หากคุณคือนักธุรกิจออนไลน์ นักการตลาด หรือ Content Creator ย่อมรู้จักคำว่า SEO (Search Engine Optimization) หรือการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ปรากฏในอันดับต้นๆ ของ Search Engine อย่างแน่นอน เพราะ SEO คือเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยเพิ่มปริมาณคนเข้าเว็บไซต์ สร้างความประทับใจแก่กลุ่มเป้าหมาย หรือเพิ่มฐานแฟนคลับออนไลน์ ดังนั้นหากใครทำ SEO แล้วประสบความสำเร็จ ก็เหมือนมีนางกวักวิเศษเรียกคนเข้าร้านแบบไม่ขาดสาย
อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยผลตอบแทนจากการทำ SEO แล้วประสบความสำเร็จช่างหอมหวาน SEO จึงเป็นกิจกรรมที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้น ไม่ใช่ทุกคนจะสมหวัง หลายเว็บไซต์ทำ SEO แต่ล้มเหลว เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับเว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่อง SEO และเงินทุนที่สูงกว่าได้
ในฐานะคนที่หลงใหลและหมกหมุ่นด้าน SEO ลองผิดลองถูกมามาก จนสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ปรากฏบนผลการค้นหน้า 1 ของ Google ด้วย Keyword “สอนเล่นหุ้น เก็งกำไร” โดยใช้ต้นทุนหลัก 100 บาทต่อปี ผมจึงเคยมีเพื่อนๆโทรมาปรึกษาว่า “ทำ SEO แล้วอันดับไม่ขึ้น ทำไงดี” ผมจึงขอแชร์วิธีการแก้ปัญหาข้างต้น ซึ่งผมมั่นใจว่า เมื่อท่านลงมือทำตามวิธีการในบทความนี้ เว็บไซต์ของท่านจะทะยานขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของผลการค้นหาแน่นอน
วันหนึ่งคุณอวยได้ข่าวว่า หมู่บ้านเอมีหนุ่มสาวหน้าตาดีและอยากเป็นนักแสดงอยู่จำนวนมาก เขาจึงเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่นั่น เมื่อพบเจอคนที่มีแววโดดเด่น จึงชักชวนมาอยู่ที่ “บ้านปั้นดารา” ซึ่งปกติ คุณอวยจะไปยังหมู่บ้านหรือสถานที่อื่นๆเพื่อชวนคนเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้น บ้านปั้นดาราจึงกลายเป็นแหล่งรวมของหนุ่มสาวจากหลายสถานที่ แต่มีเป้าหมายเดียวกัน
ufabet ที่บ้านปั้นดารา หลังจากหนุ่มสาวทุกคนได้ผ่านการฝึกฝนเป็นดาราแล้ว คุณอวยต้องจัดอันดับหนุ่มสาวโดยพิจารณาจากหน้าตาและฝีมือการแสดงเป็นเกณฑ์ เพราะตำแหน่งนางเอกพระเอกมีปริมาณจำกัด คนที่ลำดับสูงที่สุดจึงได้โอกาสแสดงละครก่อน คนถัดไปก็ได้โอกาสตามมา ในโลกแห่งความจริง ไม่ใช่ทุกคนจะสมหวัง หนุ่มสาวบางคนซึ่งอยู่ในบ้านปั้นดาราอาจไม่ได้แสดงละคร เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานคุณอวยตั้งไว้
วิธีทำงานของ Google
SEP ของ Google ก็ทำงานเหมือนวิธีทำงานของผู้จัดการดาราครับ โดยมี 5 องค์ประกอบหลักคือ
1. Google เปรียบเหมือน บ้านปั้นดารา
2. Google Bot เปรียบเหมือน คุณอวย
3. เว็บไซต์ เปรียบเหมือน ดารา
4. ผู้ใช้งาน Google เปรียบเหมือน สถานีโทรทัศน์
5. link เปรียบเหมือนถนน
1. Google Bot ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของ Google ออกไปเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ต่างๆที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต เช่น ชื่อโดเมนเนม ชื่อบทความหรือเว็บเพจ เป็นต้น
2. Google Bot นำข้อมูลที่ได้มาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Google ที่เปรียบเหมือนบ้านปั้นดารา ขอให้สังเกตว่า การที่ Google Bot จะออกไปเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ต่างๆได้นั้น จะต้องมี “link” ที่เปรียบเหมือนถนนเชื่อมระหว่าง Google กับเว็บไซต์ ดังนั้นต่อให้เว็บไซต์ดีแค่ไหน แต่หากไม่มี link Google ก็ไม่สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลได้
3. เมื่อผู้ใช้ Google ค้นหาสิ่งที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ค้นหาคำว่า “ที่พักเชียงใหม่ ราคาถูก” Google จะค้นในฐานข้อมูลว่า มีเว็บไซต์ไหนบ้างที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “ที่พักเชียงใหม่ ราคาถูก”
4. Google จัดอันดับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง แล้วแสดงบนหน้าผลการค้นหา
หลักเกณฑ์พิจารณาอันดับเว็บไซต์ของ Google
คำถามต่อมาที่สำคัญคือ แล้ว Google มี “หลักเกณฑ์” การจัดอันดับอย่างไร เพราะหากคุณรู้ ก็แค่ทำให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ให้มากกว่าเว็บคู่แข่ง แค่นี้ Google ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธไม่ให้เว็บไซต์คุณขึ้นสู่อันดับสูงๆ ในหน้าแรกๆแล้ว
ซึ่ง “หลักเกณฑ์” การจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google ก็เกี่ยวของกับ “พันธกิจ” หรือเป้าหมายการดำเนินงานของ Google นั่นเอง โดย Larry Page หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Google เคยกล่าวว่า สิ่งที่ Google ทำคือ ” understands exactly what you mean and gives you back exactly what you want” พูดง่ายๆ Google จะหาเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลซึ่งคุณต้องการและเป็นเว็บคุณภาพด้วย (เพราะมนุษย์ต้องการสินค้าคุณภาพ จริงไหมครับ) ซึ่งพันธกิจดังกล่าว ก็เป็นแก่นของหลักเกณฑ์ในการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google
โดยหลักเกณฑ์ที่ Google ใช้พิจารณาอันดับของเว็บไซต์ ในความเห็นผมมีดังนี้
1. usability – เป็นเว็บไซต์ที่อ่านง่าย ค้นหาข้อมูลสะดวก
2. relevance – เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และแก้ปัญหาได้
3. authority – มีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่แหล่งซ่องสุมไวรัสหรือโทรจัน