สนใจครับ เห็นดีเห็นงามมากๆ ขอสนับสนุนเช่นเดิมครับ
อย่างนึงที่อ่านแล้วรู้สึกอยากเพิ่มเติมคือไม่อยากมองให้มองการแบ่งสายแบบตรงตัวมากไป
เพราะในฐานะที่คนเป็น Influencer ออกมาให้คำจำกัดความนั้น อาจจะมีผลกระทบเยอะอยู่แล้ว
เพราะจริงๆไม่ว่าคุณจะทำ Content SEO หรือจะทำ Corporate SEO นั้น ตามหลักเอิร์ธว่าข้องแวะกับ technical SEO อยู่แล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็น
- On-page factors
- Speed Optimization
- Accelerated Mobile Page(AMP)
- Mobile Friendliness
- Redirection
- กำหนดการ Index, ควบคุม archive
- Pagination ก็สำคัญ
- Internal Linking
เอิร์ธมองว่าพวกนี้ ยังไงเป็นพื้นฐาน ถ้ามีคนนิยามตัวเองว่าเป็นนักทำ SEO แต่เป็นสาย content แล้วไม่ทำพวกนี้ ซึ่งนับเป็น significant factor ผมมองว่าจะเรียกว่า SEO ก็ยากครับ
เสริมให้นะครับผม อยากจะบอกเฉยๆว่า ไครจะทำคอนเทนท์ห้ามละเลยสิ่งเหล่านี้ครับผม
เห็นด้วยกับคุณเอิร์ธ ครับ ที่คนทำ SEO ควรรู้หลายๆปัจจัยที่ครอบคลุมการทำ SEO ทั้งหมด
....................
แต่หลังจากที่สอนมาได้สัก 6 รุ่น ผมก็เลยต้องแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆครับ
เพื่อให้เข้ากับอาชีพและทักษะของผู้เรียน โดยกลุ่มผู้เรียนที่ผมเจอมีดังนี้ครับ
1. คนเริ่มต้นธุรกิจ หรือ เจ้าของธุรกิจ
2. นักเขียนคอนเทนต์ (Content Writer) ซึ่งจะมีเพิ่มมากขึ้นมากๆในอนาคต
3. นักทำเว็บไซต์ มีความรู้พื้นฐานด้าน HTML เป็นอย่างดี
โดยกลุ่มผู้เรียนที่ 1-2 ถ้ารู้ด้านการทำ Content SEO ก็ทำ SEO ได้ครับ
(โดยปล่อยให้ WordPress จัดการ Speed, Mobile Friendliness,Redirection, Index, Archive, Pagination ได้)
กลุ่มผู้เรียนที่ 3 จะรู้ด้าน HTML ด้วย เขาจะเหมาะกับการรู้สิ่งที่ลึกขึ้นไป โดยผมจะเรียกง่ายๆว่าด้าน Technical SEO ครับ
**
คำว่า content seo & technical seo ยังถูกใช้ในเว็บ Yoast อีกด้วย
ฉะนั้นมันจะง่ายในการสอนคน และพัฒนาทีมงานในการทำ SEO ครับ