แรกๆ ก็ไม่ได้สังเกตอะไรครับ เพราะคิดว่า Facebook คงไม่ได้เอาเรื่องแบบนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงโฆษณา แต่ที่ไหนได้ มันกลับเอาเป็นส่วนหนึ่งในการเลือกโฆษณาขึ้นมาแสดงด้วย
ถ้าเรา (แอดมินเพจ) ออนไลน์บน Facebook ไม่ว่าจะอยู่บนหน้าจอคอมหรือบนมือถือ โฆษณามักจะแสดงดีเป็นพิเศษ หมายความว่า การแสดงโฆษณาจะดีกว่าตอนที่เราไม่อยู่หรือออฟไลน์ เพราะสิ่งที่จับสังเกตได้คือ คนทักมาเยอะ การกดไลค์ กดแชร์ หรือการคอมเมนต์ มีมาเรื่อยๆ การแจ้งเตือนบนเพจก็มีมาแบบถี่ๆ นอกจากนั้น ยังได้รับการแจ้งจากทางเฟซบุ๊คอีกด้วย
มันเหมือนกับว่า ถ้าคุณไม่ออนไลน์ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในเพจก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้น เฟซบุ๊คก็เลยอัดโฆษณาให้ในตอนที่คุณพร้อมในการให้บริการลูกค้า เฟซบุ๊คก็คงมีสถิติที่เก็บไว้ว่าเวลาแอดมินไม่อยู่แล้วกลับมาตอบลูกค้าทาง Inbox หรือคอมเมนต์มักจะไม่ได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลับมาก็เป็นได้
เพราะสิ่งที่ผมสังเกตก็คือ ถ้าตอบช้าลูกค้ามักจะหายไปเลย ส่วนน้อยที่ตอบกลับมา
การที่เฟซบุ๊คทำแบบนี้เหมือนเป็นการบังคับให้แอดมินต้องคอยดูหน้าจอตลอดเวลาซึ่งถ้ามองในแง่ดีคือ เราสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันทีทันใด มีโอกาสที่จะขายของได้หรือได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และลูกค้าเกิดความประทับใจในการบริการของเพจด้วย
ดังนั้น ถ้าไม่มีเวลาอยู่หน้าจอจริงๆ ไม่ควรลงโฆษณานะครับ นอกจากจะทำให้โฆษณารันไม่ดีแล้วก็อาจจะทำให้เราเสียเงินไปฟรีๆ ก็ได้ สำหรับผมแล้วจะลงโฆษณาในตอนเช้า 8-9 โมง แล้วปิดโฆษณาตอน 4 ทุ่ม แล้วตอนเช้าก็ค่อยมาเปิดใหม่
ตอนนี้การปิด/เปิดโฆษณาไม่มีผลกระทบต่อการรันโฆษณาแล้ว แต่สิ่งที่มีผลต่อการรันโฆษณาในตอนนี้คือ ถ้าโฆษณารันไปแล้วไม่ควรแก้ไขแคมเปญหรือโฆษณานะครับ