ต่อไป »

[pinkam0327]

สวัสดี พอดีผมทำแบบสอบแล้วกำลังรวมคะแนนใน excel
ตามรูปปัญหาคือ ผมจะหาจำนวนช้อย "อื่นๆ" แล้วเขาพิมพ์มาแบบอิสระที่ผมวงสีแดงไว้
ส่วนคำที่เหลือมันตายตัวผมหาได้ ไม่รู้ว่ามันจะหาได้ขนาดนั้นไหม ใครพอจะทราบช่วยตอบที ผลลัพธ์มันจะต้องได้ 3 ครับ
 
 

[vvictory]

ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ คือจะนับค่าอื่นๆที่ไม่ใช่ค่าจากตัวเลือกใช่ไหม
ตั้งพวก conditions, rules เอาครับ

อีกวิธีคือ remove duplicates เอา แล้วนับเฉพาะค่าที่เหลือครับ

[plebangkok]

 

[domemall]

  :wanwan017:อยากรู้เหมือนกันครับ

[kaisoft]

ผมมีไอเดียว่าถ้าจะทำต้อง
1. แยกข้อความที่คั่นด้วย , (comma) ออกจากกันก่อนเป็นส่วนๆก่อน
2. เขียน if มาเปรียบเทียบ ว่าข้อความในเซล มันตรงกับตัวเลือกมาตรฐานของเราหรือเปล่า แล้วให้ค่าออกไป เช่น Website = 1 , Booth ตรวจสุขภาพ =2 , Facbook / Line =3 , ป้ายโฆษณาสถานที่ =4 , วิทยุ = 5
3. รายการไหนในเซลที่ค่าไม่ตรงกับตัวเลือกมาตรฐาน ไม่เข้าพวกก็ให้มีค่าเป็น 6 ไป
4. เรียงให้อยู่ใน คอลัมน์เดียวกันแล้วใช้ pivot table มาสรุปให้ก็จะได้ผลลัพธ์แล้ว

จากวิธีทำนี้หากคุณไม่ได้ใช้ vbscript ก็คงต้องเป็นงาน manual ครับผม
ข้อ 2 และ ข้อ 3 ไม่ยาก ข้อ 4 กด pivot ไปแล้วเลือกให้ถูกก็เรียบร้อย
งั้นเหลือแค่ข้อ 1 ลองใช้ Data->Text to Column (ข้อมูล->ข้อความเป็นคอลัมน์) มันช่วยได้ครับ

[/url]
[/url]
[/url]

[kaisoft]

[/url]

[emukidz]

แนะนำอีก 1 แนวทางครับ

• สร้างตารางที่ต้องการสรุปผลแยกออกมา ตัวอย่างก็ที่คอล์ลัมม์ C:D
• ในส่วนที่เป็นข้อความตายตัว ผมใช้สูตร Array {=COUNTIF($A$3:$A$11,"*"&C3&"*")} คือการนับค่าข้อความที่ต้องการ ใส่ * หน้าหลังเพื่อให้หาในกรณที่ตอบหลายข้อ และเป็น Array เพราะหาทั้งหมด ตอนใส่สูตรเสร็จกด Ctrl+Shift+Enter แทนการ Enter ธรรมดา สังเกตจะมีวงเล็บปีกกาหน้าหลังสูตร)
• ในส่วนที่เป็นข้อความอื่นๆ ผมใช้สูตร Array {=SUMPRODUCT((LEN($A$3:$A$11)-LEN(SUBSTITUTE($A$3:$A$11,",","")))/LEN(",")+1)-SUM($D$3:$D$7)} เป็นการประยุกต์ใช้สูตรนับคอมม่า "," (นับได้เอามา +1 เพราะ 1 คอมม่า มี 2 คำตอบ) เพื่อหาจำนวนคำตอบทั้งหมด แล้วเอามาลบค่า sum ข้างบน ก็จะได้อื่นๆ ครับ

[darkknightza]

แนะนำอีก 1 แนวทางครับ

• สร้างตารางที่ต้องการสรุปผลแยกออกมา ตัวอย่างก็ที่คอล์ลัมม์ C:D
• ในส่วนที่เป็นข้อความตายตัว ผมใช้สูตร Array {=COUNTIF($A$3:$A$11,"*"&C3&"*")} คือการนับค่าข้อความที่ต้องการ ใส่ * หน้าหลังเพื่อให้หาในกรณที่ตอบหลายข้อ และเป็น Array เพราะหาทั้งหมด ตอนใส่สูตรเสร็จกด Ctrl+Shift+Enter แทนการ Enter ธรรมดา สังเกตจะมีวงเล็บปีกกาหน้าหลังสูตร)
• ในส่วนที่เป็นข้อความอื่นๆ ผมใช้สูตร Array {=SUMPRODUCT((LEN($A$3:$A$11)-LEN(SUBSTITUTE($A$3:$A$11,",","")))/LEN(",")+1)-SUM($D$3:$D$7)} เป็นการประยุกต์ใช้สูตรนับคอมม่า "," (นับได้เอามา +1 เพราะ 1 คอมม่า มี 2 คำตอบ) เพื่อหาจำนวนคำตอบทั้งหมด แล้วเอามาลบค่า sum ข้างบน ก็จะได้อื่นๆ ครับ

ละเอียดมากครับ เก็บๆ

[gapkkk]

Google App ครับง่ายสุดเลย

[kaisoft]

แนะนำอีก 1 แนวทางครับ

• สร้างตารางที่ต้องการสรุปผลแยกออกมา ตัวอย่างก็ที่คอล์ลัมม์ C:D
• ในส่วนที่เป็นข้อความตายตัว ผมใช้สูตร Array {=COUNTIF($A$3:$A$11,"*"&C3&"*")} คือการนับค่าข้อความที่ต้องการ ใส่ * หน้าหลังเพื่อให้หาในกรณที่ตอบหลายข้อ และเป็น Array เพราะหาทั้งหมด ตอนใส่สูตรเสร็จกด Ctrl+Shift+Enter แทนการ Enter ธรรมดา สังเกตจะมีวงเล็บปีกกาหน้าหลังสูตร)
• ในส่วนที่เป็นข้อความอื่นๆ ผมใช้สูตร Array {=SUMPRODUCT((LEN($A$3:$A$11)-LEN(SUBSTITUTE($A$3:$A$11,",","")))/LEN(",")+1)-SUM($D$3:$D$7)} เป็นการประยุกต์ใช้สูตรนับคอมม่า "," (นับได้เอามา +1 เพราะ 1 คอมม่า มี 2 คำตอบ) เพื่อหาจำนวนคำตอบทั้งหมด แล้วเอามาลบค่า sum ข้างบน ก็จะได้อื่นๆ ครับ

เยี่ยมๆครับ เทพจริง ฟังก์ชั่นนี้ผมไม่เคยใช้เลยทั้ง COUNTIF , SUMPRODUCT และ SUBSTITUTE