กองปราบเรียกประชุมทีมสอบสวนเร่งสำนวนขอออกหมายจับญาติ-คนสนิท "ซินแสโชกุน" รวม 8 คน ด้าน "ปปง." ร่วมสางเส้นทางเงิน
จากกรณี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริหาร บริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งถูกจับกุมได้ที่ จ.ระนอง ระหว่างหลบหนี ภายหลังจัดทัวร์ญี่ปุ่นแบบขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำ แล้วลอยแพผู้เสียหายนับพันคนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ถูกคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 15 เมษายน ได้มีอดีตกรรมการของบริษัท หอบหลักฐานเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)แสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมระบุว่าตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเหมือนกัน ส่วนยอดผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 218 ราย และคาดทั่วประเทศมีผู้เสียหายถูกหลอกดังกล่าวมากกว่า 1 พันราย
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 เมษายน พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พร้อม พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. และคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. ได้เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี รวมทั้งรายละเอียดการสอบสวนในประเด็นต่างๆตามที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการเอาไว้
พล.ต.ต.สุทิน เปิดเผยว่า วันนี้ (16 เม.ย.) ได้เรียกพนักงานสอบสวนมาประชุม เพื่อมาสรุปผลการสอบสวน และการรวบหลักฐานทางคดีทั้งหมด หลังจากที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความที่ บก.ป. ไปแล้วกว่า 200 ราย รวมถึงกลุ่มที่เป็นแม่ข่าย หรือ กรรมการบริษัท 6 ราย และจากหลักฐานทั้งหมดที่ได้มานั้น อยู่ระหว่างเร่งรัดเพื่อสรุปสำนวน ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในส่วนที่เหลือ ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวอ้างถึงหญิงสาวชาวฮ่องกงรายหนึ่งที่ซินแสโชกุน อ้างว่าเป็นนายทุนที่คอยหนุนหลังนั้น ขณะนี้อยู่การสอบสวนว่า มีข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร แต่ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นกล่าวอ้างขึ้นมาลอยๆ ของผู้ต้องหามากกว่า อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้ก็จะต้องตรวจสอบในประเด็นให้ชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนจะขอออกหมายจับเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ในวันที่ 17 เมษายน นี้ เป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่มทบ.11. จำนวน 8 คน ประกอบด้วย น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 55 ปี นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล อายุ 25 ปี และ นายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องและคนสนิทของซินแสโชกุน โดยทางฝ่ายทหารจะนำตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อดำเนินคดีในวันที่ 18 เมษายน นี้อีกด้วย
ขณะที่กรณีของ น.ส.น.ส.ชุติมณฑ์ ศรีเทพ หรือ เฮเลน อายุ 57 ปี นักจัดรายการสถานีสุขภาพความงาม ที่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. แล้วเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 เมษายน เพื่อให้ข้อมูลและยืนยันไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดกับซินแสโชกุน หลังมีภาพปรากฏบนใบโฆษณาทริปเที่ยวโอซากา ของบริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ จำกัด ด้วย ซึ่งจากคำให้การของ น.ส.ชุติมณฑ์ ให้การว่าเคยไปเจอกับซินแสโชกุนที่งานเลี้ยงในงานกิจกรรมล่องเรือสำราญของบริษัทเวลล์เอฟเวอร์ จำกัด ซึ่งมี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ น.ส.ศรัณย์พัชร์ กิติขจรพัชร์ หรือ “ซินแสโชกุน” เป็นเจ้าของบริษัท โดยงานดังกล่าวถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา มีการชักชวนบรรดาสมาชิกมาผู้ร่วมงานกว่า 500 คน ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวเป็นการล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการพบปะของกลุ่มนายทุนเหล่าสมาชิก โดยมีโปรแกรมขึ้นเรือไวท์ออร์คิด ริเวอร์ครูซส์ White Orchid River Cruis โดยไปลงเรือที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ ซึ่งภายในเรือนั้น ทางบริษัทเวลล์ ฯ ได้มีการจัดกิจกรรมชิงรางวัลมากมาย ทั้งในส่วนของการประกวดชุดแฟนซีเครื่องแต่งกายดีเด่น และจับรางวัลแจกให้กับผู้โชคดีที่มาร่วมงาน มีของรางวัลมากมายอาทิ ไอโฟน 7 พลัส ความจุ 256 กิ๊ก จำนวน 4 เครื่อง ทองคำอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการจัดประกวดชุดแฟนซี ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 1 แสนบาทอีกด้วย
รายงานข่าวระบุอีกว่า ภายในงานดังกล่าวนั้น ทางซินแสโซกุน ได้มีการพูดคุยถึงแผนชักชวนเหล่าสมาชิกให้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น พร้อมระบุว่าหากทริปญี่ปุ่นประสบความสำเร็จ ก็จะพาเหล่าสมาชิกเดินทางไปประเทศไต้หวัน และมัลดีฟ รวมทั้งได้มีการพูดถึงบริษัทอลิเชี่ยนอีกด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างการประสานเรียกตัวแทนของบริษัทอลิเซี่ยนเข้าให้ปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน พร้อมตั้งวอร์รูม เพื่อรับแจ้งความผู้เสียหายจากคดีนี้ ขณะนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างนำคำให้การของผู้เสียหายมาวิเคราะห์เพื่อรวบรวมหลักฐานในการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีประมาณเกือบ 10 ราย อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) เจ้าหน้าที่จาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะเดินทางมาประชุมร่วมกับชุดทำงานเพื่อขยายผลตรวจสอบดำเนินการเรื่องเส้นทางการเงินของขบวนการนี้ต่อไปด้วย
ที่มา :
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/750361 เว็บลงท้ายด้วย QQ ระวังดีๆน่ะจ๊ะ (พูดชื่อย่อฟ้องผมไม่ได้น่ะ) อิอิอิอิ <<<<