วิธีการขายสินค้าแบบ ฉบับร้านมัมโมรี่ เพื่อดึงดูดยอดขายทาง Facebook page สู่เว็บไซต์
เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ จากความใจไม่ถึงในการทำธุรกิจ แน่นอนการกล้าที่จะขายสินค้า ทำแบรนด์ สร้างอะไรขึ้นมาสักอย่าง การมีความพร้อมทั้งในเรื่องของ
สถานที่จัดเก็บสินค้า สต๊อกสินค้า รวมถึงมีเวลาในการใส่ใจ เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ
จากร้านขายหมวกปีกกว้าง หมวกเที่ยวทะเล ที่ยอดขายเดือนนึง ไม่เกิน 1000 บาท มาสู่วันละ 400-600 บาท (วันพฤหัส กับเสาร์ ไม่มียอดขายเลย จากการเก็บข้อมูล)
มันพลิกผันไปทันที เมื่อตัวผมเองกล้าที่จะสต๊อกสินค้า และใส่ใจ นำความรู้เกี่ยวกับด้านเว็บไซต์ มาช่วยสร้างรายได้เสริมอีกช่องทาง
เริ่มต้นจากการทำเว็บไซต์ แล้วปรับ mindset ตัวเองว่า อาชีพหรือรายได้จากการขายสินค้าหมวกปีกกว้าง จุดนี้ มันคือ “อาชีพเสริม” ทำมันเล่นๆ เถอะ อย่าได้จริงจัง บ่นเหมือนแต่ก่อน
ที่จมปักอยู่กับความคิดที่ทำไมซื้อหมวกมาสต๊อก (3-6ใบ) แล้วขายไม่ได้แบบที่ตั้งเป้าไว้เลย
ปัจจัยที่ผมคิดว่า มีส่วนสำคัญ กับการขายสินค้าออนไลน์ คือ แหล่งพลังงานของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ทั้งหลายแหล่
อาทิ Facebook page, Instagram, Shopee, Kaidee, 11Street ผมเปิดร้านค้า สร้างแบรนด์ mommoly ขึ้นมาใหม่ผ่านช่องทางเหล่านี้ทั้งหมด
ก็เริ่มต้นอย่างง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนภาพลักษณ์ ถ่ายรูปสินค้าให้ดูดี มีมิติ ในมุมมองที่คิดว่ากลุ่มเป้าหมายเห็นแล้วจะโดนใจทันที
ทั้งการอัฟโหลดรูปสินค้า ลงรายะเอียด ลงราคา ครบถ้วนตามหลักการ และคำแนะนำของ Yoast SEO (Wordpress plugin)
ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมเรื่อง Analytics หรือ เครื่องมือวิเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็น Google analytics, Hotjar เพื่อดูพฤติกรรม ของลูกค้าผ่านเว็บไซต์ ของเราเอง
แบบกรณีผมนั้น เปิดดู analytics ของ facebook insight และ google เมื่อมีเวลาว่างในการดูความเคลื่อนไหวเสมอ
การทำตามคำแนะนำของ Facebook page, Google analytics ต่างๆ มันส่งผลดีต่อร้านค้าผมมาก ไม่ว่าการจะปรับเรื่อง Mobile Site, การอัฟโหลดรูปให้โหลดไว้ขึ้น,
ปรับ Speed website, ลงข้อมูลลงบน facebook page ให้ครบถ้วน ตั้งแต่ call to action, shop marketplace ถึงแม้มันจะไม่มีใครสั่งซื้อก็เถอะ แต่ควรมีปุ่มพวกนี้ไ้ว้ให้ครอบคลุม ตามคำแนะนำ
ด้วยอีกเหตุผลนึงที่กล่าวข้างต้น ที่ผมพูดเรื่อง "ความใส่ใจ" ใส่ใจ คำนี้ของผมหมายถึง นิสัยลูกค้าของผม จะมีการสอบถาม อะไรก็ตาม ผมตอบแบบเป็นมิตรทุกครั้ง
ไม่ว่าจะขายสินค้าได้หรือไม่ได้ก็ตาม เพราะส่วนนี้ เป็นหัวใจหลักในการบริการต้องได้ใจลูกค้า จะนำไปสู่การปิดการขายได้ดีอีกทางนึง
(เว็บไซต์มีส่วนเสริม คือ Facebook Messenger ติดตั้งไว้รองรับการพูดคุย กับลูกค้า)
หัวใจหลักที่ผมคาดการณ์ว่าทำให้ยอดขายดี นั้นคือ “บทความ” ส่วนนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนมากที่สุดที่จะทำให้เว็บไซต์ หรือ Fanpage ไม่ล้างเป็นป่าช้า
พยายามเขียนบทความกันเยอะๆ นะครับแม้มันจะเปลืองเวลาแต่ถ้าทำอะไรที่เราชอบ และเราถนัดมันจะเป็นนิสัยเราเอง
สุดท้ายในทุกๆ รายการสั่งซื้อที่สำเร็จนั้น ผมจะพยายามขอให้ลูกค้ารีวิวสินค้ากลับมา, กด like กด Share, หรือแม่แต่กระทั้งแนบลิ้งค์เว็บไซต์ ให้กลับมาดูสินค้าอีก
ขณะที่ทำแบบนี้ทุกครั้งๆ ผมค้นพบว่า Reached กับ Realtime บน Fanpage กับ Website ดูดีขึ้นมากเลยจริงๆ
ปล. หลังจากที่ Facebook กลับมาให้ค่า reached ของเพื่อนที่มีร่วมกันมันอาจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็เป็นได้นะครับ ผมไม่มีหลักการอะไรเลย
นอกจากรับรู้ได้จากยอดขายหมวกดัขึ้น 200-400 บาท / วัน หากอนาคตมีข้อมูลที่มีประโยชน์ผมจะนำกลับมาแบ่งปันนะครับ
สามารถอ่านบทความพร้อมภาพประกอบได้ที่ :
https://www.mommoly.com/review...cebook-goal-to-website-mommoly 
หากบทความที่ผมเขียนมีข้อผิดพลาดหรือเสนอแนะอะไร ผมยินดีรับฟัง พร้อมปรับปรุงเสมอ :'( :'(
ความรู้ทั่วไป
