นับว่าเป็นโซเชียลยอดนิยมแพลตฟอร์มหนึ่งมีผู้ใช้งานมากมายทั่วโลกเลย สำหรับ Youtube ที่เปิดให้ใช้งานกันได้ในทุกช่วงวัย ซึ่งใน YouTube นั้นก็มีข้อเสียคือ มีวิดีโอที่ไม่เหมาะสม เป็นอันตราย คำพูดหยาบคายในคอมเม้นท์ รวมถึงสิ่งที่ไม่เหมาะกับเด็กมากมาย
โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อช่วงปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่แบรนด์ดังรวมตัวกันถอนโฆษณาออกจาก YouTube ถึงสองครั้ง ครั้งแรกคือปัญหาคอนเทนต์ก่อการร้ายและมีแบนเนอร์โฆษณาไปปรากฏอยู่ในคลิปนั้นๆ ครั้งที่สองที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้คือ เนื้อหาแฝงความรุนแรงต่อเด็กแต่มีเป้าหมายไปที่กลุ่มเด็กๆ รวมถึงคอมเมนท์ที่น่ารังเกียจและหยาบคาย
ทางด้าน Susan Wojcicki ซีอีโอ YouTube ก็ออกมายอมรับถึงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริง และเผยว่าในปี 2018 จะเพิ่มจำนวนคนที่เข้ามาตรวจสอบเนื้อหาที่ผิดนโยบายเป็นหมื่นคน จากที่ผ่านมาอัลกอริทึมสามารถตรวจจับคอนเทนต์รุนแรงและสามารถลบออกจากแพลตฟอร์มได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา และระบบสามารถปักหมุดคลิปรุนแรงได้ถึง 150,000 คลิป และคลิปที่ไม่เหมาะสมกว่า 98% ถูกนำออกภายในหกชั่วโมง
อย่างไรก็ตามอัลกอริทึมยังตรวจจับคอมเมนท์แสดงความโกรธที่เลยเถิดไปเป็น Hate Speech ได้ยาก จึงจำเป็นต้องใช้กำลังคนเข้ามาช่วย เพื่อตวรจสอบได้แม่นยำกว่านั่นเอง และในอนาคตทาง youtube ก็กำลังมองหาการพัฒนาเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใสยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเนื้อหาต่อไป
อื่นๆ
