คิดจะขายของออนไลน์...ต้องขอจดทะเบียนก่อน !ผู้ประกอบธุรกิจที่จะขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค เนื่องจากการซื้อขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต อยู่ในข่ายการประกอบธุรกิจ ‘ตลาดแบบตรง’ คือ การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทาง และมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ
ซึ่งตาม
พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องทำการจดทะเบียนกับทาง สคบ. ก่อนที่จะเริ่มประกอบการ เนื่องจากหากมีการร้องเรียนเกิดขึ้น เมื่อผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการสั่งสินค้าแล้วไม่ส่งให้ หรือสินค้าที่ได้รับไม่ได้มาตรฐาน และสินค้าชำรุดเสียหาย จะได้มีการตรวจสอบและติดตามผู้ประกอบการได้
หากร้านค้าออนไลน์ฝ่าฝืน ไม่ไปขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงกับทาง สคบ. ตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะต้องมาจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อออกเครื่องหมายการจดทะเบียนให้กับผู้ประกอบการ หากฝ่าฝืน ตาม
พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
เมื่อเสียรู้โดนหลอก ต้องทำอย่างไร ?ถ้าผู้บริโภคถูกหลอกลวงจากการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ ให้มากรอกแบบฟอร์มร้องเรียนที่ สคบ. หรือทาง
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือโทรสายด่วน สคบ. 1166 ทั้งนี้ ต้องมีการบันทึกภาพเว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อเป็นหลักฐานให้ สคบ. ดำเนินการตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่เป็นคดีอาญา ให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และมีการบันทึกภาพเว็บไซต์หรือหน้าเพจที่มีการประกาศขายไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี