ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปGeneral (ถามคุยวิชาการ IM)โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ  (อ่าน 238196 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
koravic001
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1



ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 16:36:29 »

โดนเยอะเลยนะครับ
เริ่มกลัวสิละเรา  wanwan017
บันทึกการเข้า
KPmemory
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 88
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,209



ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 16:38:22 »

คงต้องเป็นไปตามกฎหมาย   wanwan009
บันทึกการเข้า

LoveRomyui88io
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 28
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,682



ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 17:29:36 »

โดนเยอะเลยนะครับ
บันทึกการเข้า

ห้ามใส่ลิงค์พนันครับ ทำอีกลบแอคเค้านะครับ
aodblog.com
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 206
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,115



ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 17:42:09 »

ถ้ายื่นจ่ายแต่แรก สบายเลยครับ  มันมีค่าลดหย่อน เยอะมาก  ของผมบริษัท ขายไปเรื่อยๆ ไม่เสียเสียภาษี มีแต่เสียเวต

ยื่นภาษีให้ถูกไม่น่ากลัวครับ  มีค่าลดหย่อนโครตเยอะ 555   ประกันภัยย กองทุน  งานบริจาค ทำบุญเอามาลดย่อนภาษีได้หมด ถึงว่าบริษัทใหญ่ๆชอบทำบุญ  wanwan007


แต่เคสคุณยัง งงเขารู้ได้ไงครับ  Tongue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 เมษายน 2017, 17:43:38 โดย aodblog.com » บันทึกการเข้า
kritt88
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 204



ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 18:32:36 »

มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี ยังไงก็ต้องยื่นแบบภาษีครับ ยื่นให้ถูกให้ครบดีในระยะยาว
ตอนนี้ขายออนไลน์หรือหารายได้ออนไลน์เป็นที่เพ่งเล็งมากอยู่แล้วด้วยครับ ตราบใดที่เงินวิ่งเข้า-ออกบัญชีธนาคาร ยังไงก็หนีไม่พ้น เส้นทางที่มาของเงินตรวจสอบไม่ยาก
บันทึกการเข้า
everz1230
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237



ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 18:42:30 »

เยอะจริงๆ  Cry Cry
บันทึกการเข้า

Hybrid
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 122
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,294



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #46 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 19:04:25 »

ภาษี 5 แสน นี่เขาวัดจากอะไรครับ ข้อมูลการขายเราก็ไม่ได้แจ้งเขา หรือเขาประมาณการเอาครับ  Tongue Tongue
บันทึกการเข้า
keanwoo
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 20:11:38 »

สวัสดีครับ

ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ

เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงปลายปี 58 ที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน เรื่องมาจบเมื่อต้นปี 59 ครับ ตอนนี้เหตุการณ์ผ่านมาได้ 1 ปีกว่าๆ แล้ว ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ

--------------------------------

1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก...  

   - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ)

   - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ

     ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ

   - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน

   หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน

----------------------------------

2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร?

   ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป

   แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ  (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี)

   ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้

   ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล

   ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ

   สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ

   นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ

---------------------------------

3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง?

   ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น

    - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้

    - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ

    - เข้าหาสรรพากร เพื่อขอคำปรึกษาเลยครับ

    - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ

    - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ

    - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ

    - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ

      ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก  แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ

---------------------------------

4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง?

   ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย

   ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ  เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ

   แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ

---------------------------------

บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ

    1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ

    ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ

    ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน /  ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง

    แล้วคนที่ยืมเงินเราไป  สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ

    2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี

    ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย

    สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้

    เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ


    สู้ๆ ครับ

 wanwan003


เพิ่มเติมนะครับ

ไม่คิดว่าโพสนี้จะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ภาษาที่เขียนเป็นภาษาพูดทั่วไปนะครับ เขียนจากใจเลย

แต่อยากจะบอกว่า เจ้าหน้าที่สรรพากรทุกท่านที่ผมสัมผัสมา น่ารัก และให้ความเมตตา และความช่วยเหลือเป็นอย่างดีครับ แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ต้องทำตามระบบ ตามกฏที่วางไว้ครับ

จุดประสงค์ที่เขียน ไม่ใช่ว่าหน่วยงานรัฐ เรพาะกฏหมายภาษีมีมานานแล้ว เพียงแต่เริ่มเอาจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีคนที่ไม่รู้อีกมากนะครับ

ระบบมันอย่างนี้เราไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามหน้าที่

สิ่งที่แก้ได้ อยู่ที่พวกเราจะปรับตัวครับ ทำตามกฏซะให้ถูกต้อง อย่าหลบ อย่าเลี่ยง แต่ให้วางแผนและบริหารภาษีของเราให้ถูกต้องกันเถอะนะครับ

***** ส่วนภาครัฐ ก็ฟังเสียงประชาชนบ้างก็ดีครับ อย่าลืมว่า ความรู้เรื่องภาษีมันซับซ้อน แต่ยุคนี่ ใครก็ตามที่มีมือถือ ก็สามารถทำ e-commerce ได้แล้วนะครับ

ลองนึกภาพถึงชาวบ้านที่มีมือถือ แล้วโพสขายของซิครับ ทุกคนทำธุรกิจอยู่ แต่แทบจะไม่มีความรู้ทางภาษีจริงๆ เลย แต่ถ้าถึงเวลาโดนเข้า มันโหดร้ายครับ

ถ้าไม่มากเกินไป ให้โอกาสเขากลับตัวเถอะนะครับ แล้วเขาจะมาเป็นกำลังเป็นกระบอกเสียงให้ท่านเหมือนผม เขาจะเตือนคนรอบข้างให้ระวัง ให้ทำอย่างถูกต้องครับ

ส่วนคนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จัดหนักไปตามโทษานุโทษเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 เมษายน 2017, 14:01:36 โดย keanwoo » บันทึกการเข้า

@Roverpost
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 89
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,816



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 20:49:36 »

สวัสดีครับ

ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ

เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ

--------------------------------

1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... 

   - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ)

   - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ

     ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ

   - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน

   หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน

----------------------------------

2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร?

   ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป

   แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ  (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี)

   ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้

   ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล

   ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ

   สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ

   นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ

---------------------------------

3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง?

   ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น

    - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้

    - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ

    - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ

    - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ

    - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ

    - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ

      ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก  แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ

---------------------------------

4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง?

   ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย

   ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ  เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ

   แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ

---------------------------------

บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ

    1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ

    ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ

    ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน /  ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง

    แล้วคนที่ยืมเงินเราไป  สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ

    2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี

    ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย

    สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้

    เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ


    สู้ๆ ครับ

 wanwan003


+1 ให้ครับ ความรู้ดีมากๆ
บันทึกการเข้า

Shibot โปรแกรมแชทบอท พร้อมระบบไลฟ์สด ที่สามารถเพิ่มยอดขายได้จริง
poo1059
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 119
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 655



ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 21:41:44 »

สวัสดีครับ

ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ

เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ

--------------------------------

1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... 

   - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ)

   - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ

     ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ

   - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน

   หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน

----------------------------------

2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร?

   ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป

   แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ  (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี)

   ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้

   ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล

   ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ

   สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ

   นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ

---------------------------------

3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง?

   ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น

    - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้

    - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ

    - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ

    - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ

    - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ

    - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ

      ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก  แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ

---------------------------------

4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง?

   ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย

   ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ  เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ

   แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ

---------------------------------

บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ

    1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ

    ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ

    ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน /  ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง

    แล้วคนที่ยืมเงินเราไป  สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ

    2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี

    ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย

    สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้

    เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ


    สู้ๆ ครับ

 wanwan003


ถ้าเรายอดขายใกล้จะถึง1.8 ต้องจดvatนี้ต้องจดยังไงบ้างค่ะ เตรียมอะไรบ้าง สามารถหาข้อมูลได้ที่ไหนค่ะ
บันทึกการเข้า
aodblog.com
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 206
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,115



ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 22:57:55 »

เอาอันนี้ไปอ้างดูครับ >> http://tax.bugnoms.com/hello-taxpayer-20/

เงินได้ที่ได้รับจากพ่อแม่เพื่อการเลี้ยงดูนั้น แม้จะถือเป็นเงินได้ แต่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 42 (10) แห่งประมวลรัษฎากร โดยระบุไว้ชัดเจนเลยว่า “เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่ได้รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี”

บอกเงินที่อยู่ในบัญชี ไม่ใช้ขายของอย่างเดียว  พ่อแม่ผมให้มาด้วย   wanwan007 



 wanwan019
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 เมษายน 2017, 22:59:27 โดย aodblog.com » บันทึกการเข้า
aodblog.com
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 206
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,115



ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 23:00:07 »

สวัสดีครับ

ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ

เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ

--------------------------------

1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก...  

   - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ)

   - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ

     ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ

   - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน

   หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน

----------------------------------

2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร?

   ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป

   แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ  (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี)

   ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้

   ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล

   ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ

   สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ

   นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ

---------------------------------

3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง?

   ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น

    - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้

    - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ

    - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ

    - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ

    - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ

    - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ

      ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก  แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ

---------------------------------

4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง?

   ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย

   ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ  เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ

   แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ

---------------------------------

บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ

    1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ

    ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ

    ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน /  ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง

    แล้วคนที่ยืมเงินเราไป  สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ

    2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี

    ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย

    สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้

    เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ


    สู้ๆ ครับ

 wanwan003


ถ้าเรายอดขายใกล้จะถึง1.8 ต้องจดvatนี้ต้องจดยังไงบ้างค่ะ เตรียมอะไรบ้าง สามารถหาข้อมูลได้ที่ไหนค่ะ
 เปิดบริษัท  ห้างหุ้นส่วนก็ได้  มันมี หจก กับ หสม แล้ว จดเวต ง่ายมาก เปิดเลย  แต่ บัญชีส่งทุกเดือนนะ  Tongue   เสียค่า vat ทุกเดือนเลย  Tongue Cry
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 เมษายน 2017, 23:07:13 โดย aodblog.com » บันทึกการเข้า
aodblog.com
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 206
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,115



ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 23:05:16 »

พนักงานสรรพากร ควรพูดดีกับเรานะเราเสียเงินให้ มีบางท่าน  บางงเขต  wanwan010  พูดให้ดีหน่อย เขตหาดใหญ่ ยิ้มแย้มดีมากผมบวก AAA ให้เลย
บันทึกการเข้า
Moyzier
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 161
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,212



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 23:12:21 »

โห ถือว่าเยอะมากนะครับ เสียภาษีตั้ง 5 แสน แบบนี้ควรไปคุยกับเค้าดีกว่าครับ พูดดีๆ อาจจะลดให้ก็ได้
บันทึกการเข้า

dez
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 329



ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 23:18:13 »

ความรู้ใหม่เลยนะนี่ ระวังไว้ Cry
บันทึกการเข้า

inthachak
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 141



ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 18 เมษายน 2017, 23:53:04 »

โดนจดหมายเรียกตั้งแต่ต้นปี 59 โดยย้อนหลังปี 56 57 58  เนื่องจากทำธุรกิจขายของออนไลน์ พอรู้จึงปิด web เลยเพราะยอดขายตกลงไปเยอะมาก เรื่องเงียบไป จนต้นปี 60 เจ้าหน้าที่ก็มาที่บ้าน เรียกให้ไปคุยใจก็ไม่อยากไป จนโทรมาขู่ทุกอาทิตย์ พ่อบอกให้ไปคุยดู  ก็ไปโดยเรื่องของจด VAT 7% ทำให้โดนหนักเลย ปี 56  5 หมื่นกว่า  ปี 57 3 แสนกว่า ปี 58 1 แสนกว่า  รวมเกือบ 5 แสน ให้จ่ายในเดือนนี้เกือบ 5 แสน ไม่งั้นโดนค่าปรับ 2  เท่าและค่าปรับจ่ายช้าเดือนละ 1000 รวมล้านนิดๆ และจะฟ้องล้มละลาย
ทางออก
1.   เจรจาขอลด  จะลดได้เยอะไหม เหลือซักแสน ไม่เอา vat มาคิด จะเป็นไปได้  จะลองคุยขอเงินพ่อมาจ่ายแต่ถ้าเยอะมากคงไม่ไหว
2.    ยอมถูกฟ้องล้มละลาย เพราะทรัพย์มีแค่ มอไซค์ 1 คัน ที่เป็นชื่อเรา

เนื่องจากธุรกิจ มันไม่ดีเหมือนก่อน หาเงินก็ไม่ง่าย ไอ้เราก็ไม่ใช่โรงงานผู้ผลิต ซื้อมา ขายไปโดน VAT7%  บอกได้เลยว่า โครตโหดร้ายเลย  เข้าใจว่าต้องจ่ายภาษี แต่โดนขนาดนี้ ล้มเป็นล้ม ให้ละลายไปเลย

ใครมีประสบการณ์  หรือทางออกช่วยแนะนำทีครับ หรือหลังไมค์ได้ครับ


อ่านแล้วเดาว่า ท่านคงจดทะเบียนนิติบุคคลแล้วก็จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ดังนั้น หากซื้อมาขายไป สามารถนำรายจ่ายที่ซื้อมามี vat ก็นำไปเคลมคืนได้ทุกเดือน โดยต้องมีใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ขาย แต่หากผู้ขายขายสินค้าให้ท่านไม่มีใบกำกับภาษี ท่านก็ไม่สามารถนำใบเสร็จรับเงินมาเคลมได้ หลังจากท่านทำการขายสินค้าให้ลูกค้า ต้องออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้า ท่านมี Vat ท่านรับ Vat จากลูกค้ามาเท่าไร ก็ส่งคืนสรรพากรทุกเดือน อันนี้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ยอมส่งให้สรรพากร เก็บมาเองเหมือนรายได้ตัวเอง อันนี้ก็ต้องรับภาระตามใบกำกับภาษี ที่ท่านออกค่ะ ดังนั้น สรรพากร จะต้องสืบหาที่มาที่ไปของรายได้ และรายจ่าย ค่ะ หากขาไหนขาดเอกสารสำคัญ ก็เป็นอันที่ต้องพิสูจน์กันต่อไปค่ะ ขอให้คำปรึกษาเบื้องต้นแค่นี้ก่อนนะคะ
บันทึกการเข้า
subport
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 343



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #56 เมื่อ: 19 เมษายน 2017, 00:50:24 »

สวัสดีครับ

ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ

เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ

--------------------------------

1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... 

   - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ)

   - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ

     ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ

   - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน

   หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน

----------------------------------

2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร?

   ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป

   แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ  (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี)

   ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้

   ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล

   ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ

   สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ

   นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ

---------------------------------

3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง?

   ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น

    - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้

    - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ

    - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ

    - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ

    - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ

    - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ

      ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก  แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ

---------------------------------

4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง?

   ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย

   ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ  เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ

   แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ

---------------------------------

บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ

    1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ

    ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ

    ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน /  ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง

    แล้วคนที่ยืมเงินเราไป  สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ

    2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี

    ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย

    สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้

    เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ


    สู้ๆ ครับ

 wanwan003


ความรู้ระดับ Hi-def ครับ ยกย่อง
บันทึกการเข้า

♦ เชี่ยวชาญระบบ Wordpress เป็นพิเศษ | ปรับแต่งและออกแบบธีม |  ปรึกษาฟรี ไม่ต้องเกรงใจ ทักได้ตลอด
♦ โดย STOMS | โทร.061-569-9591
zentrady115
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 98
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,342



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 19 เมษายน 2017, 12:19:46 »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

keanwoo
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #58 เมื่อ: 19 เมษายน 2017, 13:45:02 »

เอาอันนี้ไปอ้างดูครับ >> http://tax.bugnoms.com/hello-taxpayer-20/

เงินได้ที่ได้รับจากพ่อแม่เพื่อการเลี้ยงดูนั้น แม้จะถือเป็นเงินได้ แต่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 42 (10) แห่งประมวลรัษฎากร โดยระบุไว้ชัดเจนเลยว่า “เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่ได้รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี”

บอกเงินที่อยู่ในบัญชี ไม่ใช้ขายของอย่างเดียว  พ่อแม่ผมให้มาด้วย   wanwan007 



 wanwan019



ชี้แจงอย่างที่บอกได้ครับ แต่จะชี้แจงปากเปล่าไม่ได้ครับ แต่ต้องมีหลักฐาน และเอกสารที่ชัดเจน สมเหตุสมผลครับ

เวลาชี้แจง ต้องชี้แจงทีละรายการครับ เช่น รายการรายรับ ของวันที่ .... เป็นรายการของ ...... แล้วก็ทำหนังสือรับรองรายได้ตรงนี้ว่า เป็นของคนนี้ให้มาจริง พร้อมเซนต์ + แนบสำเนาบัตรประชาชน - อันนี้สรรพากรแนะนำมาครับ

แต่ก็อย่างที่บอกครับ เงินหลายๆ ส่วน เช่น มาจากที่เพื่อนยืมแล้วคืนบ้าง เวลาถึงเวลาจริง ไม่มีใครมายอมเซนต์ให้ครับ เพราะแค่ว่า โดนสรรพากร ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หลายๆ คนหนีหน้าไปเลย
บันทึกการเข้า

keanwoo
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #59 เมื่อ: 19 เมษายน 2017, 13:48:34 »

สวัสดีครับ

ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ

เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ

--------------------------------

1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... 

   - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ)

   - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ

     ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ

   - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน

   หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน

----------------------------------

2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร?

   ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป

   แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ  (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี)

   ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้

   ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล

   ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ

   สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ

   นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ

---------------------------------

3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง?

   ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น

    - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้

    - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ

    - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ

    - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ

    - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ

    - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ

      ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก  แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ

---------------------------------

4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง?

   ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย

   ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ  เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ

   แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ

---------------------------------

บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ

    1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ

    ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ

    ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน /  ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง

    แล้วคนที่ยืมเงินเราไป  สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ

    2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี

    ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย

    สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้

    เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ


    สู้ๆ ครับ

 wanwan003



ถ้าเรายอดขายใกล้จะถึง1.8 ต้องจดvatนี้ต้องจดยังไงบ้างค่ะ เตรียมอะไรบ้าง สามารถหาข้อมูลได้ที่ไหนค่ะ


ไม่ยากครับ

1. ไม่ต้องจดเลย พอถึงเวลาก็เข้าไปโดยอัตโนมัติครับ แต่ต้องจ่าย VAT นะครับ

2. ไปแจ้งจด ภพ30 ที่สรรพากรได้เลยครับ

แนะนำว่า ปรึกษา สนง. บัญชีนะครับ เพราะจด VAT จดเข้าง่าย จดออกยากมากครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.aommoney.com/busine...-%E0%B8%A1%E0%B8%B2#gs.ckX9__s

หรือหาใน google นะครับ

แนะนำว่า ปรึกษา สนง. บัญชี หรือคนที่ทำงานด้านนี้จริงๆ ที่ติดต่อสรรพากรจริงๆ ดีที่สุดครับ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3] 4 5   ขึ้นบน
พิมพ์