Joomla ขอแชร์ด้านดีที่ผมชอบ และตรงกับแแนวของเว็บที่ต้องการทำ
Joomla จะสามารถปรับแต่งการแสดงผลหน้าจอได้ยืนหยุ่นมาก เมื่อเทียบกับ WordPress เช่น ในเว็บไซต์มีหมวดหมู่ต่างๆ
iOS
Android
บลาๆๆ
และในแต่ละหมวดก็มีหมวดย่อย เช่น
iOS
- iPhone
- iPad
- Mac
- iOs News
บลาๆๆ
Android
- Android Apps
- Android Games
- รีวิว มือถือ Android
- รีวิว Tablet Android
- Android News
บลา
ใน Joomla สามารถ สร้าง หมวดบทความ สร้างเมนูและโมดูล แยกไปตามหมวดหลักได้ โดยมี Url ของตัวเอง เช่น
เว็บไซต์หลัก สมมุติว่าชื่อ
www.techblog.com (ไม่ใช่เว็บผมนะ)
เราสามารถสร้างหน้าแสดงผลเพื่อแสดงเฉพาะหมวด iOS ได้โดยจะมี URL เฉพาะ เช่น
www.techblog.com/ios และเราสามารถสร้างโมดูล ให้แสดงเฉพาะบทความในหมวดนี้เท่านั้น เช่น บทความล่าสุดหมวด iOS บทความยอดนิยม สร้างหมวดหมู่ย่อย สร้างป้ายโฆษณา แบน
เนอร์ที่สามารถกำหนดให้แสดงเฉพาะในหน้านี้เท่านั้น ส่วนหมวด Android ก็เช่นกัน จะสามารถสร้างหน้าเว็บที่แสดงผลเฉพาะบทความหมวดนั้นอย่างเดียว เช่น
www.techblog.com/android เช่นเดียวกัน เราสามารถสร้างโมดูลให้แสดงเฉพาะบทความในหมวด Android ได้ตามที่เราต้องการ โดยไม่มีหมวดอื่นมาเกี่ยวข้อง อาจจะเป็นบทความล่าสุดหมวด iOS บทความยอดนิยม สร้างหมวดหมู่ย่อย สร้างป้ายโฆษณา แบนเนอร์ ฯลฯ
** การแสดงผลแบบนี้ ใน WordPress ก็ทำได้ แต่ยุ่งยากในการสร้างและบริการจัดการ และหลายคนก็จะทำเป็นเว็บแบบ Subdomain แทน เช่น
www.ios.techblog.com ,
www.android.techblog.com ซึ่งการทำซับโดเมน มันคือเว็บไซต์ใหม่กลายเป็นว่าเหนื่อยในการดูแลมากกว่าการมีเว็บเดียว ยกเว้นคนเก่งๆ ที่ใช้การทำบทความอัตโนมัติได้
เมื่อกูเกิ้ลให้ความสำคัญกับเว็บที่ต้องสดชื่นทุกวัน ด้วยการมีบทความใหม่ๆ อัพเดท กรณีทำเว็บคนเดียว มันก็เหนื่อยในการอัพเดททุก
SubDomain แต่ Joomla จะไม่ค่อยเหนื่อย เพราะแม้จะมีหลายหมวด แต่การตั้งค่าให้แต่ละหมวดมีคุณลักษณะ เหมือน Subdomain การอัพเดทบทความเพียงบางหมวดบางหมวด ก็ถือว่าเว็บมีการเคลื่อนไหวแล้ว เว็บยังไม่ตายยยยย
อย่างการทำเว็บที่เน้น คีย์เวิร์ด ผมว่ามันลงตัวมาก เพราะเราสามารภเอาคีย์เวิร์ดมาทำ หมวดได้เลย เช่น
รถมือสอง
www.autoblog.com/secondhandcars รถใหม่
www.autoblog.com/newcars แต่ความแรงในเรื่อง seo คงแรงสู้ wordpress ไม่ได้
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ การวางแผนทำเว็บไซต์ขนาดใหญ่ มีเนื้อหาจำนวนมาก และต้องมีการปรับแก้ อัพเดทบทความ เว็บแนววิชาการ ราชการ การใช้ Joomla จะจัดการบทความได้ง่ายกว่า ลองเปิดบทความเก่าๆ ใน WordPress ขึ้นมาแก้ไข จะยุ่งยากกว่า เปิดบทความใน Joomla
การทำบทความลง Joomla มีความยืดหยุ่น ด้วยการใช้คำสั่ง html ช่วยในการป้อนบทความ เช่น
<h2>ชื่อหัวข้อ</h2>
<p>รายละเอียดหัวข้อ</p>
<p><img src="ชื่อภาพ"alt="" border="0" /></p>
* ด้วยวิธีนี้ การทำบทความที่มีภาพประกอบเป็นร้อย เป็นพันภาพ จะไม่ต้องมานั่งแทรกเองทีละภาพ เขียนบทความ แล้วแทรกโค้ด html
จากนั้นก็อปปี้ไปวางใน Joomla มันก็จะจัดตัวหนา h1 h2 ... หรือดึงภาพมาแสดงเองอัตโนมัติ
เรื่องภาพประกอบ
ใน WordPress เราสามารถสร้างภาพธัมเนลบทความได้ง่ายมาก แต่หากลองเข้าไปดูในโฟลเดอร์ที่เก็บภาพของ WordPress เมื่อใดที่เราอัพโหลดภาพเข้าไป มันจะมีการสร้างไฟล์เภาพพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ทำให้เปลืองพื้นที่เว็บไซต์ เช่น อัพโหลดภาพชื่อ test.jpg เข้าไป มันจะสร้างไฟล์ภาพเพิ่มขึ้นมาเช่น tes...., test.... ลองเข้าไปดูเองก็แล้วกันอยู่ใน uploads ผมเคยอัพโหลดภาพเข้าไปหลักหมื่นภาพ ปรากฏว่า มันสร้างเพิ่มให้อีก 5 เท่าตัว ได้ไฟล์ขยะเพียบเลย มันไม่สนุกเวลาต้องย้ายโฮสต์
ข้อเสียใน Joomla คือ ปลํ๊กอิน ดีๆ หายาก ต้องเสียเงิน แต่หากชอบอะไรที่เรียบง่าย พอเพียง ปลั๊กอินหรือโปรแกรมเสริมที่มากับตัว Joomla ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
การอัพเดทปลั๊กอินปัจจุบัน Joomla 3.6 ขึ้นไป การอัพเดทปลั๊กอิน ก็สามารถทำผ่านเว็บได้เหมือน WordPress แล้ว กด Update จากหลังบ้านได้เลย แต่ไม่ทุกตัว ส่วนเรื่องน่าเบื่ออีกอย่างก็คือ Joomla มักจะมีปัญหาให้ต้องตามแก้ แทบทุกครั้งที่อัพเดท
การทำเว็บด้วย WordPress นั้นง่ายกว่า Joomla ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก แต่การศึกษา Joomla ต้องใช้เวลา เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของมัน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง
1. หมวดหมู่บทความ เช่น android
2. บทความสำหรับใส่ในหมวด เช่น แนะนำมือถือ Android ราคาประหยัด
3. เมนู เรียกใช้งานหมวดนั้นๆ เช่น android
4. โมดูล แสดงบทความในเมนูที่เรียกใช้งานหมวดนั้น เช่น หน้าแรก | ios | Android | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา ถ้าคลิก Android ก็จะแสดงเฉพาะบทความในหมวด Adnroid เท่านั้น
5. user ที่สร้างบทความ
ก่อนทำบทความ ต้องทำหมวดรอก่อน แล้วจึงทำบทความเพื่อใส่หมวดนั้นๆ ในบทความจะมีส่วนประกอบสำคัญต้องใส่ให้หมด เช่น คีย์
เวิร์ด แท็ก ชื่อผู้เขียน ทุกหมวดต้องทำเมนูเรียกใช้งาน ในเมนูตั้งค่าได้ทุกอย่าง จะแสดงหมวดย่อย แสดงชื่อนักเขียน แสดงจำนวนบทความ แสดงซ่อนภาพธัมเนล ฯลฯ
แล้วจึงสร้างโมดูลเพื่อแสดงเมนูในหน้าจอ จะแสดงตรงไหน แสดงตอนไหน ตัวโมดูลจะสามารถตั้งค่าให้แสดงในโมดูลอื่นได้ เช่น ป้าย
โฆษณา iPhone หรือบทความยอดนิยมหมวด ios ตั้งค่าให้แสดงเฉพาะในโมดูลเมน iOS เท่านั้น เป็นต้น การสร้างโมดูล สามารถแสดงบทความในหมวดหมู่ได้ละเอียด เช่น ดึงบทความที่มีคีย์เวิร์ดเดียวกัน แสดงเป็นบทความ เนื้อหาใกล้เคียง หรือแสดงตามแท็ก
ยังมีอีก คือเรายังสามารถตั้งค่าให้แสดงบทความตาม User ที่สร้างบทความนั้นๆ ได้ เช่น
www.techblog.com/ ชื่อนักเขียน บทความยอดนิยมของนักเขียนคนนั้น
สรุป
นี่คือเรื่องหลักที่ต้องทำความเข้าใจการทำงานของ Joomla ครับ เยอะ และซับซ้อน แต่ถ้าเข้าใจแล้ว ก็เข้าใจเลย แล้วจะต่อไปเชียงคาน เวียงจันทร์ หลวงพระบาง โผล่น่าน ก็ไปได้หมด
แชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ หลายๆ ท่านอาจจะต่างกันไป