การเช็คแหล่งที่ีมา ของคู่แข่ง Backlink นั้นเองครับ
ปัยจัย อีก 1 ข้อ ถ้าเราเริ่มทำตามขั้นต้นที่ผมได้แนะไปแล้ว
เครื่องมือเป็นสิ่งสำคัญมากในการวิเคราะห์คู่แข่งแลัปัจจัยหลาย ๆ อย่าง หมั่นศึกษาหาความรู้ไม่ตกเทรนด์ นะครับ
Backlinks คืออะไร สำคัญอย่างไรในการทำ SEO
S : structure โครงสร้างของเว็บไซต์ที่จะต้องเป็น Search engine friendly
C : content เนื้อหาของเว็บไซต์ที่จะต้องมีความเป็นต้นฉบับและมีประโยชน์กับผู้อ่าน
B: backlink การมีลิงค์จากเว็บภายนอกลิงค์เข้ามาที่เว็บไซต์ของเรา
ซึ่งส่วนตัวแล้วสิ่งสำคัญที่สุดและเป็นพื้นฐานสำคัญคือ การสร้าง Content หรือเนื้อหาในเว็บไซต์เรา เพราะสุดท้ายแล้วถ้าทุกอย่างดีหมด ไม่ว่าจะมี backlink กลับมาหาเราจำนวนมาก หรือมีโครงสร้างเว็บไซต์ที่เป็น SEO friendly แล้ว แต่หากเนื้อหาเป็นเนื้อหาที่ไม่ดีเกิดจากทำ spin หรือทำ spam keyword หรือไปก๊อปปี้ใครมาแล้วส่วนอื่นจะดีอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเรื่องที่สำคัญและส่วนตัวผมเองโฟกัสมาตลอดคือต้องทำ content ให้ดีที่สุดก่อนเป็นอย่างแรก เมื่อ Content และ Structure ของเว็บไซต์ดีแล้ว ส่วนสุดท้ายของการทำ SEO ก็คือ การสร้าง Backlink ซึ่งกำลังจะกล่าวถึงในบทความนี้
Backlink หรือ ลิงค์ที่ชี้กลับมาที่เว็บไซต์ของเรานั้น เป็นสิ่งที่บอก Google ให้รู้ว่าเนื้อหาของเว็บไซต์เราได้รับการยอมรับ และมีการทำเป็น referrence กลับมาให้จากเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งยิ่งมีจำนวนมากเท่าไร ก็มีโอกาสที่ Google ก็จะให้คะแนนกับหน้าๆ นั้นมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความการมี backlink จำนวนมากแล้วจะดีเสมอไปนะครับ เพราะ Google ยังต้องดูเรื่องของคุณภาพของเว็บที่ลิงค์กลับมาหาเราด้วย รวมถึงยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ Google นำมาใช้ประกอบการจัดอันดับบนหน้า SERP (serach engine result page) ดังนั้นสิ่งที่เราต้องเข้าใจเบื้องต้นก่อน คือประเภทของ Backlink ชนิดต่างๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.“Natural” Editorial Linksเป็น Backlink ที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ ซึ่งเกิดจากเนื้อหาในเว็บของเราดีและมีประโยชน์ แล้วจึงมีเว็บไซต์อื่นทำการอ้างอิงเนื้อหา เขียนถึงและทำลิงค์กลับมาให้ ยิ่งถ้าหากเป็น Backlink ที่กลับมาจากกลุ่มเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือเช่น เว็บไซต์สถาบันการศึกษา เว็บไซต์ราชการ เว็บไซต์
wiki ต่างๆ และมีเนื้อหาที่สัมพันธ์กับเว็บไซต์ของเรา ก็จะมีโอกาสที่จะทำให้หน้านั้นของเราได้คะแนะที่ดีขึ้นในการจัดอันดับ
2.Manual Link Buildingคือลิงค์ที่เราเป็นคนสร้างขึ้นเอง เช่น
การไป submit เว็บไซต์ของเราตามเว็บ directory ต่างๆ หรือการไปขอแลกลิงค์กับเว็บอื่นๆ และรวมไปถึงการ “ซื้อ” ลิงค์จากที่อื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าซื้อจากบริษัทรับทำ SEO ที่ไม่ได้คุณภาพ คำแนะนำสำหรับ manual link building คือ ถ้าหากต้องการสร้าง backlink ด้วยการ “ซื้อ” แล้ว ควรทำเป็นลักษณะซื้อบทความ editorial และมีลิงค์กลับมาที่เว็บของเรา ผ่านเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ไม่ใช่พวก spam เว็บไซต์ หรือถ้าต้องการสร้าง Backlink เองแล้ว วิธีที่ง่ายที่สุด ก็อาจจะเริ่มด้วย Owned asset ก่อน เช่นการทำ Video content บน Youtube ที่มีลิงค์กลับมาที่เว็บไซต์ การสร้าง Social channels ต่างๆ รวมถึงการสร้างเว็บ Blogs ขึ้นมาเอง เป็นต้น
3.Non-Editorialเป็นพวกลิงค์ที่กลับมาจากคอมเม้นท์ในเว็บไซต์ต่างๆ ที่ให้คนทั่วไปเข้าไปเขียนคอมเม้นท์ได้ใน Guestbook ซึ่งลิงค์ประเภทนี้เป็นลิงค์ที่ Google ให้ความสำคัญน้อยมาก บางเว็บอาจถึงขั้นจัดเป็น spam ได้ ดังนั้นแล้วการมี Backlink กลับมาจากเว็บกลุ่มนี้จำนวนมากๆ กลับเป็นเรื่องที่ควรต้องระวัง ซึ่งแต่ก่อนจะมีพวก automated tools ที่คนทำ SEO (สายดำ) ใช้เพื่อไปสร้าง comment และทำ backlink กลับมาเป็นจำนวนมหาศาล แต่เป็นวิธีที่ไม่แนะนำให้ทำอย่างยิ่ง ซึ่งก็ไม่น่าจะมีใครทำแล้วในปัจจุบัน
เรื่องของ Backlink ก็ยังมีรายละเอียดต่างๆ อีกมาก เช่น
ค่า DA/PA (domain authority/ page authority) เป็นต้น ซึ่งค่อนข้างจะดีเทลพอสมควร แต่สุดท้ายแล้วประเด็นสำคัญเลยก็คือ คุณภาพและเนื้อหาของเว็บไซต์ที่ทำลิงค์กลับมาหาเรานั่นเอง ดังนั้นการเลือกเว็บไซต์ที่เราจะไปสร้างลิงค์กลับมาก็ให้คิดเหมือนกันการจะเลือกคบเพื่อนนั่นแหละครับ คบเพื่อนดีเราก็ย่อมจะดีไปด้วย แต่ถ้าคบเพื่อนไม่ดีแล้ว สุดท้ายก็จะพาเราไปลำบากอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจากhttps://googleanalyticsthailan...B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3/ ควรทำอย่างไรกับ SEO ในวันที่ Backlink ถูกลดความสำคัญ อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าเรากำลังอยู่ในยุค SEO ที่ Backlink กำลังถูกลดความสำคัญลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังๆ Google ได้ลดความสำคัญของ Backlink ลงและประกาศว่ามันไม่ใช่ปัจจัยหลักในการจัดอันดับเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เป็นเพียงหนึ่งในองค์ประกอบของ Rank Brain เพื่อจัดอันดับ
เราจะมีแนวทางในการทำ SEO เพื่อรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร
ก่อนอื่นเราต้องย้อนกลับไปดูก่อนว่า Backlink เคยมีความสำคัญอย่างไร
ในอดีตนั้น Google ได้คิดค้นวิธีการจัดอันดับโดยใช้ Backlink เปรียบเสมือนกับการโหวต ถ้าเว็บไซต์ไหนได้รับ Backlink มากๆแสดงว่าเป็นเว็บไซต์ที่ดี มีคุณภาพ ยิ่งได้รับการโหวตมากๆ มีจำนวน Backlink เยอะก็จะส่งผลดีต่ออันดับของเว็บไซต์ใน SERP ตามไปด้วย แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่าจำนวน Backlink อย่างเดียวยังไม่เพียงพอ Backlink เหล่านั้นต้องมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพด้วย
แล้วทำไม Google ต้องลดความสำคัญของ Backlink
การใช้ Backlink แทนการโหวตก็ดูเป็น Concept ที่ดีอยู่แล้วหนิ แล้วทำไม Google ต้องลดความสำคัญของมันลงด้วยล่ะ ผมคิดว่ามี 3 สาเหตุหลักๆด้วยกันคือ
Backlink ไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพของเว็บไซต์เสมอไป เว็บไซต์ดีๆแต่ไม่มี Backlink ก็มีเยอะแยะไป แต่สิ่งที่แสดงถึงคุณภาพของเว็บไซต์นั้นๆก็คือ บทความอยู่ที่ในเว็บไซต์ต่างหาก นั่นจึงนำเราไปสู่คำกล่าวที่ว่า Content is king!
Backlink ไม่ได้บ่งบอกถึงการโหวตดังเช่นเมื่อก่อน โอเคล่ะว่ามันยังคงมีความสำคัญอยู่ แต่ถ้าลองสังเกตกันดูดีๆ Backlink ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากเจ้าของเว็บไซต์ที่ทำ SEO โดยการสร้างลิงค์โยงกลับมาหาเว็บไซต์ตัวเอง ยังไม่รวมการทำ SEO สายดำมากมายที่ใช้โปรแกรมสร้าง Backlink เป็นจำนวนมากเพื่อหวังหลอกอัลกอริทึ่มของ Google
Social Media ได้ทำให้พฤติกรรมการสร้าง Backlink ของผู้คนเปลี่ยนไปมากๆ ทุกวันนี้เราไม่ต้องแคร์จำนวนของ Backlink อีกต่อไปแล้ว ขอแค่มีเพจใหญ่ๆนำเอาบทความของเราไปแชร์นั่นจะสร้าง Traffic ได้เป็นจำนวนมากยิ่งกว่า ลองถามตัวเองดูสิครับว่าระหว่าง Backlink จำนวน 1,000 จากเว็บไซต์ต่างๆที่ไม่ก่อให้เกิด Traffic กับ Backlink เพียงหนึ่งเดียวที่มาจาก Facebook เพจดังๆที่มีคนติดตามเป็นล้าน คุณจะเลือกอันไหน ผมเลือกอันหลังเพราะมันมี Impact กับ Traffic ที่เข้าสู่เว็บไซต์ของผมและเป็น Traffic ที่มี Engagement มากกว่า
SEO กับ Backlink ในอนาคต
แล้วเราจะมีแนวทางในการรับมืออย่างไรเมื่อ Backlink ถูกลดความสำคัญลงเรื่อยๆ จริงๆแล้วต้องบอกอย่างนี้ครับ อันดับของเว็บไซต์เป็นผลพลอยได้จากคุณภาพของเว็บไซต์ คำถามคือจะทำอย่างไรให้บทความมีคุณภาพและเป็นประโยชน์มากที่สุด ทำอย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายรักบทความของเรามากที่สุด แต่!!!!! บทความที่มีคุณภาพอย่างเดียวจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะพูดกันตามตรง เดี๋ยวนี้ใครๆก็สามารถทำได้ การเขียนบทความให้มีคุณภาพนั้นกลายเป็นเรื่องเบสิคที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องต่อยอดไปจากนั้นก็คือ การทำทั้งเว็บไซต์ให้น่าเชื่อถือ
ประโยคด้านบนนั้นมีความหมายอย่างไร ลองนึกตามดูง่ายๆนะครับ บทความเดียวกัน เขียนเหมือนกันทุกตัวอักษร ถ้านำไปโพสลงใน 2 เว็บไซต์คือ 1.เว็บไซต์โนเนมธรรมดาๆ กับ 2.เว็บไซต์ใหญ่ๆอย่าง Sanook kapook pantip คุณคิดว่าอันดับของใครจะดีกว่ากัน นี่แหละครับความหมายของเว็บไซต์ที่มีน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับ
ผมไม่ได้หมายความว่าต้องทำเว็บไซต์ให้ใหญ่เหมือน Sanook Kapook Mthai Pantip นะครับ และก็ไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์เล็กๆจะไม่มีโอกาสชนะเว็บไซต์ใหญ่ๆได้ เพราะผมเองก็เคยทำ SEO ให้เว็บเล็กๆติดหน้าแรกได้หลายต่อหลาย Keyword แล้ว แต่สิ่งที่ต้องการจะสื่อก็คือ “จะทำอย่างไรให้ Google เชื่อมั่นว่าเว็บไซต์ของเราเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือมากพอสำหรับบทความเรื่องที่กำลังเขียนอยู่ จะทำอย่างไรให้ Google เชื่อมั่นว่าเว็บเรารู้จริงในเรื่องนั้นๆ”
เพราะผมสังเกตอยู่เสมอว่าเว็บไซต์ใดก็ตามถ้าทำ SEO จนติดอันดับในบาง Keyword ได้แล้ว เดี๋ยว Keyword อื่นๆที่เกี่ยวข้องมันจะค่อยๆตามมาเอง ไม่รู้คิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า (ลองเปิด Google Analytics สังเกตดูสถิติของเว็บไซต์ตัวเองตามไปด้วยก็ได้ครับ Organic Traffic มันจะ Growth จาก Longtail Keyword ที่คล้ายกันรวมกัน)
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่ามีความสำคัญต่อการทำ SEO ในยุคปัจจุบันก็คือบทความนั้นจะต้องมีความน่าสนใจจนผู้อ่านอยากนำไปแชร์ต่อด้วย (Shareable content) การเขียนบทความที่กลุ่มเป้าหมายอ่านแล้วอยากจะเอาไปแชร์ต่อใน Social Media ให้เพื่อนๆของเขาได้อ่านกัน และผมก็ยังเชื่อหมดใจเลยว่า Google ให้น้ำหนักกับ Social signal มากด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจากhttp://hooktalk.com/backlink-in-the-future/