ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comพัฒนาเว็บไซต์CMS & Free ScriptWordpress กับ Joomla อันไหนดีกว่ากันครับ
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Wordpress กับ Joomla อันไหนดีกว่ากันครับ  (อ่าน 3445 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
onlineman
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 154



ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 03 เมษายน 2017, 21:10:41 »

เมื่อก่อนผมชอบ joomla แต่เมื่อค้นอากู๋ ส่วนมากเทไป wordpress ซะส่วนใหญ่ แสดงว่ามันต้องมีอะไรดี เลยตามมา อิอิ  wanwan011
บันทึกการเข้า
1ZAA
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 1334
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,531



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 03 เมษายน 2017, 21:28:20 »

แล้วแต่ชอบ และถนัดเลยครับ
บันทึกการเข้า

Clicker
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 32
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,240



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 04 เมษายน 2017, 02:20:14 »

wordpress เลยครับ หาอะไรได้ง่ายกว่า ทั้งความรู้  theme, plugin ใช้งานง่ายกว่า joomla เยอะ
บันทึกการเข้า

ใครมี Bitcoin PM ด่วน
คืนให้ 3 เท่า ต้องการเพียง 1 ฺBTC เท่านั้น

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม PM ได้เลย
nutlove
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 111
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,628



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 04 เมษายน 2017, 02:24:00 »

Wordpress ดีกว่าครับปลอดภัยกว่า Joomla ก่อนหน้านี้มีชื่อเสียงเรื่องช่องโหว่มากๆ
บันทึกการเข้า

VPS , Colocation , Dedicated รับเขียนเว็บไซต์
ChangHost.co /Cloud VPS SSD เพียงวันละ 10บาท   คลิก 
VPS เริ่มต้นที่ 260 บาท ถูกที่สุดในไทย (CPU4CoreRAM5GB)  คลิก 
รับทำเว็บราคาถูก.com
nut_anek
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 149
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 980



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 04 เมษายน 2017, 03:12:47 »

wordpress ครับ มีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ

อีกอย่างมีธีมให้เลือกใช้เป็นล้านครับ 55555  wanwan020
บันทึกการเข้า

time999
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 468



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 04 เมษายน 2017, 09:33:09 »

ตั้งแต่ได้ทำเว็บก็ทำแต่ Joomla ครับสำหรับผมมันอยู่ที่เราใช้ แต่ช่วงนี้ลองทำ WP ทำง่ายกว่าและปลั๊กอินเยอะกว่าโหลดง่าย Joomla ปลั้กอินบางตัวหายากกว่า อยู่ที่แนวการใช้งาน
บันทึกการเข้า

gggcomputer
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 156
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,553



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 04 เมษายน 2017, 13:08:27 »

wordpress ครับป๋ม  wanwan044
บันทึกการเข้า

Miyu
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 120



ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 05 เมษายน 2017, 14:10:08 »

ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดส่วนบุคคลน่ะครับ แต่ถ้าให้เลือก เลือก Wordpress ครับ
บันทึกการเข้า

nuonly
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 143
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,694



ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 05 เมษายน 2017, 14:12:17 »

wordpress ครับ
บันทึกการเข้า

sotraveler
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 05 เมษายน 2017, 14:38:44 »

ผมเคยใช้ทั้งสองที่
ผมว่า Wordpress ดีกว่านะครับ
บันทึกการเข้า

รีวิว โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์
ติดตามรีวิว พร้อมภาพสวย ๆ กับการแนะนำไลฟ์สไตล์ของความ ลักซ์ชัวรี่ บูทีค และโรแมนติก

เข้ามาทักทายและพูดคุยกันได้ ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยครับ
> >  ครบร้อยเมื่อไหร่จะมาเติม : ) < <
FB/SOtraveler.COM
IG :: @sotraveler

[ท่องเที่ยว] ค้นหา : รีวิว โรงแรม , แนะนำ ร้านอาหาร , ไลฟ์สไตล์ , บุฟเฟ่ต์ , Sunday Brunch
nookikza
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 354



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 08 เมษายน 2017, 14:39:56 »

ดีทั้งคู่ค่ะ แรกๆเล่น Joomla แต่หลังๆ นอกใจมาชอบ WP มากกว่าค่ะ  wanwan020
บันทึกการเข้า

รับทำเว็บร้านค้า ❀ สไตล์เกาหลี  ★   น่ารักๆชิคๆ ~*
► Graphic Design ☆  รับทำเว็บ ออกแบบกราฟฟิก น่ารักชิคๆ ราคาเบาๆ ::
manitkr
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 58



ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 08 เมษายน 2017, 20:29:31 »

Joomla ขอแชร์ด้านดีที่ผมชอบ และตรงกับแแนวของเว็บที่ต้องการทำ
Joomla จะสามารถปรับแต่งการแสดงผลหน้าจอได้ยืนหยุ่นมาก เมื่อเทียบกับ WordPress  เช่น ในเว็บไซต์มีหมวดหมู่ต่างๆ
iOS
Android
บลาๆๆ

และในแต่ละหมวดก็มีหมวดย่อย เช่น
iOS
- iPhone
- iPad
- Mac
- iOs News
บลาๆๆ

Android
- Android Apps
- Android Games
- รีวิว มือถือ Android
- รีวิว Tablet Android
 - Android News
 บลา

ใน Joomla สามารถ สร้าง หมวดบทความ สร้างเมนูและโมดูล แยกไปตามหมวดหลักได้ โดยมี Url ของตัวเอง เช่น
เว็บไซต์หลัก สมมุติว่าชื่อ www.techblog.com (ไม่ใช่เว็บผมนะ)
เราสามารถสร้างหน้าแสดงผลเพื่อแสดงเฉพาะหมวด iOS ได้โดยจะมี URL เฉพาะ  เช่น www.techblog.com/ios และเราสามารถสร้างโมดูล ให้แสดงเฉพาะบทความในหมวดนี้เท่านั้น เช่น บทความล่าสุดหมวด iOS บทความยอดนิยม สร้างหมวดหมู่ย่อย สร้างป้ายโฆษณา แบน

เนอร์ที่สามารถกำหนดให้แสดงเฉพาะในหน้านี้เท่านั้น ส่วนหมวด Android ก็เช่นกัน จะสามารถสร้างหน้าเว็บที่แสดงผลเฉพาะบทความหมวดนั้นอย่างเดียว เช่น www.techblog.com/android เช่นเดียวกัน เราสามารถสร้างโมดูลให้แสดงเฉพาะบทความในหมวด Android ได้ตามที่เราต้องการ โดยไม่มีหมวดอื่นมาเกี่ยวข้อง อาจจะเป็นบทความล่าสุดหมวด iOS บทความยอดนิยม สร้างหมวดหมู่ย่อย สร้างป้ายโฆษณา แบนเนอร์ ฯลฯ 

** การแสดงผลแบบนี้ ใน WordPress ก็ทำได้ แต่ยุ่งยากในการสร้างและบริการจัดการ และหลายคนก็จะทำเป็นเว็บแบบ Subdomain แทน เช่น www.ios.techblog.com , www.android.techblog.com ซึ่งการทำซับโดเมน มันคือเว็บไซต์ใหม่กลายเป็นว่าเหนื่อยในการดูแลมากกว่าการมีเว็บเดียว ยกเว้นคนเก่งๆ ที่ใช้การทำบทความอัตโนมัติได้

เมื่อกูเกิ้ลให้ความสำคัญกับเว็บที่ต้องสดชื่นทุกวัน ด้วยการมีบทความใหม่ๆ อัพเดท กรณีทำเว็บคนเดียว มันก็เหนื่อยในการอัพเดททุก
SubDomain แต่ Joomla จะไม่ค่อยเหนื่อย  เพราะแม้จะมีหลายหมวด แต่การตั้งค่าให้แต่ละหมวดมีคุณลักษณะ เหมือน Subdomain การอัพเดทบทความเพียงบางหมวดบางหมวด ก็ถือว่าเว็บมีการเคลื่อนไหวแล้ว เว็บยังไม่ตายยยยย

อย่างการทำเว็บที่เน้น คีย์เวิร์ด ผมว่ามันลงตัวมาก เพราะเราสามารภเอาคีย์เวิร์ดมาทำ หมวดได้เลย เช่น
รถมือสอง www.autoblog.com/secondhandcars
รถใหม่ www.autoblog.com/newcars
แต่ความแรงในเรื่อง seo คงแรงสู้ wordpress ไม่ได้

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ การวางแผนทำเว็บไซต์ขนาดใหญ่ มีเนื้อหาจำนวนมาก และต้องมีการปรับแก้ อัพเดทบทความ เว็บแนววิชาการ ราชการ การใช้ Joomla จะจัดการบทความได้ง่ายกว่า ลองเปิดบทความเก่าๆ ใน WordPress ขึ้นมาแก้ไข จะยุ่งยากกว่า เปิดบทความใน Joomla

การทำบทความลง Joomla มีความยืดหยุ่น ด้วยการใช้คำสั่ง html ช่วยในการป้อนบทความ เช่น
<h2>ชื่อหัวข้อ</h2>
<p>รายละเอียดหัวข้อ</p>
<p><img src="ชื่อภาพ"alt="" border="0" /></p>
* ด้วยวิธีนี้ การทำบทความที่มีภาพประกอบเป็นร้อย เป็นพันภาพ จะไม่ต้องมานั่งแทรกเองทีละภาพ  เขียนบทความ แล้วแทรกโค้ด html

จากนั้นก็อปปี้ไปวางใน Joomla มันก็จะจัดตัวหนา h1 h2 ... หรือดึงภาพมาแสดงเองอัตโนมัติ

เรื่องภาพประกอบ
ใน WordPress เราสามารถสร้างภาพธัมเนลบทความได้ง่ายมาก แต่หากลองเข้าไปดูในโฟลเดอร์ที่เก็บภาพของ WordPress เมื่อใดที่เราอัพโหลดภาพเข้าไป มันจะมีการสร้างไฟล์เภาพพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ทำให้เปลืองพื้นที่เว็บไซต์ เช่น อัพโหลดภาพชื่อ test.jpg เข้าไป มันจะสร้างไฟล์ภาพเพิ่มขึ้นมาเช่น tes...., test.... ลองเข้าไปดูเองก็แล้วกันอยู่ใน uploads ผมเคยอัพโหลดภาพเข้าไปหลักหมื่นภาพ  ปรากฏว่า มันสร้างเพิ่มให้อีก 5 เท่าตัว ได้ไฟล์ขยะเพียบเลย มันไม่สนุกเวลาต้องย้ายโฮสต์

ข้อเสียใน Joomla คือ ปลํ๊กอิน ดีๆ หายาก ต้องเสียเงิน แต่หากชอบอะไรที่เรียบง่าย พอเพียง ปลั๊กอินหรือโปรแกรมเสริมที่มากับตัว Joomla ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

การอัพเดทปลั๊กอินปัจจุบัน Joomla 3.6 ขึ้นไป การอัพเดทปลั๊กอิน ก็สามารถทำผ่านเว็บได้เหมือน WordPress แล้ว กด Update จากหลังบ้านได้เลย แต่ไม่ทุกตัว ส่วนเรื่องน่าเบื่ออีกอย่างก็คือ Joomla มักจะมีปัญหาให้ต้องตามแก้ แทบทุกครั้งที่อัพเดท

การทำเว็บด้วย WordPress นั้นง่ายกว่า Joomla ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก แต่การศึกษา Joomla ต้องใช้เวลา เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของมัน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง
1. หมวดหมู่บทความ  เช่น android
2. บทความสำหรับใส่ในหมวด เช่น แนะนำมือถือ Android ราคาประหยัด
3. เมนู เรียกใช้งานหมวดนั้นๆ เช่น android
4. โมดูล แสดงบทความในเมนูที่เรียกใช้งานหมวดนั้น  เช่น หน้าแรก |  ios | Android |  เกี่ยวกับเรา |  ติดต่อเรา ถ้าคลิก Android ก็จะแสดงเฉพาะบทความในหมวด Adnroid เท่านั้น
5. user ที่สร้างบทความ

ก่อนทำบทความ ต้องทำหมวดรอก่อน แล้วจึงทำบทความเพื่อใส่หมวดนั้นๆ  ในบทความจะมีส่วนประกอบสำคัญต้องใส่ให้หมด เช่น คีย์
เวิร์ด แท็ก ชื่อผู้เขียน ทุกหมวดต้องทำเมนูเรียกใช้งาน ในเมนูตั้งค่าได้ทุกอย่าง จะแสดงหมวดย่อย แสดงชื่อนักเขียน แสดงจำนวนบทความ แสดงซ่อนภาพธัมเนล ฯลฯ

แล้วจึงสร้างโมดูลเพื่อแสดงเมนูในหน้าจอ จะแสดงตรงไหน แสดงตอนไหน ตัวโมดูลจะสามารถตั้งค่าให้แสดงในโมดูลอื่นได้ เช่น ป้าย

โฆษณา iPhone หรือบทความยอดนิยมหมวด ios ตั้งค่าให้แสดงเฉพาะในโมดูลเมน iOS เท่านั้น เป็นต้น การสร้างโมดูล สามารถแสดงบทความในหมวดหมู่ได้ละเอียด เช่น ดึงบทความที่มีคีย์เวิร์ดเดียวกัน แสดงเป็นบทความ เนื้อหาใกล้เคียง หรือแสดงตามแท็ก

ยังมีอีก คือเรายังสามารถตั้งค่าให้แสดงบทความตาม User ที่สร้างบทความนั้นๆ ได้ เช่น www.techblog.com/ ชื่อนักเขียน บทความยอดนิยมของนักเขียนคนนั้น

สรุป
นี่คือเรื่องหลักที่ต้องทำความเข้าใจการทำงานของ Joomla ครับ เยอะ และซับซ้อน แต่ถ้าเข้าใจแล้ว ก็เข้าใจเลย แล้วจะต่อไปเชียงคาน เวียงจันทร์ หลวงพระบาง โผล่น่าน ก็ไปได้หมด  wanwan023
 แชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ หลายๆ ท่านอาจจะต่างกันไป
บันทึกการเข้า
prem726
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 167



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 09 เมษายน 2017, 22:15:37 »

โพส ก่อนหน้าผม กระจ่างครับ ผมใช้ joomla 10 เว็บ และ wp อีก 1 เว็บ
เห็นด้วยครับ
บันทึกการเข้า

lungkao
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 88
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 430



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #33 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2017, 21:13:23 »

เอาที่ถนัด ส่วนเรื่องความปลอดภัย ลองไปดูเอาเองครับ  อย่าใช้ความเชื่อโบราณมาตัดสิน

http://www.cvedetails.com/vendor/1367/Drupal.html

http://www.cvedetails.com/prod.../4096/Wordpress-Wordpress.html

http://www.cvedetails.com/vendor/3496/Joomla.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มิถุนายน 2017, 21:18:05 โดย lungkao » บันทึกการเข้า

sam4444
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 54
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,479



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2017, 22:27:46 »

wordpress ก็โอเคนะครับ
บันทึกการเข้า

nut_anek
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 149
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 980



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #35 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2017, 00:46:41 »

เชียร์ wordpress ครับ

ใช้ง่าย
มีอัพเดทตลอดเวลา
ปลั๊กอินเยอะ
 wanwan020 wanwan020
บันทึกการเข้า

gd,lN
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 96
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,743



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2017, 00:52:57 »

wp อัพเดทบ่อยดีครับ อะไรใหม่ๆ ใส่ก่อนชาวบ้านเลย
บันทึกการเข้า

papiya
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 300



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2017, 02:34:05 »

Wordpress ใช้ง่าย  แต่ผมชอบ Joomla มากกว่า โดยเฉพาะการใช้ module แทรก ads ตรงตำแหน่งที่เราต้องการ ชอบมาก  wanwan020
บันทึกการเข้า
tumwebdee
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3



ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2017, 06:02:06 »

Joomla ขอแชร์ด้านดีที่ผมชอบ และตรงกับแแนวของเว็บที่ต้องการทำ
Joomla จะสามารถปรับแต่งการแสดงผลหน้าจอได้ยืนหยุ่นมาก เมื่อเทียบกับ WordPress  เช่น ในเว็บไซต์มีหมวดหมู่ต่างๆ
iOS
Android
บลาๆๆ

และในแต่ละหมวดก็มีหมวดย่อย เช่น
iOS
- iPhone
- iPad
- Mac
- iOs News
บลาๆๆ

Android
- Android Apps
- Android Games
- รีวิว มือถือ Android
- รีวิว Tablet Android
 - Android News
 บลา

ใน Joomla สามารถ สร้าง หมวดบทความ สร้างเมนูและโมดูล แยกไปตามหมวดหลักได้ โดยมี Url ของตัวเอง เช่น
เว็บไซต์หลัก สมมุติว่าชื่อ www.techblog.com (ไม่ใช่เว็บผมนะ)
เราสามารถสร้างหน้าแสดงผลเพื่อแสดงเฉพาะหมวด iOS ได้โดยจะมี URL เฉพาะ  เช่น www.techblog.com/ios และเราสามารถสร้างโมดูล ให้แสดงเฉพาะบทความในหมวดนี้เท่านั้น เช่น บทความล่าสุดหมวด iOS บทความยอดนิยม สร้างหมวดหมู่ย่อย สร้างป้ายโฆษณา แบน

เนอร์ที่สามารถกำหนดให้แสดงเฉพาะในหน้านี้เท่านั้น ส่วนหมวด Android ก็เช่นกัน จะสามารถสร้างหน้าเว็บที่แสดงผลเฉพาะบทความหมวดนั้นอย่างเดียว เช่น www.techblog.com/android เช่นเดียวกัน เราสามารถสร้างโมดูลให้แสดงเฉพาะบทความในหมวด Android ได้ตามที่เราต้องการ โดยไม่มีหมวดอื่นมาเกี่ยวข้อง อาจจะเป็นบทความล่าสุดหมวด iOS บทความยอดนิยม สร้างหมวดหมู่ย่อย สร้างป้ายโฆษณา แบนเนอร์ ฯลฯ 

** การแสดงผลแบบนี้ ใน WordPress ก็ทำได้ แต่ยุ่งยากในการสร้างและบริการจัดการ และหลายคนก็จะทำเป็นเว็บแบบ Subdomain แทน เช่น www.ios.techblog.com , www.android.techblog.com ซึ่งการทำซับโดเมน มันคือเว็บไซต์ใหม่กลายเป็นว่าเหนื่อยในการดูแลมากกว่าการมีเว็บเดียว ยกเว้นคนเก่งๆ ที่ใช้การทำบทความอัตโนมัติได้

เมื่อกูเกิ้ลให้ความสำคัญกับเว็บที่ต้องสดชื่นทุกวัน ด้วยการมีบทความใหม่ๆ อัพเดท กรณีทำเว็บคนเดียว มันก็เหนื่อยในการอัพเดททุก
SubDomain แต่ Joomla จะไม่ค่อยเหนื่อย  เพราะแม้จะมีหลายหมวด แต่การตั้งค่าให้แต่ละหมวดมีคุณลักษณะ เหมือน Subdomain การอัพเดทบทความเพียงบางหมวดบางหมวด ก็ถือว่าเว็บมีการเคลื่อนไหวแล้ว เว็บยังไม่ตายยยยย

อย่างการทำเว็บที่เน้น คีย์เวิร์ด ผมว่ามันลงตัวมาก เพราะเราสามารภเอาคีย์เวิร์ดมาทำ หมวดได้เลย เช่น
รถมือสอง www.autoblog.com/secondhandcars
รถใหม่ www.autoblog.com/newcars
แต่ความแรงในเรื่อง seo คงแรงสู้ wordpress ไม่ได้

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ การวางแผนทำเว็บไซต์ขนาดใหญ่ มีเนื้อหาจำนวนมาก และต้องมีการปรับแก้ อัพเดทบทความ เว็บแนววิชาการ ราชการ การใช้ Joomla จะจัดการบทความได้ง่ายกว่า ลองเปิดบทความเก่าๆ ใน WordPress ขึ้นมาแก้ไข จะยุ่งยากกว่า เปิดบทความใน Joomla

การทำบทความลง Joomla มีความยืดหยุ่น ด้วยการใช้คำสั่ง html ช่วยในการป้อนบทความ เช่น
<h2>ชื่อหัวข้อ</h2>
<p>รายละเอียดหัวข้อ</p>
<p><img src="ชื่อภาพ"alt="" border="0" /></p>
* ด้วยวิธีนี้ การทำบทความที่มีภาพประกอบเป็นร้อย เป็นพันภาพ จะไม่ต้องมานั่งแทรกเองทีละภาพ  เขียนบทความ แล้วแทรกโค้ด html

จากนั้นก็อปปี้ไปวางใน Joomla มันก็จะจัดตัวหนา h1 h2 ... หรือดึงภาพมาแสดงเองอัตโนมัติ

เรื่องภาพประกอบ
ใน WordPress เราสามารถสร้างภาพธัมเนลบทความได้ง่ายมาก แต่หากลองเข้าไปดูในโฟลเดอร์ที่เก็บภาพของ WordPress เมื่อใดที่เราอัพโหลดภาพเข้าไป มันจะมีการสร้างไฟล์เภาพพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ทำให้เปลืองพื้นที่เว็บไซต์ เช่น อัพโหลดภาพชื่อ test.jpg เข้าไป มันจะสร้างไฟล์ภาพเพิ่มขึ้นมาเช่น tes...., test.... ลองเข้าไปดูเองก็แล้วกันอยู่ใน uploads ผมเคยอัพโหลดภาพเข้าไปหลักหมื่นภาพ  ปรากฏว่า มันสร้างเพิ่มให้อีก 5 เท่าตัว ได้ไฟล์ขยะเพียบเลย มันไม่สนุกเวลาต้องย้ายโฮสต์

ข้อเสียใน Joomla คือ ปลํ๊กอิน ดีๆ หายาก ต้องเสียเงิน แต่หากชอบอะไรที่เรียบง่าย พอเพียง ปลั๊กอินหรือโปรแกรมเสริมที่มากับตัว Joomla ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

การอัพเดทปลั๊กอินปัจจุบัน Joomla 3.6 ขึ้นไป การอัพเดทปลั๊กอิน ก็สามารถทำผ่านเว็บได้เหมือน WordPress แล้ว กด Update จากหลังบ้านได้เลย แต่ไม่ทุกตัว ส่วนเรื่องน่าเบื่ออีกอย่างก็คือ Joomla มักจะมีปัญหาให้ต้องตามแก้ แทบทุกครั้งที่อัพเดท

การทำเว็บด้วย WordPress นั้นง่ายกว่า Joomla ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก แต่การศึกษา Joomla ต้องใช้เวลา เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของมัน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง
1. หมวดหมู่บทความ  เช่น android
2. บทความสำหรับใส่ในหมวด เช่น แนะนำมือถือ Android ราคาประหยัด
3. เมนู เรียกใช้งานหมวดนั้นๆ เช่น android
4. โมดูล แสดงบทความในเมนูที่เรียกใช้งานหมวดนั้น  เช่น หน้าแรก |  ios | Android |  เกี่ยวกับเรา |  ติดต่อเรา ถ้าคลิก Android ก็จะแสดงเฉพาะบทความในหมวด Adnroid เท่านั้น
5. user ที่สร้างบทความ

ก่อนทำบทความ ต้องทำหมวดรอก่อน แล้วจึงทำบทความเพื่อใส่หมวดนั้นๆ  ในบทความจะมีส่วนประกอบสำคัญต้องใส่ให้หมด เช่น คีย์
เวิร์ด แท็ก ชื่อผู้เขียน ทุกหมวดต้องทำเมนูเรียกใช้งาน ในเมนูตั้งค่าได้ทุกอย่าง จะแสดงหมวดย่อย แสดงชื่อนักเขียน แสดงจำนวนบทความ แสดงซ่อนภาพธัมเนล ฯลฯ

แล้วจึงสร้างโมดูลเพื่อแสดงเมนูในหน้าจอ จะแสดงตรงไหน แสดงตอนไหน ตัวโมดูลจะสามารถตั้งค่าให้แสดงในโมดูลอื่นได้ เช่น ป้าย

โฆษณา iPhone หรือบทความยอดนิยมหมวด ios ตั้งค่าให้แสดงเฉพาะในโมดูลเมน iOS เท่านั้น เป็นต้น การสร้างโมดูล สามารถแสดงบทความในหมวดหมู่ได้ละเอียด เช่น ดึงบทความที่มีคีย์เวิร์ดเดียวกัน แสดงเป็นบทความ เนื้อหาใกล้เคียง หรือแสดงตามแท็ก

ยังมีอีก คือเรายังสามารถตั้งค่าให้แสดงบทความตาม User ที่สร้างบทความนั้นๆ ได้ เช่น www.techblog.com/ ชื่อนักเขียน บทความยอดนิยมของนักเขียนคนนั้น

สรุป
นี่คือเรื่องหลักที่ต้องทำความเข้าใจการทำงานของ Joomla ครับ เยอะ และซับซ้อน แต่ถ้าเข้าใจแล้ว ก็เข้าใจเลย แล้วจะต่อไปเชียงคาน เวียงจันทร์ หลวงพระบาง โผล่น่าน ก็ไปได้หมด  wanwan023
 แชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ หลายๆ ท่านอาจจะต่างกันไป


ผมเห็นด้วยกับท่านนี้เป็นอย่างมากนะครับ  wanwan020 wanwan004 wanwan003

งานผมใช้ joomla ทั้งหมด (สำหรับเว็บทั่วไปไม่ใช่เว็บขายของ เพราะใช้ตัวอื่นที่เหมาะสมกว่า)

เครื่องมือทำเว็บก็เหมือนเครื่องมือช่าง หากมีเครื่องมือที่ทำได้ตามใจต้องการทุกอย่าง ย่อมทำให้งานเสร็จสมบูรณ์ ง่ายดาย

- SEO ผมมองว่าอยู่ที่ว่าเราใช้งานมันถูกต้องไหม เพราะ Joomla นั้นก็ Support On Page เต็มที่นะครับ Meta Tag ต่างๆ ก็มีมาให้ครบถ้วนสมบูณ์ดี ใส่ให้ครบตามที่ต้องการก็จบละ

- Layout มีตัวช่วยสร้างหน้าเว็บง่ายๆ ลากวาง ใส่ข้อมูลที่ต้องการ ลากหลายรูปแบบ Responsive ด้วย ใช้ง่ายมากเลยครับ

- Security ส่วนความปลอดภัยนั้น สมัยก่อนยอมรับว่าโดนเจาะบ่อยจริง ๆ (เพราะเมื่อก่อนมันป๊อปปูล่าอ่านะ) ทำให้มีกลุ่มคนที่ขยันสอดส่องความปลอดภัยมันเป็นพิเศษ แต่เดี๋ยวนี้กลุ่มคนเหล่านั้นขยันมาสอดส่อง WP เป็น พิเศษ ( เพราะ WP คนใช้เยอะจะได้แฮกได้เยอะๆ ) มีเครื่องไม้เครื่องมือในการเจาะ WP เยอะแยะมากมาย ท่านอาจจะเห็นว่าเมื่อไม่นานมานั้นมีหลายๆ บั๊ค WP ที่อันตรายๆ ทั้งนั้นเลย ส่วน Joomla รูรั่วน้อยขึ้นเยอะมากในปัจจุบัน และที่สำคัญ เราสามารถลง php firewall เพื่อป้องกันการเจาะได้อย่างดี (อาจจะไม่ 100% ขึ้นอยู่กับความชำนาญของนักเจาะ) แต่โดยทั่วไปมั่นใจได้เลย SQL XSS บั๊คต่างๆ ที่มีรูรั่วทั้วไป มันป้องกันได้ อยากรู้ว่า WP มีตัวเจาะอะไรก็ Keyword คือ "wordpress exploit scanner" เยอะเยอะมากจริงๆ อีกคีย์ "wordpress vulnerability metasploit" ผมไม่ได้มาชี้เป้า แค่อยากให้รู้ว่า WP โดนสอดส่องจากนักเจาะเยอะมากตอนนี้ ส่วนระบบความปลอดภัยของ WP ก็มีเช่นกัน คีย์เวิร์ด คือ "All In One WP Security & Firewall" แต่ว่าก็ต้องขยันอัพเดทกันหน่อยนะ เพราะบั๊คใหม่ๆ สมัยนี้เป็น Zero Day ทำให้อาจจะโดนเจาะก่อนที่จะได้อัพเดทก็เป็นได้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
พิมพ์