ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปCryptocurrencyธนาคารกลางจะถือ Bitcoin และ Ethereum ปี 2018 กล่าวโดย CEO Blockchain
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ธนาคารกลางจะถือ Bitcoin และ Ethereum ปี 2018 กล่าวโดย CEO Blockchain  (อ่าน 985 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
siamcrypto
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 15 มกราคม 2018, 17:11:25 »


ธนาคารกลางจะถือ Bitcoin และ Ethereum ในปี 2018 กล่าวโดย CEO Blockchain



  นาย Peter Smith CEO ของ Blockchain ซึ่งเป็นผู้ให้บริการกระเป๋าสตางค์สำหรับ Cryptocurrency ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายรองจาก Coinbase ระบุว่าธนาคารกลางจะเริ่มถือสกุลเงินดิจิตอลหลัก ๆ เช่น Bitcoin และ Ethereum ในปี 2018 นี้

  “ผมคิดว่าปีนี้จะเป็นปีแรกที่เราจะเห็นธนาคารกลางเริ่มถือสกุลเงินดิจิตอลไว้เป็นส่วนหนึ่งของบัญชีงบดุลของพวกเขา โดย Bitcoin นั้นถือเป็น 1 ใน 30 อันดับแรกของสกุลเงินที่หมุนเวียนอยู่ในมือประชาชน (Currency Supply) แล้ว และด้วยความนิยมรวมไปถึงแรงกดดันให้ธนาคารนับ Cryptocurrency เป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนสำรองจะยิ่งเป็นการเร่งให้ราคาของมันสูงขึ้นไปอีกด้วย” นาย Smith กล่าว

ธนาคารกลางบางที่ก็เริ่มถือ Bitcoin แล้ว

  ในเดือนธันวาคม 2017 มีรายงานว่ารัฐบาลประเทศบัลแกเรียถือ Bitcoin เป็นจำนวนมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ในบัญชี ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากการยึดในระหว่างการสืบสวนคดีและการปราบปรามผู้ดำเนินการเว็บตลาดที่ผิดกฏหมาย

โดยในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ของบัลแกเรียได้ทำการยึด Bitcoin ได้เป็นจำนวน 213,519 BTC ซึ่งนับเป็นมูลค่ากว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ (คำนวณจาก 1 Bitcoin เท่ากับ 15,000 ดอลลาร์)

  และด้วยการบังคับใช้กฎหมายในการยึด Bitcoin นี้ ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มได้รับ Bitcoin, Ethereum และ Cryptocurrency อื่น ๆ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดสกุลเงินดิจิตอลมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Bitcoin ที่มีมูลค่าทางตลาดประมาณ 250 พันล้านดอลลาร์ (อ้างอิงจาก CoinMarketCap) และนักวิเคราะห์คาดว่า Bitcoin จะยังคงพัฒนาและเพิ่มมูลค่าจนสามารถแข่งขันกับตลาดทองคำที่มีมูลค่าที่ 8 พันล้านล้านดอลลาร์ได้

  อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารกลางถือครอง Bitcoin และ Cryptocurrency อื่น ๆ ในตลาดอาจเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ของธนาคาร โดยกว่าสองปีเต็มที่ธนาคารกลางและหน่วยงานภาครัฐชั้นนำทั้งในประเทศจีน ยุโรปและสหราชอาณาจักร ได้เริ่มดำเนินการออก Cryptocurrency ของตนเอง

  โดยธนาคารกลางได้ลงทุนเป็นเงินจำนวน 100 ล้านดอลลาร์ในการวิจัยและการพัฒนา Cryptocurrency ขึ้นมา แต่จนเวลาผ่านไป 2 ปีก็ยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานด้วยความมั่นใจและความมักใหญ่ใฝ่สูงเกินไปโดยไม่นึกถึงความเป็นจริงนั่นเอง

  และวัตถุประสงค์ของ Cryptocurrency และเครือข่าย Blockchain นั้นอยู่บนแนวคิด Decentralized กล่าวคือในเครือข่าย Blockchain ผู้ใช้สามารถส่งและรับการชำระเงิน ทำธุรกรรม และส่งข้อมูลแบบ Peer-to-Peer ได้โดยไร้การควบคุมจากธนาคาร

  ในอนาคตนั้น ไม่ว่าธนาคารกลางจะเชื่อในเทคโนโลยีที่คอยสนับสนุน Bitcoin หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สำคัญแล้ว เพราะด้วยมูลค่าการลงทุนและความปลอดภัยของ Bitcoin เพียงอย่างเดียวที่สามารถที่จะทำให้รัฐบาลได้รับจำนวน Cryptocurrency อย่างมหาศาลแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาเริ่มแสดงสัญญาณที่จะให้ Cryptocurrency พัฒนาไปเป็นสกุลเงินสากลที่จะใช้เป็นทุนสำรอง (Global reserve currencies)

 wanwan003
บันทึกการเข้า
thanakorn69
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 428



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 มกราคม 2018, 17:14:29 »

 wanwan009 wanwan009
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์