ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปCryptocurrencyลม เปลี่ยนทิศ ไทยรัฐ เขียนข่าว Bitcoin น่าเชื่อว่า ไม่รู้ลึก ใช้อารมณ์
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ลม เปลี่ยนทิศ ไทยรัฐ เขียนข่าว Bitcoin น่าเชื่อว่า ไม่รู้ลึก ใช้อารมณ์  (อ่าน 1332 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pawawut
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 มกราคม 2018, 23:29:41 »

ลม เปลี่ยนทิศ ไทยรัฐ เขียนข่าว Bitcoin น่าเชื่อว่า ไม่รู้ลึก ใช้อารมณ์ ถ้าผมจะไปตัดสิน นามปากกา ลม เปลี่ยนทิศ ว่าเขียนข่าวมั่วซะทีเดียวก็ไม่ได้ เขาก็อาจเขียนข่าวอื่นๆ ที่เขารู้ลึก รู้จริง เขียนออกมาดีก็ได้

แต่จะดีมาก หากไม่เขียนออกมาเลย เกี่ยวกับ Bitcoin โดยขาดข้อมูล และการศึกษาเชิงลึก Cryptocurrency มันมีรายละเอียดเชิงลึก และมีรายละเอียดมากมาย แม้จะใช้เทคโนโลยี Blockchain เหมือนกัน

แต่ละเหรียญก็มีการพัฒนาแตกต่างกันอีก นอกจากนี้ ตลาด Forex ก็เอา Cryptocurrency เข้าไปเทรด โบรกอันดับหนึ่ง อย่าง XM ก็เปิดเทรด 5 สกุลเงิน Crypto ได้แก่ BTC ,ETH , LTC , DSH , XRP โบรก FBS เปิดเทรด 4 สกุล และ โบรก Exness

ตลาด Forex เป็นตลาดซื้อ-ขาย เงิน Fiat ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งทองคำ ด้วย การที่ตลาด Forex เอา Crypto ไปเปิดเทรด จนยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

อีกทั้ง CME Group ตลาดฟิวเจอร์ใหญ่อันดับหนึ่งของ โลก ก็เปิดเทรด Bitcoin Future รวมทั้ง CBOE ด้วย และปีนี้ Nasdas ก็จะเปิดเทรดด้วยเช่นกัน

เว็บการลงทุนดังๆ ของโลก และเว็บกราฟการเทรด อย่าง Investing.com และ Tradingview ก็แสดง Cryptocurrency เป็นหัวข้อหลัก บนหน้าหลัก และแสดงรายละเอียดการลงทุน เหมือนกับ Fiat และ Gold ไม่ต่างกัน

Bitcoin และเหรียญอื่นๆ ถูกกฎหมายใน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สเปน อังกฤษ รัสเซีย และอีกหลายประเทศ และถูกมองเป็นสินทรัพย์

ทาง กลต. ของอเมริกา กำลังพิจารณา เปิดเทรด Bitcoin ETFs เร็วๆ นี้

หลายๆ คนบอกว่าราคามันผันผวน เกินจะใช้จ่ายจริง แต่ก็มีการเชื่อม Bitcoin และเหรียญอื่นๆ เข้ากับระบบการชำระเงิน หรือ เราสามารถแลกเปลี่ยนเป็น Fiat โอนเข้าบัญชีธนาคารก็ได้

และอย่างธนาคารดังๆ ของโลกหลายแห่งก็ใช้เหรียญ XRP ในการโอนเงินระหว่างประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ก็ใช้ด้วยเช่นกัน หลายๆ ธนาคารเริ่มหันมาสนใจ Blockchain อย่างธนาคารกสิกรไทย ก็จ้างคนมาพัฒนา Blockchain ทำหนังสือค้ำประกัน ทำให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

หลายคนบอกว่า ถ้าหากธนาคารทำเงินดิจิตอล Bitcoin ก็ตาย แต่มุมมองของ CEO ธนาคารไทย และหลายๆ ที่ ไม่มองอย่างนั้น ล่าสุดก็มี CEO กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงศรี รวมทั้ง CEO ของวิซ่า ในไทย ออกมาจัดการพูดเกี่ยวกับการเงินยุคใหม่ และ Bitcoin ช่วงปลายปี 2017 ว่า ธนาคารต้องปรับตัว ไม่อย่างนั้น อยู่ไม่ได้

ผมไม่ได้คิดว่าธนาคารจะแพ้ การเงินไม่มีการแพ้ชนะ เพียงแต่ Bitcoin คือ Big Think เปลี่ยนโลก ของจริง ที่ใช้ Blockchain และเป็นแบบ Decentralized 100% ต่อให้ ธนาคารทำ มันก็เป็นแบบ Centralized อยู่ดีนั่นเองครับ


https://www.thairath.co.th/content/1170900


 Tongue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 มกราคม 2018, 23:30:55 โดย pawawut » บันทึกการเข้า
tesla
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 115



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 มกราคม 2018, 04:28:44 »

ผมแทบไม่อ่านไม่ดูสื่อไทยทั้งออฟไลน์หรือออนไลน์นะครับ อ่านจากข้อเขียนของเจ้าของกระทู้แล้วเขียนได้ดีทีเดียวเลย เลยอยากเพิ่มเติมมุมมองไว้บ้าง

สรุปประเด็นแง่คิดส่วนตัวไว้ดังนี้

1. เงินดิจิตอล Decentralized ตัวเงินขับเคลือนด้วยซอฟต์แวร์ ส่วนระบบธนาคาร Centralized ตัวเงินถูกขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจ นั่นคือ เงินดิจิตอลมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเหมือนซอฟต์แวร์อื่น ในการปรับปรุงเล็กน้อยหรือเพิ่มฟีดเจอร์ต่างๆ
คือมันมีมุมมองทั้งด้านการเงินและด้านซอฟต์แวร์อยู่ในระบบเดียวกัน พิจารณาจากความน่าเชื่อถือ หลากหลายอารมณ์ และการเชื่อต่อกับเงินจริง
การที่สังคมไทย รับรู้เรื่องเงินดิจิตอลถูกบ้างผิดบ้าง ก็เลยนำมาใช้งานถูกบ้างผิดบ้าง หลายกลุ่มนี้จงใจทำผิดเลย เปรียบทียบได้กับการใช้สื่อโซเซียลของคนไทย ซึ่งยังมีการใช้งานที่แย่ๆอยู่เยอะ เมื่อเทียบภาพรวมกับประเทศอื่น คือเมื่อเทียบเป็นเปอร์เซนต์แล้ว คนไทยรับรู้เรื่องเงินดิจิตอลกันมาก มีทั้งที่ถูกและผิดจากกลุ่มคนชอบเอาเปรียบคนอื่นด้วยวิธีผิดๆ
เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เงินดิจิตอลพัฒนาตัวเองได้นิ่งขึ้น เข้ากันได้กับธุรกรรมออนไลน์ มีความน่าถือสูงขึ้น การบิดเบือนข้อมูลจากทั่วโลกจะไม่เกิดผลกระทบกับตัวเงินดิจิตอลมากเหมือนวันนี้

2. เงินดิจิตอลจะไม่มาแทนสกุลเงินของประเทศต่างๆ โลกจริงกับโลกไซเบอร์ยังต่างกันมาก เงินดิจิตอลไม่ได้เชื่อมสกุลเงินจริงเข้ากับโลกออนไลน์เหมือน เพย์พาล แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่จะใช้เหรียญหรือธนบัตรน้อยลง แต่ก็คงใช้เงินดิจิตอลครึ่งๆ
เหมือนรถยนต์ไฟฟ้านั่นละ ถึงยังไงก็มีรถยนต์สันดาปด้วยน้ำมันอยู่เป็นจำนวนมากอีกเป็นร้อยปี เพราะราคารถที่ถูกว่า แต่ในเมืองใหญ่ของโลกรถยนต์สันดาปจะหายไปหมดแน่ เพื่อลดมลภาวะอากาศ เสียง และอุบัติเหตุด้วย
สกุลเงินไม่หายไป เงินดิจิตอลไม่หายไป แต่ธนาคารจะอยู่ยากเพราะคนหันมาใช้เงินออนไลน์มากขึ้น ธนาคารก็เหมือนกับน้ำมันคนเข้าธนาคารน้อยลง รูดบัตรเคดิตน้อยลง กดตู้เอทีเอ็มน้อยลง กำไรก็น้อยลง
เงินดิจิตอล เป็นตัวเร่งให้ธนาคารในอนาคต ต้องแข่งขันกันยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน การกู้ยืม และอื่นๆ ถ้าธนาคารไหนปรับตัวช้าหรือแย่ อยู่ยากแน่ เหมือนดังที่ผู้เชี่ยวชาญทำนายไว้แล้วหลายคน

3. ผมสังเกตุเห็นความเหมือนกันของเงินดิจิตอลและสื่อโซเซียล คือ มันมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะกว่าสกุลเงินจริงพอสมควร อะไรที่เกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือมากก็ย่อมมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย การแลกเปลี่ยนอารมณ์กันได้รวดเร็วและกว้างขวาง มีผลกระทบต่อเงินดิจิตอลด้วย สื่อโซเซียลจะถูกพัฒนาอารมณ์และเหตุผลให้สมดุลมากยิ่งขึ้นในอนาคต แน่นอนว่าจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของเงินดิจิตอลด้วย
การบิดเบือนอารมณ์และข้อมูลในช่วงนี้ ยังถือว่าเยอะอยู่แต่อนาคต จะมีควาสมดุลระหว่างอารมณ์และเหตุผลในออนไลน์มากกว่านี้ เมื่อเงินดิจิตอลยังสามารถใช้เหาผลประโยชน์ได้จากการบิดเบือนความจริง ความโลภ และอารมณ์ของคน มีโซเซียลมีเดียเป็นสื่อที่รวดเร็ว ทำให้ข้อดีและข้อเสียปนเปกันจนหาความชัดเจนยาก รอฝุ่นตลบลงน่าจะมองเห็นอนาคตของเงินดิจิตอลได้ชัดกว่านี้

เงินดิจิตอล เป็นเงินออนไลน์ ที่ถูกผลิตขึ้นจากซอฟต์แวร์ เป็นความท้าทายของทุกคนในโลกยุคหน้าของคนทั้งโลก มันมีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งในตัวมันเอง สกุลเงินดิจิตอล สามารถเกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือแพร่หลายต่อได้ สกุลเงินดิจิตอลจะเข้ามามีบทบาทต่อหลังจากรุ่นพวกเราแน่ จะช้าจะเร็ว จะมากจะน้อย ตอนนี้ตอบได้ยากมากครับ
บันทึกการเข้า

ToMoon@2020 ร่วมกันกดไลท์กดแชร์ คลิปช่อง NASA หรือ ช่อง ESA เพื่อแบ่งปันความก้าวหน้าที่สุดของมนุษย์ให้กับคนที่คุณรัก ร่วมกันไปยืนยันชื่อพวกเราไว้อีกล้านๆ ปีว่า พวกเราคือสิ่งมีชีวิตที่พิเศษสุดๆ สำหรับจักรวาล ToMar@2030
ฟาร์มเฮ้า
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 49
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,014



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 09 มกราคม 2018, 12:17:48 »

ขอบคุณนะครับ แต่ผมสงสัยอย่างนึง

ช่วงนี้มีการสมัครสมาชิกใหม่ตั้งกระทู้แรกเกี่ยวกับ bitcoin ทุกวันเลย อยากรู้ว่าพวกคุณมาจากกลุ่มไหนหรือเว็บไหนกัน

แล้วไปไงมาไงถึงมาที่เว็บ thaiseoboard ได้ มีคนแนะนำมาหรืออย่างไร
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์