูกหลานพวกเรา จะสนิทกับสินค้าของบริษัทเหล่าานี้ เหมือนที่เราสนิทกับซีพีทุกวันนี้ละ
ความรู้ทั่วไป
