Influencer marketing
Case Study: LuxHair360ผลสำรวจจาก Nielsen ประจำปี 2015 พบว่า 69% ของผู้บริโภครู้สึกวางใจที่จะซื้อสินค้ากับร้านค้าที่มีเว็บไซต์ หรือ Fan page ของตัวเอง แต่รู้ไหมว่าในขณะเดียวกันผู้บริโภคจำนวนมากกว่าถึง 84% ตัดสินใจซื้อสินค้่าจากการที่คนรู้จักแนะนำมากกว่า เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าสินค้าของคุณดี การมีเว็บไซด์ที่ดูน่าเชื่อถือแล้วทำ SEO หรือลงโฆษณาโปรโมตตัวสินค้าหรือแบรนด์เพียงอย่างเดียว อาจจะสามารถทำยอดได้น่าพอใจถึงระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สุด!
แล้วคนรู้จักที่ว่าในโลกออนไลน์ในขณะนี้ คงไม่มีใครจะมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคได้มากกว่าการใช้ Influencer ในวงการนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่นในวงการ Beauty เราก็อาจจะนึกถึงคุณหญิงแย้ ในวงการการเงินก็จะนึกถึงพี่หนุ่ม Money Coach หรือในวงการออนไลน์ก็จะนึกถึงพี่ตรี วรเศรษฐ์ เป็นต้น
วันนี้เรามาดูกรณีศึกษาด้วยตัวเลขจริง สถิติจริง ของการขายสินค้าชนิดหนึ่ง ซึ่งเราได้เลือก Influencer marketing เข้ามามีส่วนในการแนะนำสินค้า เพื่อเพิ่ม % การตัดสินใจของผู้บริโภคว่าจะมีประสิทธิผลมากน้อยแค่ไหน
เบื้องต้น เรามาทำความรู้จักกับตัวสินค้ากันก่อน สินค้าที่ว่านี้คือ Toppik ผงไฟเบอร์ปิดผมบางจากร้าน LuxHair360 ที่นำเข้าจากประเทศอเมริกา ราคาอยู่ที่ 2,590.- ต่อเซ็ท
ซึ่งสินค้าตัวนี้สามารถนับเป็นสินค้าในกลุ่ม Niche market ได้ เพราะกลุ่มเป้าหมายคือคนที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง ที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง จากที่ก่อนหน้านี้ทำตลาดด้วยการสร้างเว็บไซด์ที่ดูน่าเชื่อถือ มีการทำ SEO และลงโฆษณา Google Adsword เรามาดูกันดีกว่าว่ามีขั้นตอนอย่างไร และ Feedback ที่ได้รับกลับมาเป็นอย่างไรบ้าง ^^
ขั้นตอนการตัดสินใจเลือก Influencer ใน Influencer marketingหลังจากที่ทดลองขายมาซักระยะหนึ่ง เราพบว่าลูกค้าส่วนมาจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย จากการพูดคุยกับลูกค้าผู้หญิงหลายๆราย เราพบตรงกันว่าผู้หญิงหลายคนนั้นกัลวลกับผมที่บางลงเนื่องจากผมร่วงเพราะความเครียด การใช้แชมพูที่ทำให้ผมร่วง หรือปัจจัยอื่นๆเช่นอายุที่มากขึ้น เวลาแสกผมแล้วไม่มั่นใจ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะมีมากกว่าลูกค้าที่มีปัญหาผมร่วงหรือศีรษะล้าน เราเล็งเห็นว่าต้องมีผู้หญิงอีกมากมายที่กัลวลกับปัญหานี้ เลยอยากเจาะตลาดผู้หญิงให้กว้างขึ้น สิ่งแรกคือเรามองหา Influencer ที่เป็นผู้หญิงที่สามารถถ่ายทอดความกัลวลนี้อย่างเข้าอกเข้าใจ พร้อมนำเสนอความรู้สึกหลังจากที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์แล้วพบว่ามันเวิร์คอย่างไร
ซึ่งในครั้งนี้เราตัดสินใจเลือก Influencer ในวงการ Beauty คือคุณนิชา ซึ่งเป็น Beauty Blogger จากเพจ Nichacha Cuisine ที่มีแฟนๆตามอยู่ที่ 14K(ข้อมูลในวันที่ 9/7/58) ผมยาวสลวย ดูเผินๆไม่น่าจะมีปัญหาผมอะไร แต่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่มันใจในที่แสกผม เพราะรู้สึกว่าผมบางลง แสกแล้วดูเห็นหนังศีษระมากไป มาเป็นผู้ Review ผลิตภัณฑ์
และนอกจากนี้ คุณนิชาเป็น 1 ใน Sanook Beauty Blogger ที่เผยแพร่ผลงงานลงในเว็บไซด์ Sanook.com ซึ่งหากชื่อของสินค้าและ link เว็บไซด์ของ LuxHair360 ได้มีโอกาสลงใน Sanook.com ในแง่ของ SEO แล้วถือว่าคุ้มค่า เพราะ Sanook.com จัดอยู่ใน Community ที่ Google เห็นว่าเป็นเว็บที่มีคุณภาพมาก เมื่อมีการใส่ link ร้านของ LuxhHair360 จึงช่วยส่งผลการจัดลำดับของ Luxhair360 ถูกดันขึ้นมาให้ติดอันดับต้นๆ ในเวลาที่มีคนมาค้นหา Key words ที่เกี่ยวกับตัวสินค้าอีกด้วย
และนี่คือ Review Toppik แนะนำสินค้าและแชร์ประสบการณ์จากคุณนิชา จะเห็นได้ว่ามีการถ่ายรูปของสินค้า และอธิบายถึงชื่อ, วิธีการใช้ รวมถึงภาพ Before & After และที่ขาดไม่ได้คือช่องทางติดต่อของร้านค้า จะเห็นได้จากตัวเลขมุมขวาด้านบนว่ามีการแชร์บทความนี้ไปทั้งหมด 6.2K(ข้อมูลในวันที่ 9/7/58)
แล้วยอดขายล่ะเป็นไง? มาดูตัวเลขของคนที่เข้าเว็บกันก่อน
[/b]
จำนวนผู้เข้าชม
จำนวนครั้งที่คนเข้าแต่ละหน้า
ค่าการเข้าชมและการตีกลับ
Highlight อยู่ที่นี่!
Sanook.com มีเพจ Sanook Women ซึ่งทางเราได้สังเกตว่าหากบทความไหนที่น่าสนใจ และมีประโยนช์ เพจ Sanook Women จะทำการแชร์บทความนั้นลงเพจซึ่งมีลูกเพจปัจจุปันติดตามอยู่ที่ 145K(ข้อมูลในวันที่ 9/7/58) จากการคาดเดาแล้ว เราคิดว่าสินค้าของเราเป็นสินค้าที่ดี มีมาตราฐาน และช่วยแก้ปัญหาของผู้คนได้จริง ทางแอดมินของเพจ Sanook Women ไม่น่าพลาด และก็เป็นไปตามที่คาด ^^
สรุปในช่วง 2-3 ที่ผ่านมาหลังจากเพจ Sanook Women ได้แชร์บทความนี้ไปมีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 20 ออร์เดอร์ มีลูกค้าติดต่อเข้ามาทางไลน์ 52 คน โทรศัพท์ 8 คน และคลิกลงตระกร้า 6 คนกลยุทธ์ทั้งหมดทั้งมวลนี้มาจากประสบการณ์ที่ได้มาจากการที่ได้ลองถูกลองผิดในการทำร้าน Suay360 ให้ติดตลาดในช่วงแรก และได้รับคำปรึกษาแบบมืออาชีพจากบริษัทแห่งหนึ่งที่ถือเป็น Specialist และเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ Bloggers ซึ่งมี Bloggers ในสังกัดทั้งหมดหลายหมื่นคน ไม่รวมพื้นที่สื่อต่างๆและการทำงานแบบมืออาชีพที่ช่วย Support เจ้าของกิจการได้มากๆ
เรื่องมีอยู่ว่า
ในช่วงปีแรกที่โปรโมทร้าน Suay360 นั้นเราได้ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไปกับการเลือกใช้ Influencer ที่เข้าตา แต่ทางเราไม่ชำนาญที่จะเลือกสินค้าเหมาะแก่การให้เขาโปรโมต สินค้าไม่เข้ากับกลุ่มผู้ติดตามของเขามากพอ หากขาดปัจจัยบางอย่างเช่นนี้ ต่อให้เป็น Influencer ที่ดังๆก็ไม่ได้แปลว่าเมื่อพูดถึงสินค้าของเราแล้วจะทำให้ยอดขายเพิ่มได้ตามที่คาดคิด ก็งมอยู่พอสมควรว่าการเลือกใช้ Influencer ที่ใช่ 1 คนนี้มันต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง
และแล้ววันหนึ่งทางร้าน Suay360 ได้รับการติดต่อจากบริษัท Nuffnang Thailand ในการขอสปอนเซอร์สินค้าจำนวนหนึ่งเป็นของขวัญปีใหม่แก่เหล่า Bloggers ในสังกัด แลกเปลี่ยนกับการถ่ายรูปสินค้า และพูดถึงทางช่อง Social media ของ Bloggers ที่ได้รับของขวัญทุกคน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ทางเราได้มีโอกาสพูดคุย ปรึกษาว่าสินค้าและผลิตภัณฑ์ประเภทไหน ควรเลือกใช้ Influencer ท่านไหนบ้าง และมีหลักเกณฑ์ในการวัดผลอย่างไร ซึ่งคำแนะนำที่ได้รับกลับมานั้นบอกได้เลยว่าเป็นประโยนช์เหนือกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก เพราะนอกจากตัวเลขทางสถิติของ Bloggers แต่ล่ะท่านที่ทาง Nuffnang คอย Monitor ตลอดแล้ว ยังมีไอเดียในการจัดกิจกรรมโปรโมทสินค้าและบริการเก๋ๆ สนุกๆที่ช่วยคิดและวางแผนให้
แน่นอนว่าคุณนิชาที่เราได้กล่าวถึงในเบื้องต้นก็เป็น 1 ใน Bloggers ของ Nuffnang นั่นเอง
ทั้งหมดทั้งมวล ของการใช้ Influencer marketing ในครั้งนี้ที่นำมาบอกเล่ากันต่อ สามารถสรุปว่าได้ หากคุณเลือกใช้ Influencer ได้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และตรงตามกลุ่มเป้าหมายแล้ว โอกาสชนะในการลงทุนครั้งนี้มีมากกว่า 30% นอกจากนึ้ที่ต่างประเทศถึงกับมี Startup จัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ ชื่อ Niche.com คือเว็บไซด์ที่นำเสนอการจับคู่แบรนด์กับผู้มีอิทธิพลบน Social media ดังนั้น ไม่มีอะไรต้องกัลวล Let’s do it! ลงมือทำได้เลย!
ที่มา:
http://www.imwritingrich.com/influencer-marketing/ 
ความรู้ทั่วไป
