สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กำลังเผชิญกับวิกฤตรายได้ที่ลดลงอย่างน่าใจหาย ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ที่ตระกูล “มาลีนนท์”
ต้องฝ่าฟันและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมทีวีที่ถาโถมอย่างหนัก
เพราะจุดพลิกของ “
ทีวีดิจิทัล” 24 ช่อง นำพาคู่แข่งรายใหม่ๆ เข้ามาชิงเค้กโฆษณาจนเค้กเหลือก้อนเล็กลง จากพฤติกรรมคนดูที่เปลี่ยนไป
และแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ขยายอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ
ศึกด้านละครก็เช่นกัน
“ช่อง 7” ไม่ใช่คู่แข่งทางตรงที่ผลัดกันแพ้ชนะอีกต่อไป แต่ยังมี
“ช่องวัน ช่อง 8 ช่องจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ก็ตีโอบเข้ามา และเริ่มสร้างความนิยมในหมู่คนดู ซึ่งเป็นกลุ่มคนเมืองและคนรุ่นใหม่ๆ ขณะที่
"ช่อง Work Point ก็มาแรงจัด" โดยเฉพาะรายการวาไรตี้ และกำลังขยายฐานไปสู่ละคร
หากย้อนไปปี 2559 มาถึงปีนี้ เรทติ้งละครหลังข่าวของช่อง 3 ไหลรูดมาตลอด มีเพียง
“นาคี” ละครเรื่องเดียวที่ทำเรทติ้งพุ่งถึง 10 ส่วนล่าสุด
“สายลับจับแอ๊บ” ที่ออนแอร์เมื่อ 21 มิถุนายน จนถึง 26 กรกฎาคม ทำได้แค่ 1.963 จึงต้องรีบอวสานก่อนกำหนด ในวันที่ 3 สิงหาคม
ซึ่งมีแค่ 13 ตอน จากปกติ ออนแอร์ 15 ตอนขึ้นไป
สำหรับ
“รายการข่าว” ที่เคยเป็นหัวใจของการสร้างรายได้รองจาก
“ละคร” หลังจากขาดพิธีกรที่ชื่อ
“สรยุทธ สุทัศนจินดา” เรทติ้งก็ทรุดฮวบ คู่แข่งช่องข่าวและช่องวาไรตี้ต่างแจ้งเกิด ทั้งช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดคนดูไปได้เร็วขึ้น ส่งผลให้รายได้จากโฆษณารายการข่าวหายไปถึง 80%
อ่านต่อ..
http://positioningmag.com/1134453 https://pantip.com/topic/36713005