นรกอยู่ใต้ดินสวรรคอยู่บนฟ้าอย่างนั้นหรือมันอยู่ตรงไหนกันแน่มาหากัน

ที่เขาเรียนกันแบบโน้น เขาว่ามันอยู่ที่อื่น นรกอยู่ใต้ดิน เปรตก็อยู่ในโลกของเปรต เดรัจฉานก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง อยู่ที่ไหนก้ไม่รู้ อสุรกายก็เป็นผีชนิดหนึ่ง อย่างนี้ก็มี เป็นคนละภพคนละแผ่นดิน คนละอะไรเสมอ อ่า แต่เราบอกว่าไม่ใช่ ใจของคนนั่นแหละถ้ามันมีการปรุงแต่งแบบหนึ่งมันก็มีการเกิดผลแบบหนึ่ง มีการปรุงแต่งแบบหนึ่ง มันก็มีผลขึ้นมาแบบหนึ่ง ถ้ามีการปรุงแต่งจิตร้อนเหมือนกับไฟเผานั่นแหละ คือ นรก อะอ่า นรกทางอายตะนะที่พระพุทธเจ้าตรัส ที่มันจริงกว่านรกใต้ดินซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน มีหรือไม่ก็ไม่รู้ ไม่เป็น สันทิฐิโกแล้วก็ต่อตายแล้วโน่นมันจึงจะไปกันได้ นรกที่มีอยู่จริงๆที่นี่กลับไม่สนใจ ไม่สนใจ นรกที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนหรือไปถึงต่อตายแล้วกลับสนใจ นี่มันโง่กี่มากน้อย นรกที่มีอยู่จริงๆ ร้อนใจเมื่อไหร่มันก็เป็นนรกเมื่อนั้น กลับไม่สนใจ และนี่ สันทิฐิโกแท้ๆ ยังไม่เห็น เปรต ก็คือหิว หิวอย่างโง่ที่สุด หิงอย่างบ้าหลังที่สุด กระหายด้วยตัณหา เรียกว่ามันเป็นเปรต คือมันหิวเกินหิว จิตใจบางคราวมันเป็นอย่างนั้น จิตใจของคนโง่นะ มันเป้นอย่างนั้นในบางครั้งคราวเรียกว่ามันเป็นเปรต ทีนี้มาถึง เดรัจฉาน เดรัจฉานก็เป็นอวิชชาเป็นความโง่เป็นความไม่รู้อะไร ถึงรู้ก็เป็นความรู้ผิด รู้ผิดก็มีผลเท่ากับไม่รู้ เมื่อมันไม่รู้มันโง่อย่างนี้ก็คือ สัตว์เดรัจฉาน จิตบางคราวมันเป็นอย่างนั้น อสุรกาย คือความขลาดกลัว ขลาดกลัวอย่างน่าเกลียดชัง น่าละอายที่สุด นี้คือ อสุรกาย นี่น ๔ อย่างนี้เรียกว่า อบาย นรก เปรต เดรัจฉาน อสุรกาย ๔ อย่าง