ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปCryptocurrencyเห็นหลายคนสนใจ XRP มันไม่ใช้ Blockchain และอันตรายต่อ Bitcoin
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เห็นหลายคนสนใจ XRP มันไม่ใช้ Blockchain และอันตรายต่อ Bitcoin  (อ่าน 1976 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jitdee
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 31 ธันวาคม 2017, 12:48:17 »


เห็นหลายคนสนใจ XRP มันไม่ใช้ Blockchain และอันตรายต่อ Bitcoin



  การพุ่งขึ้นของราคาเหรียญ Ripple (XRP) ในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมาได้สร้างความสนใจให้กับนักเก็งกำไรเหรียญ cryptocurrency อย่างมาก อีกทั้งยังมีข้อวิพากษ์วิจารณ์และความขัดแย้งเกี่ยวกับเหรียญดังกล่าวอีกด้วย โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของเหรียญ Ripple ถูกซื้อขายอยู่ที่ 1.91 ดอลลาร์ต่อเหรียญ และมูลค่าตลาดรวมของมันก็ได้พุ่งขึ้นไปแตะ 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ หลาย ๆ คนสงสัยว่าการพุ่งขึ้นของราคามาสูงขนาดนี้ จะเกิดการ correction ตามมาหรือไม่


Node ฐานข้อมูล VS Blockchain

  Ripple (XRP) กำลังมาแรงอย่างมากในสัปดาห์นี้ เนื่องจากว่ามูลค่าของเหรียญดังกล่าวได้เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เครือข่ายของ Ripple และบริษัทแม่ที่เป็นเจ้าของนาม Ripple Labs นั้นได้วางจุดยืนตัวเองให้เป็นผู้ให้บริการโอนเงินแบบครบวงจร โดยมีระบบโพรโตคอลของเครือข่ายที่เรียกว่า real-time gross settlement system (RTGS) ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือน distributed ledger หรือตัวบัญชีกระจายศูนย์ระหว่าง node ฐานข้อมูลต่าง

  Node หรือตัว server ที่คอยตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถหยิบยื่น “แรงจูงใจ” ให้กับผู้เข้ามาตรวจสอบธุรกรรมเหมือนกับระบบอัลกอริทึ่ม proof-of-work (PoW) ของ Bitcoin เนื่องจากว่าเครือข่ายของมันถูกจัดการโดยเซิฟเวอร์ที่มีเจ้าของ นั่นจึงส่งผลทำให้เครือข่าย Ripple นั้นถูกกล่าวหาว่ามีความเป็น Centralized สูงมาก เนื่องจากว่าเซิฟเวอร์เหล่านั้นถูกควบคุมโดยธนาคาร, ผู้คุมตลาด, และบริษัท Ripple Labs สถาบันการเงินที่กำลังใช้บริการของ Ripple อยู่นั้นประกอบไปด้วย Earthpoint, Fidor Bank, Bank of America, HSBC และธนาคารในไทยอย่างไทยพาณิชย์นั่นเอง

การไร้ Proof of work และมีการ Pre-Mine ที่สูงมาก

  ด้วยการที่เหรียญดังกล่าวไม่ได้ใช้ระบบ PoW และมี node ส่วนตัวที่เอาไว้ใช้ตรวจสอบธุรกรรม นั่นหมายความว่าเหรียญ XRP นับพันล้านเหรียญถูกเสกออกมาในช่วงเปิดตัว Ripple Network โดยมีเหรียญ XRP ที่ถูกนำมาหมุนเวียนอยู่ในตลาดราว ๆ 3.8 หมื่นล้าน XRP ในขณะที่ผู้ก่อตั้งของบริษัทก็กลายเป็นผู้ถือเหรียญเหล่านั้นเอง ส่งผลทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ออกมาแสดงความกังวลว่าเหรียญ XRP จำนวนกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญที่บริษัทกำลังถืออยู่นั้นมีมากกว่าเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดเสียอีก

ความน่าสงสัยของนาย Jed McCaleb

  Ripple นั้นถูกก่อตั้งในปี 2012 โดยนาย Ryan Fugger (ไรอัน ฟัคเกอร์) และนาย Jed McCaleb โดยในช่วงก่อตั้งนั้นมันถูกเรียกว่า Ripplepay โดยนาย McCaleb นั้นเป็นที่รู้ดีกันว่าเป็นผู้ช่วยให้ Mt Gox กับนาย Mar Karpeles สามารถก่อตั้งและสร้างตัวได้ โดยภายหลังจากนั้นนาย McCaleb ได้ทำการรีแบรนด์ Ripplepay ให้กลายเป็น Ripple และได้ทำการโปรโมทฐานข้อมูลสาธารณะจนกระทั่งปลายปี 2013 นาย McCaleb ก็ได้ลาออกจาก Ripple และออกไปตั้งบริษัทใหม่นาม Stellar network ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นตัว fork มาจากโค้ดหลักของ XRP แต่มีขั้นตอนการแจกจ่ายเหรียญที่แตกต่างกัน เมื่อปี 2014 มูลค่าตลาดเหรียญ XRP ร่วงลงมาอย่างรุนแรง เนื่องมาจากข่าวลือที่ว่านาย McCaleb กำลังวางแผนขายเหรียญ XRP จำนวนกว่า 9 พันล้านเหรียญของเขา แต่ข่าวลือดังกล่าวก็ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงปัจจุบันว่าเขาได้ขายเหรียญของเขาจริง ๆ หรือไม่แต่อย่างใด

  ในขณะเดียวกัน ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple อีกคนหนึ่งนาย Chris Larsen ได้บริจาคเหรียญ XRP จำนวน 7 พันล้านเหรียญเพื่อการกุศลในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง โดยหลังจากนั้นนาย McCaleb ก็ได้กลายมาเป็นข่าวอีกครั้ง โดยมีเนื้อหาว่าเขาพยายามขายเหรียญ​ XRP ชองเขาบนเว็บเทรด Bitstamp ภายหลังทาง Ripple Labs ตัดสินใจว่าการขายดังกล่าวนั้นไม่เกิดผลประโยชน์ต่อทางบริษัทแต่อย่างใด จึงทำให้เหรียญ XRP ของเขาถูกอายัดไว้โดยทางบริษัท ซึ่งบ่งบอกถึงความ Centralized ของเหรียญดังกล่าวอย่างแท้จริง

ระบบ Distributed Ledger กับความสามารถในการอายัดเหรียญได้ทั่วโลก

  การอายัดเหรียญ XRP ของนาย McCaleb นั้นส่งผลทำให้บริษัทต้องเผยฟีเจอร์ของ Ripple ที่น่าสนใจออกมา หนึ่งในนั้นก็คือทาง Ripple Labs สามารถอายัดบัญชี XRP ของใครก็ได้ โดยใช้วิธีการสองวิธี วิธีแรกคือการหยุดการทำงานของบัญชีกระเป๋าของบุคคล กับวิธีที่สองคือการหยุดการทำงานของระบบได้ทั่วโลก ความสามารถดังกล่าวนั้นไม่ใช่ข่าวลือแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัท Ripple Labs ได้ออกมาประกาศไว้แล้วเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2014 ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ทางตัวแทนของบริษัทยังได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักเขียนด้านคริปโตอิสระคนหนึ่งนาม Sean Wince เมื่อเดือนเมษายนปี 2015 เกี่ยวกับการทำงานของฟีเจอร์การอายัดบัญชีดังกล่าว

  “ตัวโพรโตคอลของ Ripple จะอนุญาตให้ gateway สามารถตัดสินใจนโยบายของมันเองได้ ดังนั้นผู้ใช้งานมีทางเลือกว่าจะใช้ gateway ที่จะอายัดบัญชี หรือ gateway ที่จะไม่มีการอายัดบัญชี ขึ้นอยู่กับความต้องการของพวกเขา” กล่าวโดยนาง Monica Long หรือรองประธานของฝ่ายการตลาดแห่ง Ripple Labs

  “มันเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่จำเป็นสำหรับเกตเวย์ในการทำงานบนการตัดสินใจของมันเอง นอกจากนี้มันยังสามารถรองรับระบบ ecosystem ที่มีประสิทธิภาพโดยทำการลดความเสี่ยงและสามารถปกป้องผู้ใช้งานได้ ถ้าหากผู้ใช้งานคิดว่าเงินของพวกเขาถูกอายัดไว้อย่างไม่เป็นธรรม พวกเขาสามารถไปฟ้องศาลเอาเองได้”

แม้จะ Centralized แต่ราคา XRP พุ่งกว่า 22,400%

  ปี 2018 ก็ใกล้เข้ามาแล้ว และผู้เชี่ยวชาญต่างก็กังวลว่านักลงทุนจะกระโดดเข้าไปซื้อ Ripple เพราะเชื่อว่ามันจะกลายเป็น “Bitcoin ตัวต่อไป” ผู้คนกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเนื่องจากว่าบริษัทดังกล่าวนั้นถือจำนวนเหรียญ XRP มากกว่าที่มีทั้งหมดในตลาด อีกทั้งทางบริษัทยังมีอำนาจในการอายัดเหรียญ XRP บนกระเป๋าของใครก็ได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตและมือเก๋าส่วนใหญ่นั้นดูเหมือนว่าจะไม่ชอบ XRP สักเท่าไรนัก เนื่องจากว่ามันไม่ได้ใช่ Blockchain และไม่ควรที่จะได้ไปอยู่บน Coinmarketcap ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนผู้เกลียดชัง Ripple จะมีมากขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตลาดแม้แต่น้อย เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจกับการทำกำไรมากกว่าที่จะมาพะวงเรื่องทางเทคนิคดังกล่าว


 wanwan015
บันทึกการเข้า
hangmann2
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 655



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2017, 12:57:10 »

 wanwan035 wanwan035
บันทึกการเข้า

wich2009
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 44
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 860



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2017, 20:27:09 »

ผมรู้จักแต่ bitcoin อื่นๆ ไม่ได้สนใจเลยครับ แล้ว Ripple (XRP) มันเปิดกระเป๋า ที่ไหนอย่างไร ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 ธันวาคม 2017, 20:32:15 โดย wich2009 » บันทึกการเข้า

youtalen
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 55
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,514



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 01 มกราคม 2018, 03:06:13 »

เหรียญที่มีเจ้าของถืออยู่ 20% และตอนนี้ราคาจากวันแรก ๆ ที่อยู่ที่ ไม่กี่บาท พุ่งขึ้นมา 80-100 นับว่าเป็นการก้าวกระโดดแบบ 500-1000%

เห็นมีการคาดการว่า จำนวน 20% ที่เจ้าของถืออยู่มีจำนวนมากกว่าเหรียญที่มีอยู่ในระบบเสียอีก  wanwan009

บันทึกการเข้า

blacksea
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 136



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 มกราคม 2018, 06:07:56 »

ยังไงไม่รู้ แต่ขายไปที่ 90 ละ  wanwan019
บันทึกการเข้า

M0n3yMak3r
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 451



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 01 มกราคม 2018, 09:54:09 »

เหรียญธนาคาร ทำออกมาเพื่อกำจัด bitcoin โดยเฉพาะ เหมาะกับพวกที่ชอบเป็นขี้ข้าระบบเก่าๆ
บันทึกการเข้า
คนไม่มีตัวตน
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 01 มกราคม 2018, 11:40:06 »

เหรียญธนาคาร ทำออกมาเพื่อกำจัด bitcoin โดยเฉพาะ เหมาะกับพวกที่ชอบเป็นขี้ข้าระบบเก่าๆ
คนเล่นเขาเล่นเก็งกำไร ซื้อถูกขายแพง ซื้อมาขายไป ไม่มีใครเป็นขี้ข้าใครหรอก ไปจัดระบบความคิดซะใหม่.
บันทึกการเข้า
aodify
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 57
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 922



ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 01 มกราคม 2018, 13:48:12 »

ส่วนมากคนที่เข้ามาหารายได้จาก เงินดิจิตอล ไม่ว่าจะ bitcoin, ethereum, liitecoin, ripple, bitcoin cash และตัวอื่น น้อยคนที่จะถือมาเก็บไว้ระยะยาว เว้นแต่พวกที่มีหรือซื้อสะสมไว้ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว พวกนีกำไร หลายร้อยเท่า จะขายตอนไหนก็ไม่ขาดทุน แต่ส่วนมาก สายเทรดก็รู้อยู่ ซื้อถูกขายแพง เพราะคือการเกร็งกำไร ไม่มีใครลงทุนซื้อเก็บไว้แบบนานๆ หรอก เพราะความเสี่ยงมันสูง ราคาผันผวนตลอดเวลา

สุดท้ายไม่ว่า สายเทรด สายขุด ก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น จงลงทุนแบบพอดี อย่าเชื่อและฟังใครมาก ตามข้าว และ คิดวิเคราะห์แยกแยะ ด้วย ตลาดนี้หาเงินง่าย แต่ก็จนได้เง่ายเช่นกัน
บันทึกการเข้า

MyHappyy - Heathly & Beauty
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์