กระทู้เก่าๆ ของผมเองครับ
หวังว่าจะมีประโยชน์
http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=345351.0 พอดีช่วงนี้กำลังเขียน EBook สร้างรายได้ง่ายๆ ด้วยการเขียนบทความภาษาไทย ยังไม่เสร็จหรอก 555+
เขียนมาถึงขั้นจะหาข้อมูลที่ไหนมาเขียนบทความ ก็เลยคิดไว้ว่า เอาส่วนนี้มาเเชร์เพื่อนๆ ดีกว่า
อย่าด่าผมล่ะ ผมรับมานาน อยากแชร์อะไรบ้าง ไม่แอดว้านส์หรอก พื้นๆ อ่านแล้วไม่ฉลาดขึ้น ก็ไม่โง่ลงแน่นอนครับ 555+ ล้อเล่นๆ อ่ะ เข้าเรื่องครับ
จะหาข้อมูลที่ไหนมาเขียน
เรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตกเลยนะครับ สำหรับคนทำงานเขียนบทความ ผมจะพยายามลิตส์ให้ได้มากที่สุดนะครับ
1. Google – ง่ายที่สุด แต่ก็มีคนทำมากที่สุดเช่นกัน เข้า Google พิมพ์ Keyword ที่ต้องการ มีบทความต้นฉบับเยอะแยะ นำมาเขียนได้เลย ข้อเสียอย่างหนึ่งคือมีคนเอามาใช้ซ้ำๆ กัน หลายครั้งแล้ว
2. หนังสือ นิตยสารฯ – ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลชั้นดีครับ ผ่านบรรณาธิการมาแล้ว เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง วิธีเข้าถึงข้อมูลจำพวกนี้ได้ดีที่สุดคือ หอสมุด ห้องสมุด ครับ
3. Youtube – ใช่ครับ เว็บไซต์ดูวีดีโอนั่นแหละครับ ลองพิมพ์ “วิธีทำผิวขาว” ดูสิครับ วีดีโอเพียบ เราก็แค่ฟังสิ่งที่เขาแนะนำ แล้วก็เขียน เรียบเรียงใหม่ อย่าไปพิมพ์จากคำพูดเขาทั้งหมดล่ะ เนียนๆ หน่อย
4. Webboard – ตรงนี้อาจจะ Advance หน่อยสำหรับมือใหม่ เพราะการอ่านกระทู้ถามตอบแล้วนำมาเขียนเป็นบทความนั้น ต้องอาศัยการฝึกฝนพอสมควร ลองดูตัวอย่างที่ผมเคยทำไว้ครับ
(ต้นฉบับ จาก Pantip)
มาเริ่มกันที่เทคนิคสำหรับ part reading part นี้ จะเป็นpart เดียวที่เรามีโอกาส ทำได้ ครบ 100 ข้อ โอกาสที่จะได้คะแนนจึงมีมากกว่า part reading
แต่ปัญหาคือ ฟังที่เค้าพูดไม่ออก...แล้วจะทำข้อสอบได้ยังไง!!!
เราฝึกตัวเราเองแบบนี้นะ
1.เวลาฝึกฟัง ห้ามใช้หูฟังเด็ดขาด เพราะเวลาอยู่ในห้องสอบต้องฟังจากลำโพง ต้องฝึกให้ชินไว้
2.ข้อสอบ 1 ชุด ฟังอย่างน้อย 3 รอบ
รอบแรก ฟัง และทำข้อสอบตาม จดบันทึกคะแนนที่ได้ เพื่อเก็บเป็นสถิติไว้
รอบสอง ฟัง และอ่านสคริปตาม เพื่อดูว่า แต่ละประโยค คำแต่ละคำเค้าออกเสียงยังไง รอบสาม ฟัง แบบไม่ดูสคริป แล้วเปิดสคริปตามทีละประโยค เพื่อดูว่า ที่เราฟังออก กับสคริปจริง มันตรงกันมั้ย
(ผมรีไรท์)
เทคนิคการสอบ TOEIC Part Reading
ปัญหาของหลายๆ คนที่พบในการสอบ TOEIC Part Reading ก็คือ ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เลยว่าข้อสอบกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ วันนี้เรามีวิธีง่ายๆ มานำเสนอกันค่ะ เผื่อว่าหลายๆท่านอยากลองทำตาม วิธีนั้นก็คือ การฝึกฟัง ฟังดูง่ายใช่ไหมคะ ที่จริงแล้วการฝึกฟังเป็นการฝึกที่ต้องใช้ทักษะเหมือนกันนะคะ เอางี้ค่ะ เวลาฝึกฟัง ให้งดให้หูฟัง เพราะในสถานการณ์สอบจริงๆแล้ว เราต้องฟังจากลำโพง ฉะนั้นฝึกให้ชินไว้
การฟัง ให้ฟังสามรอบ โดยรอบแรกฟังแล้วทำข้อสอบตาม จากนั้นรอบที่สองให้ฟังแล้วอ่านสคริปตามไปด้วย รอบสุดท้ายให้ฟังแบบไม่ดูสคริป เมื่อสงสัยจึงค่อยเปิดดูทีละประโยค ว่าตรงกับที่เราเข้าใจหรือเปล่า ฝึกแบบนี้บ่อยๆ นะคะ รับรองว่าสอบ TOEIC Part Reading ครั้งหน้า คะแนนกระฉูดแน่นอน
เห็นมั้ยครับ ดูไม่ออกเลยใช่มั้ย ว่ามาจากอันเดียวกัน อันนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนครับ ไม่ยากเกินความพยายามแน่นอนครับ
5. เว็บไซต์ของหน่วยงาน – สมมติว่าคุณจะเขียนเรื่อง โรคกระดูก เว็บไซต์โรงพยาบาลคือแหล่งข้อมูลชั้นยอด ไม่ต้องห่วงเรื่องความผิดพลาดของข้อมูลอีกด้วย ลองค้น Google ด้วยคำว่า “โรคกระดูก โรงพยาบาล” ดูสิ
บางครั้งก็เป็นแค่โฆษณาเท่านั้นนะครับ ว่าโรงพยาบาลก็มีบริการนี้นะ เราก็หาเอาที่เป็นบทความ มาจัดการ
6. ประสบการณ์ตรง – บทความท่องเที่ยวมักต้องการบทความที่เกิดจากประสบการณ์ตรง รวมถึงรูปถ่ายต่างๆ ด้วย เคยเจอรีวิวแหล่งท่องเที่ยวลงพันทิพมั้ยครับ นั่นแหละ ถ้าเอาไปขายได้หลายตังค์เลย เพราะประสบการณ์ล้วนๆ ภาพก็สวยๆ ทั้งนั้น บทความแนวนี้ยังสามารถอัพราคาขึ้นมาจากขั้นต่ำได้อีก 50-100 % เลยทีเดียว ไปเที่ยวครั้งหน้า อย่าเที่ยวแล้วเที่ยวเลยล่ะ หาตังค์ค่าตั๋วไปเที่ยวรอบต่อไปด้วยบทความของคุณกันดีกว่าครับ
7. เรื่องเล่า – เกร็ดชาวบ้าน นิทาน เรื่องเล่าที่ได้ฟังมา คำบอกเล่าต่างๆ เป็นเรื่องราวชั้นดี ที่นำมาเขียนเป็นบทความได้ครับ
8. แปลมาจากภาษาอื่นๆ – ถ้าความรู้ทางภาษาของคุณดี คุณสามารถอ่านแล้วเขียนในแบบของคุณได้ชิวๆ แต่ถ้าภาษาไม่แข็ง คุณก็สามารถใช้ Google Translate หรือ Baido Translate แปลคร่าวๆ ให้พอเข้าใจ แล้วเรียบเรียงออกมาใหม่ได้เช่นกันครับ