ต่อไป »

[x-script]

ใครคิดแบบผมมั่งว่าอีก 40 ปีข้างหน้า ecommerce จะมีผลกับชีวิตมากขึ้น100%

เพราะตอนนี้ถ้าถามค้าขาย ecommerce กับคนที่อายุ 60 70 80 คนพวกนี้ก็ไม่มีใครซื้อของบนเนต และใช้ it กัน

เพราะตอนนี้เราอายุ 20 กว่า อีก 40 ปีข้างหน้า เราก็จะอายุ 60  

ดังนั้น ฐานลูกค้าก็จะขยายถึงอายุ 60 ได้ ทำให้การซื้อขายเยอะมากขึ้น และพวกที่อายุ 60 ก็จะสอนให้ลูกให้หลาน

ซื้อของบนอินเตอร์เนต


ดังนั้นอีก 40 ปีข้างหน้าคนอายุ 60 ทุกคน จะใช้ it ได้โดยทั่วไป โดยไม่เหมือนยุคนี้ ที่คนอายุ 60 ยังใช้พวก it ไม่ได้ และไม่กล้าซื้อของบนอินเตอร์เนต

อีก 60 ปีข้างหน้า fb ก็จะมีฐานลูกค้าที่อายุ 60 70 80 เพิ่มมากขึ้นเยอะมากกก

อันนี้เป็นความคิดเห็นเบื้องต้น ^^ ใครมีแนวคิดคล้ายๆผมมั่ง

[kondam]

กว่าจะถึง 40 ปีข้างหน้า อาจจะมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นมากมายครับ 

[kidsza]

เห็นด้วยค่ะ 

[w_2005]

ผมว่าอีก40ปีข้างหน้า ยอดรวมของe-commerceอาจดท่ากับหรือมากกว่ายอดขายตามห้างหรือหน้าร้านครับ ส่วนfacebookผมไม่แน่ใจว่าจะอยู่ถึงตอนนั้นมั้ย

[ฟาร์มเฮ้า]

อีก 40 ปีข้างหน้าผมว่าการนั่งดูรูปภาพแล้วคลิ๊กไปซื้ออาจจะล้าหลังไปแล้วก็ได้ครับ สมัยนั้นมันน่าจะมีเทคโนโลยีที่แบบ เห็นของจริงได้ทุกมุม จับต้องได้ อาจจะเป็นแบบจำลองหรืออะไรสักอย่าง

[nonkungzacb]

น่าจะเป็นไปได้นะครับ แต่อนาคตข้างหน้าไม่รู้จะเป็นแบบไหน

[KaPong_Inter]

น่าคิด แต่ คงมีระบบ แปลกๆ หรือระบบเครือข่าย ใหม่ๆ เกิดขึ้นแน่นอน หุๆ 

[Minemelody]

ถึงตอนนั้น อาจจะมีอะไรมาแทนที่ fb ได้ 

[patcharapong]

แล้วเราจะยังขายถึงตอนนั้นหรือไม่ลำพังทุกๆวันนี่ก็ 

[chinchin]

20 ปีข้างหน้าอาจจะแข่งกันถึงขั้น ไม่ต้องเข้าเว็บแล้ว กด *1234 เด็กเซเว่นขับมอไซด์มาส่งถึงบ้าน มาช้ารับฟรีแบบพิซซ่าคัมบะนี

[ptteppawong]

อาจมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาตั้งมากมาย ..... ไม่ตั้ง 40 ปี หรอก  10-20 ปี ก็พัฒนาไปเยอะละ

[lanama]

40 ปีเลยเหรอ ถ้าไกลขนาดนั้นมันคงมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ การซื้อขายไม่น่าจะเหมือนตอนนี้แล้ว

น่าจะแบบแทบจะไม่ต้องเดินทางออกไปซื้อด้วยตัวเองอีก ทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะมาเกย หรือมาแบใส่หน้าคนซื้อ คือคนไม่ต้องก้มลงไปมองจอเล็กๆ แล้วจิ้มๆๆเองอีกต่อไป

อาจจะมีการสั่งซื้อด้วยเสียง หรือโค้ด แบบว่าอยากได้อะไรไม่ต้องโทร ไม่ต้องเปิดเว็บ แค่พูดออกมา แล้วเดี๋ยวระบบการสั่งซื้อทุกอย่าง มันจะวิ่งมาหาเราเอง 55555

[Oatekung]

ตอนนี้ก็มีผลกับผม มากละนะคับ ไม่ต้องรอ 40 ปี ข้างหน้าหรอกคับ -_-'
ลองถาม panicloset  , ลดความอ้วนปูนิ่ม โอ้โห ดูคับ พวกนี้ มีผลกะชีวิตเค้า 100% แย้ว

[Minemelody]

ตอนนี้ก็มีผลกับผม มากละนะคับ ไม่ต้องรอ 40 ปี ข้างหน้าหรอกคับ -_-'
ลองถาม panicloset  , ลดความอ้วนปูนิ่ม โอ้โห ดูคับ พวกนี้ มีผลกะชีวิตเค้า 100% แย้ว

ปูนิ่มน่าจะยังรวยปกติดีนะคะ 55555

แต่คนค้าขายใน fb ที่ต้องปรับตัวกันอย่างหนักจริงๆค่ะ 

[ninehax]

ชอบการวิเคราะห์ แบบนี้มากครับ 

[washiravit]

สมัยก่อนห้างสรรพสินค้าคือสุดยอด ตอนนี้เป็น E-commerce จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดคือ Internet ผมไปเดินหลายห้าง ปรากฏว่าร้างไปเลย
บางห้างนี้ไม่มีคนเดิน ไม่มีร้านค้า ปิดประตูเหล็กจนน่ากลัว

อีก 40 ปีข้างหน้า ถ้าโลกสามารถเก้าข้ามโลกอินเตอร์เน็ตไปได้อีกขั้น เป็นสิ่งที่ล้ำกว่า เหนือกว่า โหดกว่า เจ๋งกว่าอินเตอร์เน็ตขึ้นมา
E-commerce อาจจะประสบชะตาเดียวกันกับห้างสรรพสินค้าที่ทยอยปิดตัวในวันนี้ก็ได้

ปี 2007 โลกเข้าสู่ยุคสมารท์โฟน
ปี 2015 โลกเข้าสู่ยุคที่สิ่งของเกือบทุกอย่างเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้

หลังจากนี้ ไม่มีอะไรแน่นอนและคาดเดาได้อีกแล้ว

[x-script]

ในมุมมองผม ผมว่า 40 ปีการซื้อขายจะยังเหมือนเดิมครับ แต่มีเจ้าใหญ่ๆ และตลาดกลางโผล่ขึ้นมามากขึ้น

แต่เราจะได้ลูกค้าช่วงอายุปลายๆมากขึ้นครับ

เอาง่ายๆย้อนหลังไป สมัย 56k ก็ผ่านมา 10 ปีได้แล้ว การซื้อขายอะไรก็ยังเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนแนวทางไปโดยใช้ social ในการซื้อขายแทนมากขึ้น

เช่นปกติคนจะซื้อผ่านหน้าเวป ตอนนี้จะเป็นแบบคนแอดไลน์ เข้ามาซื้อหรือซื้อผ่าน fb


สำหรับ ผม ผมว่า ไม่มีอะไรมาแทน fb ได้แล้ว เพราะมองหาจุดอ่อนไม่เจอแล้วครับ ถึงจะมีอะไรเข้ามาจริงผมว่า fb เขาก็ไม่หยุดให้ คนใหม่เข้ามาได้หรอกครับ

เพราะฉนั้น fb สำคัญมาก ในอนาคต


ส่วนพวกเทคโนโลยี ตอนนี้มันเหมือนเป็นจุดอิ่มตัวแล้ว แบบ มัน max แล้ว จะให้เพิ่มไปอีกขั้น มันจะค่อยๆช้าลงแล้วครับ ใครพอนึกออกมั่งไหมครับ - -"

ถ้าจะให้เหนความแตกต่างของเทคโนโลยี ผมว่าต้องเล่นกันเป็นช่วงอายุคนครับ ผมเห็นรถเหาะได้ ไรงี้  ถ้าใช้เวลา 20 30 40 ปีอาจจะยังไม่เหนนะครับ

ผมมองว่าอีก 40 ปีข้างหน้า อาจจะมีรถแบบพวก smartcar เกิดขึ้นมาก็ได้ครับ แต่ยังไม่ถึงกลายพันธุ์มากเกิน ^^

[ซากุระไฮเปอร์]

คิดว่ามีผลแน่นอน แต่อาจจะไม่ 100% ค่ะ

[mypost]

40 ปี เวลาแค่นิดเดียวเองน่ะ คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่หรอก

[passsun]

internetกลายเป็นระบบพื้นฐานเหมือนไฟฟ้าหรือปะปา การซื้อขายผ่านเน็ตเป็นเรื่องปรกติ จนเหมือนการซื้อลูกชิ้นปิ้งรถเข็น ไม่ได้น่าตื้นเต้นอะไร เหมือนคนรู่นปู่ย่า ใช้รีโมทกดทีวีไม่เป็น แต่เราใช้จนเหมือนว่ารีโมทไม่ได้มีอยู่ ไม่ต้องกำหนดสติว่าต้องกดรีโมทปุ่มไหน
หรืออาจจะแย่ลงก็ได้ เกิดสงคราม ขาดแคลนอาหาร นับข้าวขายเป็นเม็ด คนรวยมีไม่ถึง5% ที่ครองโลก คนจนโดนสั่งงานทางเน็ต โดนด่าผ่านเว็บแคม เวลาจะกินข้าวทีต้องเอาแขนที่ฝังชิปไปสแกนแลกอาหารแะเครื่องดื่ม


พอก่อน...