กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน)
ต้นปีที่ผ่านมามีโอกาสได้ทดลองอะไรสนุกๆ
โดยส่วนตัวแล้วผมอยากเทสท์แบบนี้มานานละ แต่ปัจจัยหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย
หลักๆก็คือเรื่อง
1.เงินทุน(โดนตลอด เรื่องนี้)
2.โกดังที่ใช้ในการจัดการระบบ stock สินค้า
3.บุคลลากรที่รับผิดชอบในการดำเนินการ
หัวข้อที่อยากทดลองก็คือ
เมื่อคุมปัจจัยต่างๆให้เหมือนกัน ทั้งประเภทสินค้าที่ขาย ราคาสินค้า การรับประกัน ฯลฯ
มีอะไรบ้างที่สำคัญที่สุดเวลาลูกค้าจะทำการสั่งซื้อหรือทำให้ยอดขายต่างกัน
ช่วงปลายปีพอเริ่มโปร่ง ความพร้อมเรื่องเงินทุนก็พอมีและโกดังก็พร้อมใช้งาน
เลยจัดการจ้างคนเพิ่ม ขึ้นร้านเพิ่มอีก 4 ร้าน โดยใช้ stock กลางและพนักงาน 3 คนดูแล
1 คน / 1 ร้าน ยกเว้นคนที่ 3 ให้ดูแล 2 ร้าน
***
ต้นทุนคงที่ต่อ 1 ร้านค้า ในระยะเวลา 3 เดือน โทรศัพท์ android เกรดกลาง 1 เครื่อง : 7,000 บาท
ซิม + เติมเงิน (3 เดือน) 900 บาท
1 Email + 1 Line ID
ค่าจ้าง ไม่รวมค่าคอม 9k+12k+12k = 33,000 บาท/คน
***
ใข้เวลาเทรนเรื่องสินค้า การถ่ายรูป การทำรายละเอียดสินค้า 1 อาทิตย์
ใช้เวลาเทรนงานรูทีน คอนเซปต์คร่าวๆของการทำงาน
การตอบลูกค้าโดยจำลองจับคู่กันถามตอบ list ปัญหาเบื้องต้นที่ต้องเจอ
จัดการทำเพจลงสินค้าอีก 1 อาทิตย์โดยปล่อยให้ลองลุยกันเองไปก่อนโดยตามดูอยู่ห่างๆ (ห่างจริงๆนะบางวันผมหายหัวเลย)
จากนั้นใช้ Facebook ads อย่างเดียว โดยลง ads แบบแยกค่าใช้จ่ายกันและรันยาวไม่มีหยุดเพื่อเป็นปัจจัยในการวัดผลได้ภายหลัง
ผลที่ได้ตามนี้ครับ
สัปดาห์ที่ 1 เริ่มต้นได้ดี มีออเดอร์ทุกร้าน ให้ list ปัญหาประจำที่เข้ามาเป็นทำเป็น pattern การตอบลูกค้าเสริม
สัปดาห์ที่ 2 เริ่มเห็นผลต่างกันชัดเจนขึ้น แต่ยังวัดผลอะไรมากไม่ได้เนื่องจากมีปัจจัย ต้นเดือน ปลายเดือน จำนวนคนเห็นมาเกี่ยวข้อง
สัปดาห์ที่ 3 เก็บข้อมูลมาวิเคราห์พอครบรอบเดือนต้องปรับผลใหม่ (ตรงจุดนี้ต้องรอ 1 เดือนถึงจะประเมินได้เต็มที่)
สัปดาห์ที่ 4 ระหว่างยอด 48550 ของร้าน #1 และยอด 20480 ของร้าน #2 นั้นต่างกันมากเกิน % ของค่าใช้จ่าย ads
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ร้านที่ #3 และ #4 นั้นทำยอดขายได้ดีกว่าร้านที่ #2 ทั้งๆที่ยอด ads น้อยกว่า
ครบเดือนสรุปยอดมาก็มานั่งคุยกันถึงสาเหตุ และความเห็นของพนักงานที่จะมีส่วนช่วยปรับปรุงร้านและยอดขาย
ได้ข้อสรุปคร่าวๆเดือนที่ 1 คือ
จำนวน reach ร้าน #2 น้อยกว่า = คนผ่านหน้าร้านน้อยกว่าเพราะช่วงเวลาการโพสท์ทิ้งช่วงนาน เนื่องจากใช้เวลาในการตอบลูกค้านาน
ส่วนร้านที่ #3 และ #4 นั้นยอดที่เพิ่มมาเป็นยอดลูกค้ารายใหญ่ที่ไม่ถือเป็นยอดปกติ ประกอบกับ #3 และ #4 ได้ทำการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด
มีการจดสินค้าที่ขาดและแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อมีสินค้าเข้า
ทางแก้ไข
- ทำ pattern การตอบให้กระชับมากขึ้นและครอบคลุมหัวข้อต่างๆให้หมด
- เพิ่มการลงสินค้าใน Timeline Line ให้เท่ากับ Facebook Page
- เพิ่มการติดตามลูกค้าให้มากขึ้น
โดยให้จดชื่อทุกคนที่สนใจทั้งหน้าเพจและ inbox , line
และทำการติดตามผลทั้งหลังใช้สินค้าและการติดตามว่าสินค้า lot ใหม่เข้าแล้ว
แล้วก็เริ่มรันต่อเดือนที่ 2
ยอดเริ่มกระเตื้องขึ้นมามากสำหรับ #2 #3 #4 เนื่องจากการใส่ใจลูกค้าเยอะขึ้น บางช่วงยอดแซง #1 ที่ลง ads เยอะสุดในกลุ่ม
เดือนที่ 2 นี้มีส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือ การตั้งเวลาโพสท์ล่วงหน้า
เนื่องจากปกติแล้วเวลาทำงานของพนักงานจะหยุดทุกวันอาทิตย์
ทำให้ยอดสะดุดถ้าไม่มีการโพสท์ล่วงหน้าทิ้งไว้ดึงคน แม้จะลง ads ไว้ก็จะทำให้เห็นว่าร้านเราไม่ active
ผลตอบรับสำหรับเดือนที่ 2 นี้ ร้าน #3 มาแรงสุด ทั้งฟีดแบ็กจากลูกค้าและการสั่งซื้อซ้ำจากลูกค้าเก่า
สรุปผล 12 สัปดาห์
ผ่านเดือนที่ 3 ด้วยความพร้อมของพนักงานค่อนข้าง 100% โดยแต่ละคนเก่งขึ้น
ความสามารถเยอะขึ้น สามารถจัดการ stock สินค้า - จัดการลูกค้าได้แทบจะไม่พลาดเมื่อมีลูกค้าเข้ามา
มีหลุดเรื่องงานรูทีนบ้างเช่นพวกตั้งเวลาโพสท์ แต่ก็ปรับกันไปทุกวัน
ช่วงเดือนที่ 3 จะปรับถี่ ต่างจากเดือนที่ 1 เพราะไม่ใช่มือใหม่กันแล้ว
ผมต้องลงไปคุมดูวันต่อวันโพสท์ต่อโพสท์กันเลยทีเดียวบางวัน
ยอด ads ยอด like ไม่มีผลเท่าไหร่ ณ เวลานี้ เพราะแต่ละร้านจะมีกลิ่นเฉพาะของพนักงานแต่ละคน
(สำนวนการพิมพ์ สิ่งที่สื่อถึงลูกค้าแต่ละร้านจะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนกัน)
ตรงจุดนี้ทำให้ยอดแต่ละร้านต่างกันแม้จำนวน ads จะมากน้อยก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่นัก เฉพาะกรณีนี้นะครับที่สินค้าประเภทเดียวกัน ราคาเดียวกันจะเห็นได้ว่าร้าน #1 ยอดน้อยกว่าร้าน #2-3-4 ในบางสัปดาห์
โดยมีข้อแตกต่างกันดังนี้
#1 พนักงานชายตอบ เชียร์ไม่เก่ง ให้ข้อเท็จจริงเก่ง ลูกล่อลูกชนไม่ค่อยมี ตรงๆทื่อๆ (คือมันได้ประมาณนี้แหละ)
#2#3#4 พนักงาน ญ ตอบ เชียร์ของได้ มีจริตในการคุย
สรุปโดยรวม ads เป็นแค่การดึงคนเข้ามาหน้าร้าน
ส่วน % แปรผันของยอดขายนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการลูกค้าของทางร้าน ความเอาใจใส่ลูกค้า
เพราะตามตัวเลขที่เห็นนี้ การลงทุนที่คุ้มที่สุดเมื่อเทียบกับยอดที่ได้อาจจะเป็น #4 ก็ได้ครับ นี่ผ่านเดือนที่ 4 มาแล้วครับ ยอดดีขึ้นเพราะการลง ads แบบไม่ซ้ำเพจ
อันนี้ผมเห็นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานะ ผลดีขึ้นเยอะเลย กอปรกับพนักงานเก่งขึ้นมากๆเดือนนี้ น้องผู้ชายก็พัฒนาขึ้นเยอะ แบบเห็นได้ชัด
ส่วนการลดต้นทุนก็ให้ดูแลคนละ 2-3 ร้าน ศักยภาพพนักงานสบายๆครับ ทำงานเต็มที่ ออฟฟิศชิลๆ
ได้ค่าคอมเยอะขึ้นด้วย เนื้องานมันเหมือนเดิม
ก็มาเล่าสู่กันฟังครับ สำหรับการทดลองรอบ 3 เดือนที่เกิดขึ้น
step นี้ไม่ยากครับ ปั้นกี่ร้านก็ได้ ยอด 100 ล้าน 1,000 ล้านก็ x จำนวนไป มันเป็นไปได้ครับผม
มีอะไรจะเอามาแชร์ให้เพื่อนๆไทยเสียวอีกรอบ 6 เดือนครับ ขึ้นร้านใหม่ไว้อีกแผงนึงช่วงต้นปี อันนั้นอีกสไตล์นึง :-) /DePe
ความรู้ทั่วไป
