ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปCryptocurrencyบิตคอยน์ สะเทือนวงการธนาคาร ”ญี่ปุ่น-สหรัฐ” อ้าแขนรับ
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: บิตคอยน์ สะเทือนวงการธนาคาร ”ญี่ปุ่น-สหรัฐ” อ้าแขนรับ  (อ่าน 1107 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pokemonzone
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 26 มกราคม 2018, 23:01:40 »


บิตคอยน์ สะเทือนวงการธนาคาร ”ญี่ปุ่น-สหรัฐ” อ้าแขนรับ



  วันที่ 25 ม.ค.2561 เวลา 13.30 น. ที่ห้องบอลรูม โรงแรมพูลเเมน บางกอก คิงพาวเวอร์ กรุงเทพฯ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เเถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม SMEs Academy เเละระบบการเรียนรู้ อิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้โครงการสร้างเเละพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์เเละนวัตกรรม

  ภายในงานมีการเสวนาในหัวข้อ “เศรษฐกิจดิจิทัลกับการขับเคลื่อนประเทศสู่ระบบเศรษฐกิจใหม่” โดย “ดร.เฉลิมรัฐ นาควิเชียร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มโอ-แซด คอม เน็ตดีไซน์ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จะเห็นว่าอินเทอร์เน็ตในยุคนั้นมีเพียงเเค่ MSN, YAHOO, GOOGLE คนอาจเข้าใจว่าดิจิทัลในยุคนั้นคือการก็อปปี้แล้ววาง แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่ ขณะนี้มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 4 พันล้านคน ที่เข้าถึงในโซเชียล ทั้งอินเทอร์เน็ตและอีคอมเมิร์ซได้เข้ามาเชื่อมโยงกัน ปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ “ตอนนี้ที่เราจะได้ยินบ่อยๆ คือ บล็อกเชนเเละบิตคอยน์”

  สำหรับ “บล็อกเชน” คือเครือข่ายเก็บข้อมูลแบบหนึ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูล หากเปรียบเทียบในปัจจุบันกับเครือข่ายของอินเทอร์เน็ต จะเห็นว่ามี Google,ไลน์, ทวิตเตอร์, อินสตาเเกรม เช่นเดียวกัน ภายใน “บล็อกเชน” มีการข้อมูลสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1000 สกุลเงิน โดยที่ได้ยินกันอย่างมากในขณะนี้คือ “บิตคอยน์” สกุลเงินในรูปแบบของดิจิทัลอย่างหนึ่ง ที่มีมาแล้วกว่า 6-7 ปี

  ดร.เฉลิมรัฐ อธิบายว่า การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบของธนาคารในปัจจุบัน ข้อมูลจะต้องถูกส่งไปที่ธนาคารในส่วนของการหักเงินออกจากบัญชี เเต่บิตคอยน์สามารถโอนเงินให้กันได้เองโดยไม่ผ่านตัวกลาง เงินจะถูกตัดออกจากระบบไปเอง เเละหากโอนเงินข้ามประเทศ สามารถนำบิตคอยน์ไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลในประเทศที่ไม่มีกฎหมายห้ามใช้บิตคอยน์ หรืออาจโอนเข้าบัตรประเภทเครดิต เดบิต มาสเตอร์ วีซ่าที่มี เเล้วให้ปลายทางรูดบัตรใช้ได้เลย ซึ่งบัตรจะตัดเงินบินคอยน์ออกไป



  @ญี่ปุ่น “บิตคอยน์” เป็นสกุลเงินถูกกฎหมาย

  กรณีประเทศจีนยอมรับบิตคอยน์หรือไม่นั้น ดร.เฉลิมรัฐ กล่าวว่า ในจีนใครถือบิตคอยน์จะถูกลงโทษ แต่จาก 2 ปีที่ผ่านมา ปรากฎว่านักขุดบิตคอยน์กว่า 80% อยู่ในประเทศจีน

  เมื่อถามว่านักขุดบิตคอยน์คือใคร บอกได้ว่าคือ “กลุ่มคนที่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์คุณภาพสูง คอยรันข้อมูลเข้าไปหาดาต้าต่างๆ ตรวจสอบข้อมูลการเงินดิจิทัล โมดิฟายข้อมูลต่างๆ เเล้วป้อนเข้าสู่ระบบบิตคอยน์ ซึ่งไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีคนถือหุ้น ระบบของบิตคอยน์มันแฟร์กับทุกคน ซื้อขายได้ทั่วโลก ค่าธรรมเนียมต่ำ เเละนักขุดบิตคอยน์จะได้เงินจากค่าธรรมเนียม”

  โดยอาจเรียกได้ว่าประเทศจีนไม่ได้บอกว่า บิตคอยน์ผิดกฎหมาย แต่อย่างไรก็ยังไม่อนุมัติให้มีการเเลกเงินบิตคอยน์มาเป็นเงินหยวน

  นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่นในช่วงมีนาคม-เมษายน ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้รองรับว่า บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย สามารถใช้ซื้อของภายในประเทศ ตามร้านอาหาร ห้าง ซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ โดย 1 บิตคอยน์มีมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท แต่เมื่อมีผู้ใช้งานบิตคอยน์เพิ่มมากขึ้น การโอนข้อมูลในระบบบล็อกเชนก็จะช้าลง เปิดช่องทางให้กับเงินสกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆ

@ระบบการเงินระดับโลกเข้าสู่ 4.0 ที่เเท้จริง

  ดร.เฉลิมรัฐ กล่าวว่า การเงินยุคเเรกเเละยุค 2 คือช่วงที่หาตัวกลางมาเเลกเปลี่ยน เช่น เอาทองคำมาเเปรเป็นธนบัตร เงินตรา หรือเก็บไว้สร้างทุนสำรองประเทศ  จากนั้นคือยุคที่ 3 เงินแปรไปเป็นตัวเลข ใช้เเอปฯโอนจ่ายอ้างอิงกัน ใช้ธนาคารมาดูเเลความน่าเชื่อถือระหว่างกัน

  เเละยุคที่ 4 คนตัดสินใจได้เอง ไม่มีอะไรปิดกั้น อินเทอร์เน็ต คนเลือกรับสื่อ ภาคการเงินโอนเงินผ่านกันโดยไม่ผ่านตัวกลาง คือธนาคาร

  “ในยุคนี้ต้องหาสิ่งมาเเทนทองคำ บิตคอยน์ราคานำทองคำไปแล้ว กองทุนต่างๆ ก็เอาเงินไปเก็บไว้ที่บิตคอยน์ อเมริกามองบิตคอยน์เป็นตราสารการเงิน ไม่ต่างจากทองคำ น้ำมัน ยางพารา ซึ่งเเลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ ทำให้ราคาบิตคอยน์สูงขึ้นเรื่อยๆ ทะยานนำราคาทองคำไปเป็นที่เรียบร้อย”

@บิตคอยน์ คือการพนัน ?

  สำหรับคำถามที่ว่า บิตคอยน์ คือการพนันหรือไม่ ดร.เฉลิมรัฐ ตอบว่า เมื่อสหรัฐรับบิตคอยน์เป็นตราสารเเล้ว ประเทศอื่นต้องใช้เเนวคิดเทียบเคียงกัน ซึ่งในตลาดทุนมีเเนวรับเเล้ว เเต่ฝั่งตลาดเงินไม่เอาเเน่ เพราะบิตคอยน์มีเเนวคิดทำลายระบบกลาง ซึ่งก็คือธนาคาร คาดการณ์ได้ว่าว่าธนาคารคงไม่ยอมรับเเน่นอน

  “สกุลเงินดิจิทัลเป็นการพนันบางสกุลเงิน หากวันไหนเราใช้บิตคอยน์ ประเทศจะเกิดวิกฤตทางการเงิน มีปัญหาทางการเมืองทันที”

@ธนาคารเริ่มปรับตัว บล็อกเชนปฏิวัติฟินเทคโลก

  ด้าน ดร.ธนภูมิ ดำรักษ์ Co-Founder บริษัท เซ็ท โรบอท จำกัด กล่าวถึงกรณีบิตคอยน์จะกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร ว่า ในด้านของการเงินบล็อกเชนได้เปลี่ยนสินทรัพย์เงินในธนาคารให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อบิตคอยน์เข้ามา ผู้คนสามารถโอนเงินให้กันเองได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคาร ปัจจุบันจะเห็นว่าธนาคารในประเทศไทยเริ่มมีการปรับตัวมากขึ้นเพื่อเตรียมรับมือ อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีการปรับลดสาขา-พนักงานลง

  “บล็อกเชนจะเข้ามาปฏิวัติฟินเทคของโลกโดยสิ้นเชิง การลงทุนหรือขอกู้เงินจากธนาคารในอดีต หากไม่มีฐานทรัพย์ ไม่มีข้อมูลก็ไม่สามารถกู้เงินธนาคารได้ แต่ต่อไปนี้ คุณสามารถขอกู้เงิน โอนเงินให้กันเองได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคาร ประเทศไทยจะต้องปรับตัวเพื่อไม่ให้เป็นประเทศที่ล้าหลัง เราเริ่มช้า ต่างชาติเข้ามาในไทยแล้ว ถ้าไม่ศึกษาหรือปล่อยผ่าน จะเสียโอกาสในหลายๆ อย่าง”

  ดร.ธนภูมิ กล่าวอีกว่าบล็อกเชน สามารถทำสัญญาทางการเงินระหว่างกันได้ รวมถึงนำมาใช้จัดเก็บข้อมูล เมื่อบันทึกข้อมูลไปแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถือเป็นการปฏิวัติระบบการจัดเก็บข้อมูล

  “ต่อไปไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือเอกชน องค์กรต่างๆ ต้องมาพิจารณาระบบนี้ เพราะบล็อกเชนจะเปลี่ยนแปลงระบบการจัดเก็บทุกสิ่ง ต่อไปจะเป็นยุคของดิจิทัล บล็อกเชนจะเข้ามามีสัดส่วนเรื่อยๆ ต้องเรียนรู้เอาไว้ เเละปรับตัวจะได้เปรียบ”



@โอกาสไทยจะเปลี่ยนมาใช้บิตคอยน์มีเเน่นอน…แต่ควรมอง 2 ด้าน

  ดร.ธนภูมิ กล่าวว่า ไทยไม่สามารถหนีบิตคอยน์พ้น เห็นได้ว่าร้านอาหารบางร้านรองรับการจ่ายเงินเเบบบิตคอยน์ เมื่อคนทุกประเทศใช้กันมากขึ้น ก็ต้องยอมรับ บิตคอยน์มาเเน่นอน ต้องมารอดูว่ามาตอนไหนเเค่นั้นเอง

  “อย่างไรก็ตามอย่าลืมที่จะดูว่า บิตคอยน์คืออะไร มีคนใช้กี่คน ทุกอย่างในโลกมี 2 ด้าน อยากให้พิจารณาสองมุม ไม่อยากให้ซื้อไว้เพื่อเกร็งกำไร หากอนาคตไม่มีคนใช้งานบิตคอยน์ มูลค่าก็จะลดลง เเม้ในตอนนี้โอกาสที่คนจะไม่ยอมรับบิตคอยน์น้อยมาก เพราะกลายเป็นมาตรฐานระดับโลก อีกทั้งเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยจะทำให้ดีขึ้น”

@เเนะเตรียมพร้อมจ่ายเงินบิตคอยน์ ศก.ใหม่ดีขึ้น ตลาดเปิดกว้างเสรี

  ด้านดร.สุรพิชย์ พรหมสิทธิ์ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านต่างประเทศของประธานรัฐสภา กล่าวว่า อยากให้เตรียมพร้อมเรื่องการจ่ายเงินบิตคอยน์ในเรื่องของธุรกิจ ผู้ประกอบการควรมองภาพไกลขึ้น อย่ามองเเค่ตลาดในประเทศ ให้มองว่าสินค้าสามารถตอบโจทย์ประเทศไหนได้บ้าง เเล้วการชำระเงินของประเทศนั้นเป็นอย่างไร ในปีนี้ต้องมองภาพรวมมากขึ้น ศึกษาว่าต่างชาติเป็นอย่างไร

  สำหรับในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่จะดีขึ้น ผู้คนสามารถจ่ายเงินกันได้เองโดยไม่ผ่านตัวกลาง ส่งผลให้อิสระทางการเงินสูงขึ้น ตลาดกว้างเเละเสรีมากขึ้น
 
  เมื่อถามว่า ตอนนี้ประเทศไทยเข้าใกล้สังคมไร้เงินสดหรือไม่ ดร.สุรพิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันธนาคารเริ่มกังวลมากขึ้น หาคนร่วมงานเพื่อมาศึกษาวิเคราะห์ เเละเน้นไปในทิศทางการพัฒนาเเอปพลิเคชั่น กระตุ้นให้คนหันมาใช้ ขณะนี้ทุกอย่างถูกเเทนที่ด้วยดิจิทัล ต้องย้อนมาดูว่าภาครัฐจำกัดมากน้อยเเค่ไหน ที่จะให้เศรษฐกิจเติบโตไปกับสกุลเงินใหม่ๆ ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีความพร้อม เพราะภาครัฐของเเต่ละประเทศมีนโยบายไม่เหมือนกัน



 wanwan003
บันทึกการเข้า
(~''๐''~)ปลาแซลมอล
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 60
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,137



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 27 มกราคม 2018, 10:24:29 »

ทำไมข่าวเกี่ยวกับบิทคอยต้องเป็น User กระทู้: 1 ตลอดเลย?
บันทึกการเข้า
Oii
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 27 มกราคม 2018, 10:26:42 »

ทำไมข่าวเกี่ยวกับบิทคอยต้องเป็น User กระทู้: 1 ตลอดเลย?

ผมก็ไม่เข้าใจ บอกว่าอยากมาให้ความรู้ แต่ทำตัวเหมือนมาสแปมเพื่อทำให้บิทคอยมัวหมอง  Sad
บันทึกการเข้า
Thanan
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 223
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,624



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 มกราคม 2018, 11:34:57 »

ทำไมข่าวเกี่ยวกับบิทคอยต้องเป็น User กระทู้: 1 ตลอดเลย?

เค้าปกปิดตัวเองครับ
ปกปิดไปทำไม ผมก็ไม่สามารถรู้ได้

 wanwan044
บันทึกการเข้า
jakky
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 558



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 มกราคม 2018, 12:47:55 »

ทำไมข่าวเกี่ยวกับบิทคอยต้องเป็น User กระทู้: 1 ตลอดเลย?

เป็น User เก่าในนี้แหล่ะครับ เวลาเค้าจะโพสอะไรที่มันเกี่ยวกับบิทคอย เค้าจะใช้วิธีสมัครใหม่ แล้วก็โพสครับ wanwan019
บันทึกการเข้า
tn-internet
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 32
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 626



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 27 มกราคม 2018, 13:52:59 »

ส่วนใหญ่ก็ ยูเซอร์เก่าๆแหละ สมัครใหม่ มาอวยบ้าง มาอะไรบ้าง
เห็นข่าว บิทคอย ที่ไร ต้อง ยูเซอร์ใหม่ๆทั้งนั้น
คงเพราะ thaiseo    ติดหน้า 1 ง่าย    ส่วนอีกอย่างคือ พวกเอาไปทำ คอส ก็แคปไปได้ว่า มีแหล่งที่มาจากเว๊บดัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 มกราคม 2018, 13:54:02 โดย tn-internet » บันทึกการเข้า
pokemonzone
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 มกราคม 2018, 14:03:42 »

ส่วนใหญ่ก็ ยูเซอร์เก่าๆแหละ สมัครใหม่ มาอวยบ้าง มาอะไรบ้าง
เห็นข่าว บิทคอย ที่ไร ต้อง ยูเซอร์ใหม่ๆทั้งนั้น
คงเพราะ thaiseo    ติดหน้า 1 ง่าย    ส่วนอีกอย่างคือ พวกเอาไปทำ คอส ก็แคปไปได้ว่า มีแหล่งที่มาจากเว๊บดัง

55555+ Grin

ถ้าจะอ้างเอาไปทำคอส ผมว่าเอาเว็บ news.bitcoin.com กับ cointelegraph.com และ coindesk.com ดีกว่าครับ เป็นเว็บแหล่งข่าว Bitcoin และ Crypto ของโลก

หรือในไทยก้อาจเอา Siamblockchain.com แต่เว็บนี้ก็เอาข่าวจากด้านบนมาแปลอีกที และใช้ Google Translate ช่วยแปลด้วย

เว็บนี้เคยดังมากนะ โดยเฉพาะ 2009 - 2010 ติดหน้าแรกคีย์ SEO เลยหละ ได้ Top 1 ซะด้วย แล้วตอนนี้แหละ

อืม ก็ยังมีเหลือให้ติดหน้าแรกพวก Niche Keyword ง่ายๆ นะ

ออกมาจากป่าได้แล้วครับ ยุค Backlink Is King มันตายไปแล้ว

แม้ BL ยังสำคัญต่ออันดับ แต่ต้อง BL จากเว็บที่มี Content เดียวกัน อีกทั้ง BL ต้องมาจากหน้าเว็บที่คนสนใจเยอะๆ

 wanwan004


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์