สังเกตุ ไหมครับ ทำไม ผมถึงทำระบบสต็อกให้มันยาก เพราะ
ถึงแม้สินค้า จะชนิดเดียวกัน แบบเดียว กับ การซื้อ เดือนนี้ กับ เดือนหน้า มันซื้อมา ราคาไม่เท่ากัน ครับ
db ก็เลย สินค้า แบบเดียวกัน แต่มีหลายราคา
และเวลา เบิก ผมก็จะเบิก แบบ เข้าก่อนออกก่อน หรือ fifo
เพราะเวลาไปทำรายงานผมว่า มันข้อมูลถูกต้องกว่า ตรงที่ว่า
วันนี้ เบิก สินค้าตัวนี้แหละ ของราคา อันถูกหรือ อันแพง ไปใช้ก่อน
เอาละ เรามาเข้าเรื่องเดิม อิอิ เรื่องการ เขียน check วนลูป ของ db กันครับ
พี่ท่านใด เก่งแนะนำ ด้วยครับ ท่านข้างบน ผม +1 ให้แล้วครับ
ส่วนตัวแล้วผมมองว่า การออกรายงาน คุณสามารถเขียนโปรแกรมให้มันออกมาง่ายได้นะครับ เพราะยังไงระบบมันก็ FIFO อยู่่แล้ว (นั่นหมายความว่า ถ้าสินค้าเหลือ 100 ชิ้น ก็นับจากการซื้อครั้งหลังสุดมาให้ครบ 100 ชิ้น ก็จะรู้ว่า สินค้าที่เหลืออยู่มีต้นทุนเท่าไรกันแน่)
ผมมองว่าการแยก record ของสินค้า เป็นการทำข้อมูลซ้ำซ้อน ถ้าจะแก้ไขอะไร (เช่น Description) ต้องมานั่งไล่ทุก record
ถ้าทำแบบนี้จะดีกว่าไหมครับ
1. สร้าง table เก็บว่าซื้อสินค้าเข้ามาเมื่อไร (เป็น table สั่งซื้อเข้าอย่างเดียว โดยมี id ของ table เอง, id ของสินค้า, ราคาที่สั่งซื้อเข้ามาในงวดนั้น) ซึ่งถ้าสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเมื่อไร ก็เก็บ record ไว้ทุกครั้ง
2. สร้าง table สินค้า เอาไว้บอกว่า สินค้า ชื่ออะไร รหัสอะไร มี description ว่ายังไง มี stock กี่ชิ้น
3. สร้าง table ใบสั่งซื้อของลูกค้าเรา แล้วก็เก็บข้อมูลการขายปกติ (ทุกใบสั่งซื้อ ก็สามารถไปหัก stock ได้เลย เพราะจำนวนทั้งหมดเก็บอยู่ใน ข้อ2 record เดียวอยู่แล้ว)
พอตอนออกรายงาน คุณค่อยมาเขียนโปรแกรม เอาใบสั่งซื้อมาเช็คว่าจริง ๆ แล้วกำไรเท่าไรกันแน่
ปล.จริง ๆ ผมว่าวิธีนี้ก็คือ วิธีปกติทั่ว ๆ ไปแหละนะ