ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeนักวิทย์หาความจริง โลกเกิดจากดาวอื่น?
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: นักวิทย์หาความจริง โลกเกิดจากดาวอื่น?  (อ่าน 808 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Saethao
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 152
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,274



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 02 ตุลาคม 2008, 15:00:27 »

นักวิทย์หาความจริง โลกเกิดจากดาวอื่น?



"แพน-สเพอร์เมีย" คือ ทฤษฎีที่เชื่อว่า โลกถือกำเนิดมาจากดาวเคราะห์ดวงอื่น โดยเซลล์ที่สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นในโลกติดมากับก้อนหิน ที่หลุดออกมาจากดวงดาว หรือแม้แต่ระบบดาวอื่น ซึ่งทฤษฎีนี้โด่งดังมากเมื่อราว 12 ปีก่อน ที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์สหรัฐ เสนอแนวคิดที่ว่า สะเก็ดดาวตกที่พบในแอนตาร์กติกาอาจมีร่องรอยฟอสซิลแบคทีเรีย ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่บนดาวอังคาร

เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีนี้ ดร.ฟรานเซส เวสทอล และคณะ จากศูนย์โมเลคูลาร์ไบโอฟิสิกส์ ประเทศฝรั่งเศส จึงทดลอง "สะเก็ดดาวตกเทียม" ขึ้น เพื่อดูว่า หินที่มีฟอสซิลแบคทีเรียและแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตอยู่ สามารถผ่านความร้อนสูงขณะที่หินตกลงมายังโลกได้หรือไม่

การทดลองทำโดย ติดสะเก็ดดาวตกก้อนเล็กๆ ที่มีความหนาขนาด 2 เซนติเมตร จำนวน 2 ก้อน ไว้ที่แคปซูลโฟตอนเอ็ม 3 ที่รัสเซียส่งขึ้นไปบนอวกาศเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และกลับลงมายังพื้นโลกในอีก 12 วันถัดมา ส่วนหินก้อนที่ 3 เป็นหินบะซอลต์ที่ติดไว้เพื่อเป็นตัวอย่างควบคุม

สำหรับหินก้อนแรก เป็นหินจากเมืองพิลบารา ประเทศออสเตรเลีย อายุ 3,500 ล้านปี และมีไมโครฟอสซิล ส่วนก้อนที่สอง มาจากหมู่เกาะออร์คนีย์ ของสกอตแลนด์ และมีร่องรอยทางเคมีของแบคทีเรียที่ตายไปนานแล้ว

ด้านหลังของหินทั้งสองก้อน นักวิทยาศาสตร์ได้ป้ายแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตอยู่ ชื่อ"โครออค็อกซิดิออพซิส" ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีชีวิตอยู่บนโลกนานแล้ว ทั้งยังเป็นแบคทีเรียที่ตายยากและรอดชีวิตแม้อยู่ในละอองความชื้นขนาดเล็ก โดยนักวิทยาศาสตร์เห็นว่า "โครออค็อกซิดิออพซิส" สามารถเป็นแบคทีเรียแทนที่แบคทีเรียจากดาวอังคาร เพื่อใช้ในการทดลอง

เมื่อแคปซูลโฟตอนเอ็ม 3 กลับลงมายังพื้นโลกด้วยความเร็ว 7.6 กิโลเมตรต่อวินาที หรือ 27,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พบว่า หินพิลบารามีคราบสีขาวครีมขนาดครึ่งมิลลิเมตรติดอยู่ ส่วนไมโครฟอสซิลยังอยู่เป็นปกติ

สำหรับหินออร์คนีย์ ขนาดของหินลดลงไปประมาณ 1 ใน 3 ส่วนแบคทีเรีย "โครออค็อกซิดิออพซิส" ที่ป้ายอยู่บนหินทั้งสองก้อนตายสนิท ส่วนหินบะซอลต์ก้อนที่ 3 สูญหายไปทั้งก้อน

ดร.เวสทอล เห็นว่า การทดลอง STONE-6 นี้ แสดงให้เห็นว่า ผลการทดลองที่ได้ค้านกับทฤษฎี "แพน-สเพอร์เมีย"

ปัจจุบัน เราพบว่ามีหิน 39 ก้อนบนโลกที่น่าจะเป็นหินจากดาวอังคาร ซึ่งหินทุกก้อนเป็นหินบะซอลต์ หรือหินภูเขาไฟ ไม่ใช่หินที่เกิดจากลม น้ำหรือแรงโน้มถ่วง

ที่มา : ข่าวสด

  Smiley
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ตุลาคม 2008, 16:42:04 โดย Saethao » บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์