3.กฎหมายขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545
กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าทางออนไลน์ที่เข้าข่ายการ “ตลาดแบบตรง” ต้องจดทะเบียนการประกอบธุรกิจกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคก่อนทำการค้า
ข้อนี้ไม่ถูกต้องนะครับ ที่ว่าต้องไปจดทะเบียนกับ สคบ. นั้นเป็นธุรกิจประเภทขายตรง(MLM หรือจะเรียกว่าธุรกิจเครือข่าย) เพราะธุรกิจแบบขายตรงมันมีความสุ่มเสี่ยงต่อการยักยอกหรือหลอกลวงสมาชิก สังเกตง่ายๆการขายตรงที่ไม่เน้นขายสินค้าแต่มีสินค้าไว้เพื่อบังหน้าแต่จริงๆแล้วหารายได้จากการหลอกฟันเงินค่าสมาชิกพวกนี้คือธุรกิจแบบขายตรง ถ้าใครทำธุรกิจแล้วเข้าข่ายธุรกิจประเภทขายตรงต้องไปจดทะเบียนกับ สคบ. เพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่ใช่การหลอกลวง(ทั้งๆที่ก็หากินจากความโลภและความเขลาของสมาชิกนั่นแหละ)
ส่วนการขายของออนไลน์หรือที่เรียกว่าธุรกิจ e-commerce ไม่ใช่การขายตรง แต่เป็นการขายสินค้าที่ผลิตเองหรือซื้อมาขายไปผ่านระบบเว็บไซต์ การจะทำให้ถูกต้องคือไปจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจะได้การรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นเครื่องหมาย DBD ไปติดไว้บนหน้าเว็บ
ส่วนการค้าขายผ่านเฟสบุ๊คและช่องทางโซเชียลอื่นๆ ยังไม่มีการรับรองจากทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้านะครับ แต่คุณสามารถสร้างเว็บไซต์เพื่อไปขอจดทะเบียนได้
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ แต่ถ้าใครที่โดนก็เจ็บและจุกครับ ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.tdsa.org/content/485/1/ http://pantip.com/topic/30880788 http://pantip.com/topic/30990357 http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=331007.0 ผมมีข้อมูลเบื้องต้นมาพิจารณาตามนี้นะครับ
1. เรื่องที่ธุรกิจ e-commerce ต้องจดทะเบียนกับ สคบ. มีที่มาจากเอกสารที่เป็นบทความตามนี้ครับ >
http://www.ocpb.go.th/download/pdf/a8.pdf ซึ่งเป็นบทความที่เขียนโดย นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา โดยได้มีการอ้างอิง พรบ. พ.ศ.2545 (14 ปีที่แล้ว) ตาม link นี้ครับ>
http://www.ocpb.go.th/ewt_dl_link.php?nid=4648 ถ้าเท่าที่ผมอ่านก็ไม่มีอะไรระบุเกี่ยวกับ e-commerce แบบชัดเจน ผมจึงไม่ค่อยมั่นใจกับบทความของนายสุวิทย์ นะครับ (ติดไว้เป็นประเด็นสงสัยก่อนนะครับ)
2. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สังกัดอยู่ในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อำนาจหน้าที่(บางส่วน)คือ ดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคที่คณะกรรมการเห็นสมควร หรือมีผู้ร้องขอตามมาตรา 39 ...คือผมยังหารายละเอียดเกี่ยวกับอำนาจของ สคบ.ในการให้ธุรกิจ e-commerce (ที่ไม่ใช่ MLM) ต้องไปขึ้นทะเบียนไม่เจอ หรือถ้าดูใน พรบ. ปี พ.ศ.2545 ก็ไม่มีส่วนไหนที่ระบุชัดเกี่ยวกับลักษณะของธุรกิจที่เข้าข่ายตามบทความของนายสุวิทย์อ้างว่าเป็นลักษณะของ e-commerce นะ หรือถ้าใครอ่านเจอตรงไหนระบุให้ผมด้วยนะครับถือว่าช่วยๆกัน
3. ว่าด้วยเรื่องของการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ออกมาให้การรับรองและสนับสนุนการค้าออนไลน์เองก็ไม่ได้มีการแจ้งผู้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ว่าจะต้องจดทะเบียนกับ สคบ. นะครับ
4. ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสไปอบรมกับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตอนช่วงประมาณต้นๆปี 57 เพื่อดำเนินการขอเครื่องหมาย DBD verified (เป็นเครื่องหมายรับรองขั้นที่สูงกว่า DBD register ธรรมดา) ในการอบรมได้มีผู้เข้าร่วมอบรมตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นนี้เหมือนกันครับ ปรากฎว่าทางวิทยากรที่มาให้ความรู้เองก็แปลกใจนะครับ เพราะถ้าขืนต้องไปจดทะเบียนกับ สคบ. อีกก็คงจะวุ่นวายกันน่าดูอยู่เหมือนกัน
ผมคงยังไม่สรุปหรือฟันธงนะครับ เดี๋ยวว่างๆผมจะติดต่อเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของ สคบ. และกับเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เกี่ยวกับประเด็นนี้ เพื่อให้เกิดความกระจ่างและชัดเจนครับ ถ้าหากมีข้อมูลที่ถูกต้องจะนำมาบอกต่ออีกทีครับ