ผมก็เคยคับ ขายสินค้าได้แล้ว ลูกค้าบอกอีก 2 อาทิตย์โอน
แจ้งที่อยู่แล้วด้วย สุดท้ายไม่เอา
ฮ่าๆ ผมเจอบ่อยครับ
เดี๋ยวนี้ปลงแล้วครับ เจอแบบนี้บ่อยๆ พวกซื้อ คุย 2-3 บรรทัดโอนเลย
พวกไม่ซื้อชวนคุยอยู่ยาวๆเลย 55+ (แต่ก้ต้องคิดในแง่ดีกว่า ไม่ซื้อวันนี้เดี๋ยวเค้าก็มาซื้อวันหลัง)
ถ้ามาซื้อก็ดีใจครับ แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าผม ชิ่งเลยครับ สงสัยคู่แข่งเยอะครับ
ตอบในฐานะคนชอบช้อปปิ้งออนไลน์นะคะ
ถ้าซื้อเร็ว หมายความหาข้อมูลมาแล้ว สำรวจราคาแล้ว อ่านฟีดแบคแล้ว เงินพร้อมแล้ว ฯลฯ มันไม่จำเป็นต้องเสียเวลาถามค่ะ
แต่ถ้าถาม บางทีเราต้องการแค่ข้อมูล ซึ่งถ้าหน้าร้านลงข้อมูลครบส่วนใหญ่คนจะไม่ค่อยถามนะ ยกเว้นสินค้าบางประเภท
ส่วนตัวนะ ถ้าร้านไหนคุยดีเราก็อยากซื้อบ่อยๆ เราเห็นว่าแชทหรือหลังไมค์นี่แหละจุดเปลี่ยนในการรักษาลูกค้าเลย วัดจากตัวเราเอง เราไม่ชอบคุยกับคนขายเพราะการซื้อของออนไลน์มันต้องสะดวก+สมบูรณ์พร้อมที่จะให้ลูกค้าจัดการทุกอย่างเองได้ แค่คลิกต้องจบ
ดังนั้น ถ้าเราคุยกับร้านไหน แสดงว่าเรา
สนใจที่จะซื้อ ไม่งั้นคงกดปิดไปแล้ว
เข้าใจว่ามันต้องมีลูกค้าเวรๆบ้าง5555 อยากแนะนำให้เวลามีคนมาถามคุณลองถามกลับก็ได้ ปกติใช้xxxอยู่หรือเปล่า? เป็นยังไง? ลองoooหรือยัง? ลองขายตรงดูลูกค้าอยู่ในมือแล้วอ่ะ มันต้องติดกับสักราย
ขอบคุณครับ สำหรับไอเดียครับ ผมยินดีบริการลูกค้าเสมอครับ แค่อยากหาวิธีเพิ่มยอดขาย เพราะลูกค้าประเภทที่มาบอกว่าจะเอา แล้วไม่เอา ค่อนข้างเยอะเลยครับ
ส่วนมากก็เรื่องราคา การบริการครับ และทางเลือกที่มีมากกว่า 1 ที่ต้องการ
น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ
ตอบในฐานะลูกค้า คือเราหาข้อมูลสินค้ามามาก และดูอยู่หลายวัน แต่หน้าเว็บข้อมูลที่ให้ยังไม่ชัดเจน ก็เลยถามไป อย่างล่าสุดนี่ ถามไปประมาณ 2-3 รอบ เพราะตอบไม่ค่อยจะตรงคำถาม แต่ราคาร้านเขาถูกกว่าร้านอื่น ก็เลยตัดสินใจซื้อ พอสุดท้าย บอกหาขนส่งไม่ได้ ก็บอกให้ส่งเคอรี่ ไปถามเคอรี่บอกสินค้าชิ้นนี้ไม่ส่ง เพราะใหญ่ยาว
อ้าว แล้วปกตินี่ส่งกันยังไง หรือจะให้ไปรับที่ร้านอย่างเดียวเลยหรือ? จนในที่สุดเลยไปซื้อร้านอื่นแต่รุ่นอื่นเคอรี่ ก็ส่งปกติ
งงกับเขาจริง
ฮ่าๆๆ ผมก็เคยเจอครับ
ผมคิดว่าหากเขาตั้งใจจะซื้อ เขาติดต่อไป ถูกแล้วครับ แต่การที่เขาไม่ซื้อ ณ ตอนนี้ แปลว่าคุณต้องปรับปรุง จากคำถามที่ลูกค้าถาม คำตอบ น้ำเสียง หรือ การให้ข้อมูล จึงทำให้คนที่คุยนานๆ แล้วไม่ซื้อ
และอีกอย่าง หากลูกค้าไม่ซื้อหลังจากคุยแปลว่า มันไม่ตอบโจทย์เขา ไม่ใช่เขาไม่ดี
หากคุยเล่นๆ ผมว่า ไม่มีหรอกครับ แม้แต่คู่แข่งก็ไม่เสียเวลาคุยเล่นหรอก
หรือหากมีก็คง เป็นคู่แข่งที่ธรรมดาๆ และเอาเราเป็นมาตรฐาของเขา
ดังนั้นผมถึงบอกว่า คำตอบอยู่ในคำถามครับ
เหมือนที่ด้านบนเขียนไว้ หากเขาไไม่สนใจ เขาปิดไปเลยไม่ง่ายกว่าหรือ ยิ่งคุยนานแปลว่าสนใจ แต่อาจจะมีบางอย่างที่เขายังกังวล
ผมก็พยายามคิดแบบนั้นนะครับ แต่บางครั้งความจริงมันโหดร้ายกว่านั้นครับ
ตอบในฐานะลูกค้า นะครับ ในมุมมองของผม
สำหรับผม ถ้าตอบให้ข้อมูลผมเร็ว ผมจะพิจารณาซื้อกับร้านนั้นเป็นพิเศษครับ ถึงแม้ว่าราคาจะแพงกว่ากันนิดหน่อย
ขอบคุณครับ
ถามรายละเอียด =
ไม่ซื้อ ถามราคา =
ไม่ซื้อ แต่..
ถามเลขที่บัญชี =
ซื้อ ที่เจอบ่อยๆ คือ ถามว่าส่งของจริงไหม ไม่รู้คิดยังไงถึงถาม แต่คนที่ถามคำถามนี้เกือบ 100% =
ซื้อ ฮ่าๆ เคยเจอเหมือนกันครับ
ผมแนะนำลองแบบนี้นะครับ
ถ้าลูกค้าถามข้อมูลจบแล้ว (แต่ไม่จบด้วยการตกลงซื้อ) ให้เราส่งเลขบัญชีไป และบอกว่าหากสนใจซื้อสามารถโอนเงินได้ที่บัญชีนี้ แต่!ก่อนโอน ให้คอนเฟิร์มกับเราก่อน เพราะตอนนี้สินค้าเหลือน้อย เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา(อันนี้เหมือนบอกประมาณว่าคุณต้องรีบตัดสินใจหน่อยนะ) แล้วก้เทคนิคที่ผมใช้อีกอย่างคือ ถ้าลูกค้าตกลงซื้อแล้ว แต่ยังไม่โอน ผมจะขอชื่อ-ที่อยู่ของลูกค้ามาก่อน โดยบอกว่า ลูกค้าสามารถแจ้งชื่อที่อยู่ไว้ก่อนได้เลย เราจะล็อคสินค้าไว้ให้ และเมื่อโอนแล้วจะสามารถส่งในวันนั้นได้เลย(ถ้าอยุ่ในช่วงเวลาทำการ) ถ้าลูกค้าไม่แจ้งไว้เลยอาจจะส่งสินค้าได้ในวันถัดไป เนื่องจากปริมาณออเดอร์ค่อนข้างเยอะ ไม่สามารถจัดเตรียมได้ทันที วิธีนี้แหละครับ คัดกรองลูกค้าที่จะเอาจริงๆได้ ผมตีว่าประมาณ 70%+ ครับ ถ้าลูกค้ามั่นใจว่าจะโอนจริงๆเขาชอบอยุ่แล้วครับ อยากให้ส่งไว ถึงไว และเราก็รู้ได้เลยครับว่าเขายอมบอกก่อนคือต้องการของเราจริงๆ เพราะพวกที่มาหลอกถามจะไม่ค่อยยอมบอกข้อมูลส่วนตัวให้เรารู้หรอกครับ หรือพวกที่ยังไม่มั่นใจว่าจะโอนก็จะบอกว่า เดี๋ยวโอนแล้ว ค่อยแจ้งนะ อันนี้มีสิทธิ์ไม่โอนเยอะเหมือนกันครับ เพราะเขาตกลงซื้อเพราะความเกรงใจ แก้เขิน แล้วก็เงียบหายไปครับ
สุดยอดไอเดียเลยครับ ขอบคุณมากครับ ผมว่าต้องช่วยแก้ปัญหาของผมได้แน่ๆ เดี๋ยวขอไปลองทดสอบก่อนนะครับ
ตอนนี้เจอแต่ ลูกค้า บอกว่าจะเอา แล้วก็ให้ที่อยู่มา แต่ไม่โอนเงินครับ มาหลอกให้เราสับสน วิชาชีพนี้มีอยู่ทุกทีจริงๆ ครับ
ผมแนะนำลองแบบนี้นะครับ
ถ้าลูกค้าถามข้อมูลจบแล้ว (แต่ไม่จบด้วยการตกลงซื้อ) ให้เราส่งเลขบัญชีไป และบอกว่าหากสนใจซื้อสามารถโอนเงินได้ที่บัญชีนี้ แต่!ก่อนโอน ให้คอนเฟิร์มกับเราก่อน เพราะตอนนี้สินค้าเหลือน้อย เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา(อันนี้เหมือนบอกประมาณว่าคุณต้องรีบตัดสินใจหน่อยนะ) แล้วก้เทคนิคที่ผมใช้อีกอย่างคือ ถ้าลูกค้าตกลงซื้อแล้ว แต่ยังไม่โอน ผมจะขอชื่อ-ที่อยู่ของลูกค้ามาก่อน โดยบอกว่า ลูกค้าสามารถแจ้งชื่อที่อยู่ไว้ก่อนได้เลย เราจะล็อคสินค้าไว้ให้ และเมื่อโอนแล้วจะสามารถส่งในวันนั้นได้เลย(ถ้าอยุ่ในช่วงเวลาทำการ) ถ้าลูกค้าไม่แจ้งไว้เลยอาจจะส่งสินค้าได้ในวันถัดไป เนื่องจากปริมาณออเดอร์ค่อนข้างเยอะ ไม่สามารถจัดเตรียมได้ทันที วิธีนี้แหละครับ คัดกรองลูกค้าที่จะเอาจริงๆได้ ผมตีว่าประมาณ 70%+ ครับ ถ้าลูกค้ามั่นใจว่าจะโอนจริงๆเขาชอบอยุ่แล้วครับ อยากให้ส่งไว ถึงไว และเราก็รู้ได้เลยครับว่าเขายอมบอกก่อนคือต้องการของเราจริงๆ เพราะพวกที่มาหลอกถามจะไม่ค่อยยอมบอกข้อมูลส่วนตัวให้เรารู้หรอกครับ หรือพวกที่ยังไม่มั่นใจว่าจะโอนก็จะบอกว่า เดี๋ยวโอนแล้ว ค่อยแจ้งนะ อันนี้มีสิทธิ์ไม่โอนเยอะเหมือนกันครับ เพราะเขาตกลงซื้อเพราะความเกรงใจ แก้เขิน แล้วก็เงียบหายไปครับ
วิธีนี้สุดยอดมากๆ ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าใครจะเอาหรือไม่เอา
ลองเปิด 3 ร้าน ขายของเหมือนกันแต่คนขายคนละคนกัน
ลูกค้าบางคนทักทุกร้านบอกปัญหาและสิ่งที่ต้องการเหมือนกัน ถามคำถามเดียวกัน ถามอยู่ 3 ร้าน แต่ซื้อร้านที่ 2 อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันเอาอะไรตัดสินในการซื้อครับ
บางคนดีหน่อยบอกปัญหาอีกร้านให้อีกร้านฟังก็เอาไปปรับปรุงแก้ไข
ครับ เคยเจอลูกค้ามาปรึกษาเหมือนกันครับ มีปัญหา แล้วมาปรึกษาเรา แต่ไม่ซื้อนะครับ
บางคนมีเหตุผลบางคนก็สุดจะหาเหตุผล
สิ่งที่คนขายทำได้คือ
อย่าไปถามคำตอบคำ
ถึงจะบอกทุกอย่างไว้หมดแล้วในเวบ
แต่ถ้าเขาทักมาก็จงถามและตอบให้เข้าประเด็นเร็วที่สุด
นอกจากเป็นการกระตือรือล้นให้เขารู้สึกดีแล้ว
คนขายเองก็จะมองคนถามออกง่ายขึ้นด้วย
จริงครับ หาเหตุผลนั้นยากแท้หยั่งถึงจริงๆ ครับ อาจจะต้องทำวิจัยกันเลยทีเดียว ขอบคุณครับ
ผมมองว่า ลูกค้าที่ถามแล้วไม่ซื้อ เป็นเรื่องปกตินะครับ ถาม 10 คนซื้อ 1 คน ถาม 20 คน ซื้อ 5 คน ล้วนแต่ปกติ
ลูกค้าที่ถามมาก แสดงว่า มีความละเอียดในการเลือก อาจจะมีการเปรียบเทียบสินค้าในแบบเดียวกัน กับหลายๆร้านอยู่
ราคา คุณภาพ การพูดจา และ บริการ เป็นสิ่งที่ ถูกนำมาวิเคราห์ สำหรับลูกค้า ที่เรื่องมากครับ
เปลี่ยนลูกค้าที่ ถามแล้วไม่อยากซื้อ ให้สนใจในสินค้า
เปลี่ยนลูกค้าที่ถามผ่านๆ ให้เกิดการลังเล
เปลี่ยน ลูกค้าที่กำลัง ลังเล ให้มั่นใจในสินค้าและบริการ
เมื่อคุณทำได้ ก็ปิดจ๊อบครับ
ทักษะง่ายๆ แต่ทำยาก
error; [Classdemo:Autopost;true]
จริงครับ ผมถึงมาตั้งกระทู้นี่ไงครับ ฮ่าๆ
ประสบการณ์ของผมส่วนใหญ่ถามแล้วซื้อแทบทั้งนั้นเลยครับ ประมาณ 95% ได้เลยครับ
อาจจะเป็นเพราะว่าสินค้าที่จำหน่ายมีคู่แข่งไม่มาก ให้รายละเอียดครบ และราคาไม่แพง
ทำให้เค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายครับ
ส่วนกลุ่มที่ไม่ซื้อส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าผมตอบช้า บางทีไม่ได้อยู่หน้าคอม พิมพ์ในมือถือลำบาก
น่าอิจฉาจังเลยครับ
บางคนก็เข้ามาถามข้อมูลเพื่อไปเปรียบเทียบ อาจจะแพงกว่าเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ
อาจจะเป็นไปได้ครับ
บางคนถามเยอะ แต่ไม่ซื้อ ตัวนี้เจอบ่อยจริงๆ
ฮ่าๆ
ทักษะง่ายๆ แต่ทำยาก
ยากมากครับ
เจอบ่อยมากครับ คู่แข่ง แค่ถามก็รู้เลยว่า ไม่ได้มาซื้อแน่ๆ ถามเหมือนคนอยู่ในวงการเดียวกัน ฮ่าๆๆ
ก็แปลว่าสินค้าเรา ยังมีคู่แข่งที่มองไม่เห็นอยู่ครับ ลองตามหามันดูสิ
มองเห็นเพียบเลยครับ
บางทีอาจเป็น
สรรพากรมาเนียมถามก็ได้นะครับ
ก็อาจจะเป็นไปได้............. (เสียคนอวดผี)
จดบริษัทครับ มาเลยไม่กลัว
ปัญหาระดับโลก
ฝรั่งก็เป็นใช่ไหมครับ
ขอบคุณคำแนะนำ พี่ๆ ทุกท่านด้วยนะครับ
ผมตามอ่านมาหลายปี มีอะไรอยากถามเยอะมาก เสียดายมารู้จัก Thaiseoboard เขาก็จะเลิกเล่นกันหมดละ
เพิ่งจะได้สมัครกับเขา ถ้าผมรู้จักไวกว่านี้ ผมว่าผมคงรวยไปนานแล้ว เสียดายจริงๆ