ผมทำมาแล้วสู้ความค่าใช้จ่ายไม่ไหว ลู่ทางลำบาก ไม่ว่าจะทำอะไร
ปัญหาก็เยอะ เราจะเจอปัญหาอะไร ที่คุณจะต้องรับได้
1 ปัญหารายได้ไม่มี แน่นอนเมื่อคุณยังไม่มีรายได้ เนื่องจากวิถีชีวิต ชนบทสมัยนี้ไม่ได้เหมือน 20 ปี่แล้ว ที่คุณอยากออกไปล่าสัตว์ หาปลาตามท้องทุ่ง บ้างที่เขาก็หวง ที่ไม่หวงคนก็หาแทบไม่เหลือ เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าจะไม่มีค่าใช้จ่าย จริงๆ ค่าใช้จ่ายแทบจะไม่ลดลงเลยหากคุณยังประหยัดไม่เป็น จริงๆการประหยัดพูดง่าย ทำจริงๆมันยากนะ เช่น คุณบอกว่าปลูกผักกินเองได้ ลองไปปลุกดู ถ้าใจไม่รักการปลูกผักจริงๆ คุณปลูกไม่ได้หรอก คุณบอกว่าเลี้ยงปลากินเองได้ แต่ถามตรงๆคุณขยันฆ่าสัตว์ เพื่อนำมาเป็นทุกมื้อไหม คิดดู ทุบหัวปลาทุกวัน วันละ 3 เวลา ถามตัวคุณก่อนว่าไหมหรือเปล่า ถ้าคุณไม่ฆ่ามันจะทนกินผักกับน้ำพริกได้สักกี่มื้อ แล้วถ้าคุณมีครอบครัว ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ลูกต้องใช้เงิน เมียก็ใช้เงิน อย่างน้อยๆวันละ 200 บาทต่อวันนะอย่างประหยัด เอาเป็นว่าจ่ายค่ากับข้าวมื้อเดียว เกินร้อย ของที่บ้านบางอย่างแพงกว่ากรุงเทพ
2 ปัญหาสุภาพ คุณจะต้องทำงานกลางแดดนานๆได้ เช่น การเตรียมดิน ปลูก ผักการใช้ปุ๋ย ทุกอย่างต้องลงทุน ลงแรง ถ้าคุณไม่ชอบ ไม่ใช่แนวยิงทำไม่ได้ผลกระทบต่อร่างกาย มือดำเล็บดำ ยิ่งกลัวดำยิ่งลำบาก และราศรีตก แน่นอน เวลาไปไหนมาไหนตัวดำๆ ต่อให้ใส่เสื้อผ้าดีแค่ไหน พูดจาดีแค่ไหน คนอื่นก็ยังดูถูกโดยเฉพราะหนุ่มๆ ที่ต้องการจีบหญิง บอกตรงๆลำบาก และผู้หญิงสมัยนี้เกลียดความลำบาก ล้านเปอร์เซ็น ผลกระทบต่อจิตใจ
3 ทุนหมด ผลผลิตไม่เป็นตามความคาดหมาย กู้หนียืมสินเพิ่ม ชีวิตเริ่มติดลบ หมดกำลังใจ จะหันไปทำอะไรได้ เมื่อทุกอย่างต้องลงทุนและรอเป็นเวลานานกว่าจะได้ผลผลิต กว่าจะได้ขายและขาดทุน วนเวียนซ้ำซาก เป็นหนี้ไม่จบไม่สิ้น ถ้าไม่ใช่แนวจริงๆไม่รักการปลูก จริงๆอยู่ยาก คนที่อยู่ได้เค้าใช้ชีวิตกันจนชินแล้ว มีพริกกินพริกมีเกลือกินเกลือดิ้นล้นไปช้า ใช้จ่ายอย่างประหยัด ข้อสังเกตุคนที่รวยๆในบ้านนอก มีแต่ข้าราชการ และคนที่มี ที่ดินมาก เรียกว่ารวยทรัพย์ เขาก็อยู่อย่างสบายใช้ชีวิตเหมือนในละคร
ที่กล่าวมาเป็นปัญหาพื้นๆ จะให้ลงรายละเอียดมากกว่านี้ผมคงไม่ไหวอธิบายไม่หมด เยอะมาก แต่คนที่ลงทุนแล้วประสบความสำเร็จก็พอมีแต่น้อยจริงๆ ผมมีเงินเป็น 10 ล้าน ลงทุนทำโน้นนี้นั้นสุดท้าย ทุนหายกำไลหด เป็นหนีอีก มันไม่ง่ายหรอกครับ เพราะทุกอย่างที่ทำต้องการความเอาใจใส่ และจริงจังอย่างมาก หากคุณปลอยปะละเลย ก็จะพลาดได้ตลอดเวลา เหมืนผม
ที่ผมเคยทำ ซื้อที่ 12 ไร่
แบ่งออกขุดบ่อเลี้ยงปลา 3 ไร่ ทำนา 5ไร่ ปลูกชืพผักต่างๆ 2 ไร่ สร้างโรงเลี้ยงจิงหรีด 2ไร่ เว้นจากทำนามีที่ว่างปลูกฝักทองบ้าง พริก ถั่ว ข้าวโพด บ้าง
ทั้งหมดนี้ ต้องจ้างลูกน้องด้วยทำเองไม่ไหว
เลี้ยงปลาต้องใช้หัวอาหาร เพราะทำแบบระบบธุรกิจ ค่าหัวอาหารแพงมาก มีปัญหาที่ตามมาน้ำเสีย ต้องเปลี่ยนน้ำ ทุกอาทิตย์ และเคยลองเปลี่ยนใช้อย่างอื่นแทนหัวอาหารปลาไม่โต เคยลองไปซื้อไก่เนาปลาตาย น้ำเสียเร็ว มีกลิ่มเหม็นไปทั่ว พอเลี้ยงครบ 4เดือนมีปัญหาเรื่องตลาด ปลาโตไม่เท่ากัน ตลอดจนพ่อค้าคนกลางกดราคาขายขาดทุน เลิกเลี้ยงถมบ่อทิ้งเลย
เลี้ยง จิงหรีด ใครว่าเลี้ยงง่าย ตอนทดลองเลี้ยง มันไม่ตายเพราะจิงหรีดไม่หนาแน่น แต่พอเอาจริงๆจัง ปัญหาจิ้งหรีดตายทั้งบ่อ จิิ้งหรีดไม่ได้น้ำหนัก ผมเลี้ยงจิ้งหรีด 100 บ่อ ขนาดบอ กว้าง 120 ซม ยาว 4 เมตรเป็นบ่อปูน สูง 1 เมตร ทำระบบให้น้ำอัตโนมัต สุดท้ายจนถึงปัจจุบันโรงจิ้งหรีด มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ทำเงินไม่ถึง2 หมื่น ต้องทีลูกน้องช่วยเลี้ยงอีก 2 คน คนงานก็ เปลี่ยนหน้าบ่อยๆ เพราะงานหนัก การจับจิ้งหรีด ซึ่งเป็นเรื่องน่าเบื่อ อากาศทั้งร้อนและเหม็นหัวอาหาร และขี้จิ้งหรีด จับจิ้งหรีดต้องมีกระบวนการอีก ไม่งั้นจิ้งหรีดเน่าเสียเร็วมาก ไหนจะมีปัญหาลังไข่ที่นำมาเลี้ยงจิ้งหรีด เป็นแหล่งเพราะพันธุ์ แมลงมุมนับล้านตัวในแต่ละบ่อ แมลงมุมเยอะมาก ต้องทำความสะอาดลังไข่กันก่อนนำมาใช้อีกครั้ง ซึ่งก็ทำความสะอาดยากมาก
พอแค่นี้ก่อนนะ 5555 ยังมีเรื่องปลุกผักอะไรอีกเยอะแยะ ผมทำมาอื้อเลย ทุนวันนี้จนครับ